แกนนำม็อบเสื้อเหลือง โต้ทำร้ายนักศึกษา - รมว.ศึกษาฯ ปัดรู้จักคนกลุ่มนี้

วันที่ 22 ต.ค. นายทินกร ปลอดภัย คนสนิทและหนึ่งในคณะทำงานของ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม รวมถึงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตมีนบุรี พรรคพลังประชารัฐ

เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าว เหตุการณ์ชุลมุนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเกิดจากกลุ่มคนเสื้อเหลือง ปะทะกับ เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนเสื้อเหลืองได้บุกไปพยายามทำร้ายกลุ่มนักศึกษา จนมีนักศึกษาหญิงทำหน้าที่พิธีกรได้รับบาดเจ็บ จากการถูกลำโพงทุ่มใส่

นายทินกร กล่าวว่า ตนในฐานะศิษย์เก่า ม.ราม ได้นัดกับกลุ่มเพื่อนเพื่อแถลงจุดยืนว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำกิจกรรมแบบนี้ ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เด็ดขาด

ภายหลังแถลงข่าวเสร็จ ได้มีกลุ่มนักเรียนและกลุ่มปลดแอกเดินมาชู 3 นิ้ว แล้วด่าว่าทางกลุ่มเราว่าไม่ต้องปกป้องสถาบัน จากนั้นก็เดินกลับออกไป จากนั้นกลุ่มปลดแอกได้ขึ้นปราศัยบริเวณหน้าตึกอธิการบดี ซึ่งตนมองว่ามีหนึ่งในผู้ที่ขึ้นปราศัยเป็นคนที่รู้จักคุ้นเคย เพราะเคยเรียนที่รามคำแหงมาด้วยกัน จึงแปลกใจว่าทำไมจึงออกมาต่อต้านสถาบัน จึงต้องการเดินเข้าไปสอบถามว่าทำไมทำแบบนี้

ตนไม่ได้มีเจตนาเดินเข้าไปทำร้าย แต่พบว่ากลับมีกลุ่มเพื่อนเดินตามมาด้วย เมื่อไปถึงจึงจุดเผชิญหน้าจึงเกิดการชุลมุนขึ้น

"ส่วนกรณีที่ข่าวบอกว่ามีการทุ่มลำโพงนั้น ผมไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยอมรับว่ามีการดึงสายลำโพงออกจริง ผมไม่ได้หาเรื่องใคร ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ถ้าหากใครมีหลักฐานก็ให้ไปแจ้งความได้ และพร้อมไปสู้กันในศาล"

ด้าน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เผยกรณีที่โชเซียลแชร์ภาพชายเสื้อเหลืองรายหนึ่ง ที่อาจจะเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของ นายณัฏฐพล เข้าไปทำร้ายนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา

นายณัฏฐพล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะถ้าใครรู้จักตนดีพอ จะทราบว่าถ้าเป็นคนสนิทของตนจริง ๆ ไม่ต้องมาให้ดอกไม้ กระเช้าผลไม้กับตน ฉะนั้นคนที่ปรากฎในภาพตนไม่รู้จัก ถ้าเป็นคนสนิทของตน ตนพร้อมจะยอมรับ

ขณะนี้มีคนนำข้อมูลเท็จมาสร้างความแตกแยกในสังคม มีความตั้งใจที่จะให้เด็กและเยาวชนมีความเกลียดชัง ต่อต้าน ศธ. ซึ่งที่ผ่านมาศธ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน และมีแนวทางชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งเตรียมการปฏิรูปพัฒนาการศึกษาไทยอยู่แล้ว

"ผมยืนยันว่า ไม่รู้จักชายคนดังกล่าว ผมเห็นภาพที่แชร์ในโชเซียลแล้ว และคิดว่าสิ่งนี้คือภัยสังคมในการสร้างข้อมูลเท็จ แล้วมาบิดเบือนเพื่อสร้างความเกลียดชังและสร้างความแตกแยก"

"การนำภาพ หรือข้อมูลเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีความผิดแน่นอน แต่รูปที่ออกมานั้น เป็นรูปผมจริง คือมีคนเอาของให้ผมจริง แต่ผมไม่รู้จัก และเอารูปมาโยงว่าผมอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ผมจะดำเนินคดีแน่นอน"