รบ.ประเมินม็อบ14 ตุลา มาแค่หลักหมื่น!ชี้เสื้อแดงไม่ร่วมชุมนุม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง รบ.ประเมินม็อบ14 ตุลา มาแค่หลักหมื่น!ชี้เสื้อแดงไม่ร่วมชุมนุม
ประเมินมาแค่หลักหมื่น! "แรมโบ้"ชี้เสื้อแดงไม่ร่วมชุมนุม 14 ตุลา ฮึ่มฟันเอาผิดกลุ่มหนุนม็อบ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ต.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล กรณีการชุมนุมประท้วงวันที่ 14 ต.ค.นี้ ว่าที่ประชุมจะให้นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้เปิดเผยรายละเอียด แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ใครคิดชุมนุมก้าวล่วงสถาบัน คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าร่วม และการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อก้าวล่วงสถาบัน
"ขณะนี้อดีตคนเสื้อแดงหรือแกนนำคนเสื้อแดงมีการยืนยันว่าจะไม่เข้าชุมนุม แต่ยังมีกลุ่มพรรคการเมือง เช่น อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ที่มีการปราศรัยในพื้นที่ต่างจังหวัดพยายามปลุกระดมให้คนมาร่วมชุมนุม จึงขอชี้แจงว่าไม่ควรมาร่วมชุมนุม เพราะจะเป็นการก้าวล่วงสถาบัน นอกจากนี้การชุมนุมจะทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้น ผมมีประสบการณ์มาแล้ว การชุมนุมไม่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น มีแต่ซ้ำเติมประเทศชาติ ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ประมาทกับการชุมนุมครั้งนี้จะดูแลทุกอย่างให้รอบคอบ ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม และป้องกันอย่างเต็มที่ไม่ให้มีมือที่สามมาสร้างความวุ่นวาย รวมถึงขอผู้ชุมนุมอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมายและรุนแรง"
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดทำการปกติ จึงขอให้ผู้ชุมนุมตระหนักถึงตรงนี้ด้วย และการก้าวล่วงสถาบันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ รวมถึงไม่ควรเข้าไปในสถานที่ราชการ จนทำให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตนขอบอกไว้ว่าชีวิตความเป็นแกนนำเหมือนตนที่สุดแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ถูกดำเนินคดีและในปัจจุบันแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนได้รับพระราชทานอภัยโทษ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ต.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล กรณีการชุมนุมประท้วงวันที่ 14 ต.ค.นี้ ว่าที่ประชุมจะให้นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้เปิดเผยรายละเอียด แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ใครคิดชุมนุมก้าวล่วงสถาบัน คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าร่วม และการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อก้าวล่วงสถาบัน
"ขณะนี้อดีตคนเสื้อแดงหรือแกนนำคนเสื้อแดงมีการยืนยันว่าจะไม่เข้าชุมนุม แต่ยังมีกลุ่มพรรคการเมือง เช่น อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ที่มีการปราศรัยในพื้นที่ต่างจังหวัดพยายามปลุกระดมให้คนมาร่วมชุมนุม จึงขอชี้แจงว่าไม่ควรมาร่วมชุมนุม เพราะจะเป็นการก้าวล่วงสถาบัน นอกจากนี้การชุมนุมจะทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้น ผมมีประสบการณ์มาแล้ว การชุมนุมไม่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น มีแต่ซ้ำเติมประเทศชาติ ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ประมาทกับการชุมนุมครั้งนี้จะดูแลทุกอย่างให้รอบคอบ ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม และป้องกันอย่างเต็มที่ไม่ให้มีมือที่สามมาสร้างความวุ่นวาย รวมถึงขอผู้ชุมนุมอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมายและรุนแรง"
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดทำการปกติ จึงขอให้ผู้ชุมนุมตระหนักถึงตรงนี้ด้วย และการก้าวล่วงสถาบันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ รวมถึงไม่ควรเข้าไปในสถานที่ราชการ จนทำให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตนขอบอกไว้ว่าชีวิตความเป็นแกนนำเหมือนตนที่สุดแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ถูกดำเนินคดีและในปัจจุบันแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนได้รับพระราชทานอภัยโทษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ด้านการข่าวมีใครให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้บ้าง
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ด้านการข่าวมีข้อมูลว่ามีอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. อดีตพรรคการเมือง ไปชักชวนปลุกระดมจะจ่ายค่ารถ ค่าเรือ ให้มาร่วมชุมนุม แต่หลายคนบอกว่าอยากได้เงิน แต่ไม่สามารถมาร่วมชุมนุมได้ เพราะรู้ว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เพื่อก้าวล่วงสถาบันจึงไม่เดินทางมากัน
เมื่อถามว่า สามารถเปิดเผยผู้ที่ชักชวนประชาชนได้หรือไม่
นายสุภรณ์ กล่าวว่า เป็นอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. รวมถึง ส.ส.ปัจจุบัน ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลซึ่งเรามีหลักฐานกำลังรวบรวมอยู่ ถ้าถึงขนาดเปิดเผยตัวบุคคลได้จะนำมาเปิดเผย และใครพบเห็นขอให้ถ่ายคลิปถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เราจะนำมาเป็นหลักฐานประจานว่าคนเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยุยงปลุกระดมให้ออกมาล้มล้างสถาบัน ส่วนเรื่องการดำเนินคดีจะว่าไปตามกระบวนการ ใครที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุนชักจูงคนที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุมมีการประเมินจำนวนผู้ชุมนุมว่า อาจจะผู้เดินทางมาชุมนุมหลักหมื่น และแผนเผชิญเหตุได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เสนอต่อที่ประชุม โดยให้ยึด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะเป็นหลัก ซึ่งมีข้อกำหนดห้ามเข้าใกล้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลในระยะ 50 เมตร
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น