เจอแล้ว! ครูตะคอก นร.-ยึดโบว์ขาว ผอ.แจงแทน

จากกรณีในโซเชียลมีเดียได้มีการส่งต่อคลิปพฤติกรรมของครูโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งกำลังต่อว่านักเรียนระหว่างการตรวจ โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง

ได้โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า "คุกคามสิทธิเด็ก ครูบอกอยากไปประท้วงก็ลาออกไป ครู ร.ร.แห่งหนึ่ง คุกคามสิทธิเด็กนักเรียน เรียกตัวนักเรียนที่ผูกโบว์มาลงโทษ" ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหน้าประตู จุดที่เกิดเหตุครูดุด่านักเรียน โดยครูที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บอกว่า มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงความห่วงใยของครูแก่เด็กนักเรียน และครูคนดังกล่าวเป็นคนพูดเสียงดัง ที่ทำไปเพราะความเป็นห่วงเด็กนักเรียน และได้ทำความเข้าใจกันแล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นักเรียนที่เดินทางกลับบ้าน ออกมาจากโรงเรียน

 โดยนักเรียนตอบว่าไม่รู้เรื่องและไม่ตอบคำถามใดๆ มีเพียงเด็กนักเรียน คนหนึ่ง อยู่ ป.6 บอกว่า ได้เห็นคลิปที่แชร์กันในโรงเรียน และรู้ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าที่จะพูด เพราะมีครูฝ่ายปกครองออกมายืนอยู่ด้านหน้า

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายสมชาย ประสิทธิชัย ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ก็ได้รับการเปิดเผยว่า เด็กที่อยู่ในคลิป เป็นเด็กชั้น ม.1 ผูกเชือกมาที่กระเป๋า พอดีครูมาเจอจึงเตือน แต่ว่าครูเสียงดังไปหน่อย ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการแจ้งผู้ปกครอง แจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีการตกลงกันหมดแล้ว ว่าเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไร เพราะเป็นเด็ก ม.1 ส่วนเด็ก ม.2 เด็ก ม.3 ไม่มีอะไรเลย

ส่วนครูคนดังกล่าว โดยส่วนตัวจะเป็นคนเสียงดังมาก ก็ได้ถามเด็กว่า ทำๆ ไม เด็กก็บอกว่าไม่รู้ เห็นเขาทำก็เลยทำตาม

ครูเลยบอกไปว่า สิ่งไหนที่ไม่รู้ รู้ไม่จริง อย่าไปทำตาม ไม่มีการทำโทษเด็กอะไรทั้งสิ้น มาถามดูได้ เพราะมีการเรียกผู้ปกครองมาคุย ผู้ปกครองก็ยอมรับว่าเด็กยังเล็กไป ยังไม่เข้าใจ และได้ปรับความเข้าใจแล้ว ส่วนคุณครูคนนี้เป็นครูเก่าแก่ อยู่โรงเรียนมา 30 ปี แต่ก็จะมีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น

ผอ.กล่าวต่อว่า พอมีการพูดคุยเด็กคนดังกล่าวก็ร้องไห้ บอกว่าหนูเข้าใจผิดไป หนูทำตามคนอื่น ก็ได้มีการบอกกล่าวกันไปว่าสิ่งไหนที่ยังไม่เข้าใจ ก็อย่าไปทำตาม เราไม่ได้มีการบอกว่า หนูอย่าทำนะ เราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ คุกคาม เพราะกระทรวงได้บอกมาแล้ว ทางโรงเรียนเราไม่มีทางทำอะไรอย่างนั้น