โซเชียลแห่แชร์ เอกสารสู้คดี #เหมืองทองอัครา ใช้งบกว่า 111 ล้านบาท
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง โซเชียลแห่แชร์ เอกสารสู้คดี #เหมืองทองอัครา ใช้งบกว่า 111 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 ส.ค. แฮชแท็ก #เหมืองทองอัครา กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารงบประมาณปี 2564 โดยเป็นรายละเอียดระบุถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกต จากประเทศออสเตรเลีย
ในกรณีที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งปิดเหมืองทองอัครา เมื่อปี 2559 เหตุการณ์ที่อาจทำให้ไทยอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านบาท โดยเวลานี้ ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ ข้อพิพาทเหมืองทองอัครา คือกรณี ที่รัฐบาล คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 72/2559 สั่งระงับการอนุญาตและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวโดยต้องระงับการประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 เป็นต้นไป
ส่งผลให้ "บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด" บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย ผู้ชนะประมูล ที่ได้สิทธิสัมปทานการขุดเหมืองชาตรีใต้ (บริเวณรอยต่อ จ.พิจิตร , พิษณุโลกและเพชรบูรณ์) รวม 1,259 ไร่ ระยะเวลา 20 ปีที่จะสิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย.63 และได้ขยายพื้นที่ทำเหมืองที่ได้สิทธิสัมปทานเพิ่มเติมใน จ.พิจิตรเหมืองชาตรีเหลืออีก 9 แปลง พื้นที่ 2,466 ไร่ระยะเวลา 20 ปี
ซึ่งจะครบในวันที่ 20 ก.พ.2571 ที่มีบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด ที่เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกในประเทศไทย ที่ดำเนินการขุดเหมือง ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด บริษัทคิงส์เกตฯ เจ้าของสัมปทาน จึงได้นำเรื่องสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ตามข้อบังคับ UNCITRAL Arbitration Rules
ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทยออสเตรเลียหรือที่เรียกกันว่า TAFTA เพื่อให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายจากการปิดเหมืองเป็นจำนวนกว่า 3 หมื่นล้านบาทหลังจากเจรจากับรัฐบาลไทยแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุไว้เมื่อปี 2562 ว่าจะรับผิดชอบกับกรณีดังกล่าวด้วยตัวเอง
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น