สุดารัตน์ ชี้ฉีกบัตรไม่ใช่อารยะขัดขืน - ยัน ทรท.ไม่หวั่นไหว
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2549 13:10 น.
สุดารัตน์ ขู่อย่าใช้ อารยะขัดขืน ผิดวิธี ย้ำการฉีกบัตรเลือกตั้งเป็นการทำผิดกฎหมาย ระบุ ทักษิณ ไม่อยู่ร่วมประชุมใหญ่พรรคไม่ทำให้สมาชิกหวั่นไหว
วันนี้ (24 เม.ย.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนในภาคใต้แสดงอารยะขัดขืนโดยการฉีกบัตรเลือกตั้งว่า การแสดงออกในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกัน อยากให้แสดงออกในกรอบของกฎหมาย ถ้าเราแสดงอะไรที่ขัดขืนต่อกฎหมายมันไม่ใช่อารยะขัดขืน ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยการแสดงออกมาหลายวิธี แต่ไม่ควรที่จะเป็นตัวอย่างในการทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งในราชการ
ส่วนที่มีการพาดพิงกรณีพรรคใหญ่จ้างวานพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยังยืนยันว่าไม่มีแน่นอน การถูกปลุกปั่น ถูกใส่ร้ายเป็นเรื่องที่ต้องแก้ แต่ไม่มีแน่นอนการดำเนินการอย่างนั้น ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่นั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา เขาต้องพยายามเพื่อทำลายพรรคไทยรักไทย ทำทุกอย่างไม่ให้เปิดสภาได้ อย่างไรก็ตาม การทำทุกอย่างควรอยู่ภายใต้กฎหมาย และดำเนินการตามหลักเกณฑ์
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2549 พรรคไทยรักไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้มอบหมายให้ดำเนินการประชุมโดยแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 2-3 เรื่อง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ฝากเน้นให้กรรมการบริหารพรรคและ สมาชิกพรรค ได้ใช้ความอดทนและเสียสละในการทำงาน สามารถทำงานตอบสนองการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พร้อมขอให้ทุกคนใช้ความอดทนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มากๆ และให้มุ่งตรงในการแก้ปัญหากับประชาชนที่ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งท่ามกลางกระแสวิกฤต เพื่อให้เกิดความสงบสุข เกิดความสมานฉันท์ เพื่อมุ่งไปสู่การทำงานการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องความหนักแน่น เนื่องจากช่วงนี้มีกระแสโจมตีพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยไม่ร่วมประชุมจะทำให้ลูกพรรคหวั่นไหวหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราเข้าใจเพราะท่านไปทำงาน เป็นภารกิจที่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ
ด้านนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศเว้นวรรค แต่เดินสายพบผู้นำประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ว่า เรื่องนี้ต้องถามรัฐมนตรีต่างประเทศ เนื่องจากตนไม่ทราบ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปที่ไหนหรือติดต่อกับใครบ้าง และไม่รู้ว่านัยยะอะไรหรือไม่ ส่วนกรณีที่จะสร้างความงุนงงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำการเมืองระหว่างประเทศแบบไหน นายสุรเกียรติ ขอที่จะไม่ออกความเห็นในประเด็นดังกล่าว
สำหรับที่มีข่าวว่าประเทศมาเลเซียจะปล่อยคนไทย 130 คนกลับเมืองไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่รับทราบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเมื่อเช้าที่พบกับนายกันต์ธี ศุภมงคล รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็หารือกันเรื่องอื่น โดยหารือถึงเรื่องที่องค์การสหประชาชาติจะมาตั้งศูนย์มนุษยธรรมในประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ และเที่ยงนี้จะได้ทานข้าวกลางวันด้วยกันและจะสอบถามอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศสิงคโปร์ได้ออกมาชี้ว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นการออกมาพูดหลายครั้งแล้ว นายสุรเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และปฏิบัติราชการแทนนายกฯ เป็นผู้ดูแลและการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะหากทิ้งให้เนิ่นนานไปก็ไม่ดี ซึ่งประเทศสิงคโปร์ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและเคยเดินทางมาประเทศไทยสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อวิเคราะห์ทุกอย่าง ตนก็ได้รับฟังทุกอย่างที่เป็นประโยชน์และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ประเทศสิงคโปร์เป็นห่วงที่การแก้ไขปัญหาของประเทศเราไม่คืบหน้า นายสุรเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา ความจริงได้ร่วมมือกับสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด และที่เกรงว่าการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ไม่ประสบผลสำเร็จก็อาจจะกระทบเศรษฐกิจได้ เรื่องนี้ตนก็ยอมรับ เพราะปล่อยไว้นานก็ไม่ดี ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำอย่างเต็มที่อยู่แล้ว