
‘พิธา’ก้าวไกล อ้างข้อเรียกร้อง นศ. พูดคุยได้ในระบอบประชาธิปไตย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ‘พิธา’ก้าวไกล อ้างข้อเรียกร้อง นศ. พูดคุยได้ในระบอบประชาธิปไตย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับเฟซบุ๊คแฟนเพจ "The101.world"
โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำวันที่ 10 ส.ค.2563 ที่มีการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้วบางช่วงมีการปราศรัยเรียกร้อง 10 ข้อ ซึ่งหลังจากนั้นมีผู้ใหญ่ในสังคม รวมถึงทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาเตือนว่าเป็นการก้าวล่วงจาบจ้วง และอาจนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด และอาจจบลงด้วยการรัฐประหารได้
นายพิธา กล่าวว่า ตนเห็นแย้งในเรื่องดังกล่าว โดยพรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่าจะต้องจบลงด้วยการนองเลือด หรือความรุนแรงเสมอไป เพราะความรุนแรงเกิดขึ้นจากผู้มีอำนาจ แต่หากผู้มีอำนาจมีปืนอยู่ในมือไม่คิดใช้ความรุนแรงกับอนาคตของตนเอง แต่เพิ่มความอดทนอดกลั้นที่จะไม่ใช่ความรุนแรงฆ่าคนต่างยุคต่างสมัย ประวัติศาสตร์ก็จะไม่ซ้ำรอย และจากที่มีการพูดถึงตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 10 ถึงเย็นวันที่ 11 ส.ค. 2563 ตนเห็นว่ายังสามารถพูดคุยถึงเรื่องนี้ได้อย่างมีสันติและสงบสุข หากพยายามที่จะยกระดับความอดทน (Develop Tolerance) ในการรับฟัง
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า 10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ถูกผู้ใหญ่มองว่าเป็นการจวบจ้วงนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าไม่ว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้ จะถึงเวลาหรือไม่ถึงเวลา ก็เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยได้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรทำคือนอกจากจะไม่รับฟังแล้วยังผลักคนกลุ่มนี้ออกไปจากพื้นที่ปลอดภัยโดยบอกว่าการพูดแบบนี้เท่ากับดูหมิ่นทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นอันตรายมากเพราะวันหนึ่งประเทศจะถึงทางตัน
ทั้งนี้ ตนเห็นความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจและน่าเศร้าอยู่ 3 เรื่อง คือ
1.มีการส่งสัญญาณว่าจะใช้ไม้แข็ง เช่น การจัดการกับนิสิต-นักศึกษา การจัดมวลชนมาปะทะกันหรือม็อบชนม็อบ ทั้งที่ยังมีเวลาในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้
2.พื้นที่ปลอดภัยของนิสิต-นักศึกษากำลังจะหมดลง ซึ่งเมื่อหมดลงย่อมเท่ากับเป็นการผลักลูกหลานให้ออกไปบนท้องถนน ออกไปสู่ทุ่งสังหาร ออกไปสู่อันตรายที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เป็นความจริงที่กระอักกระอ่วนใจแต่ก็ต้องยอมรับ
"Inconvenient Truth (ความจริงที่น่ากระอักกระอ่วน) ที่ 3 ที่เกิดขึ้นกับอุณหภูมิการเมืองไทยในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็คือจะมีการเอาข้อเรียกร้อง 10 ข้อของนิสิต-นักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ ยกมาเป็นเหตุเพื่อที่จะปฏิเสธ 3 ข้อเรียกร้องแรก (ยุบสภา-หยุดคุกคามประชาชน-แก้ไขรัฐธรรมนูญ) เพราะเขาตั้งใจที่จะปฏิเสธแต่แรกอยู่แล้ว" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ
โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำวันที่ 10 ส.ค.2563 ที่มีการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้วบางช่วงมีการปราศรัยเรียกร้อง 10 ข้อ ซึ่งหลังจากนั้นมีผู้ใหญ่ในสังคม รวมถึงทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาเตือนว่าเป็นการก้าวล่วงจาบจ้วง และอาจนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด และอาจจบลงด้วยการรัฐประหารได้
นายพิธา กล่าวว่า ตนเห็นแย้งในเรื่องดังกล่าว โดยพรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่าจะต้องจบลงด้วยการนองเลือด หรือความรุนแรงเสมอไป เพราะความรุนแรงเกิดขึ้นจากผู้มีอำนาจ แต่หากผู้มีอำนาจมีปืนอยู่ในมือไม่คิดใช้ความรุนแรงกับอนาคตของตนเอง แต่เพิ่มความอดทนอดกลั้นที่จะไม่ใช่ความรุนแรงฆ่าคนต่างยุคต่างสมัย ประวัติศาสตร์ก็จะไม่ซ้ำรอย และจากที่มีการพูดถึงตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 10 ถึงเย็นวันที่ 11 ส.ค. 2563 ตนเห็นว่ายังสามารถพูดคุยถึงเรื่องนี้ได้อย่างมีสันติและสงบสุข หากพยายามที่จะยกระดับความอดทน (Develop Tolerance) ในการรับฟัง
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า 10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ถูกผู้ใหญ่มองว่าเป็นการจวบจ้วงนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าไม่ว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้ จะถึงเวลาหรือไม่ถึงเวลา ก็เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยได้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรทำคือนอกจากจะไม่รับฟังแล้วยังผลักคนกลุ่มนี้ออกไปจากพื้นที่ปลอดภัยโดยบอกว่าการพูดแบบนี้เท่ากับดูหมิ่นทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นอันตรายมากเพราะวันหนึ่งประเทศจะถึงทางตัน
ทั้งนี้ ตนเห็นความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจและน่าเศร้าอยู่ 3 เรื่อง คือ
1.มีการส่งสัญญาณว่าจะใช้ไม้แข็ง เช่น การจัดการกับนิสิต-นักศึกษา การจัดมวลชนมาปะทะกันหรือม็อบชนม็อบ ทั้งที่ยังมีเวลาในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้
2.พื้นที่ปลอดภัยของนิสิต-นักศึกษากำลังจะหมดลง ซึ่งเมื่อหมดลงย่อมเท่ากับเป็นการผลักลูกหลานให้ออกไปบนท้องถนน ออกไปสู่ทุ่งสังหาร ออกไปสู่อันตรายที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เป็นความจริงที่กระอักกระอ่วนใจแต่ก็ต้องยอมรับ
"Inconvenient Truth (ความจริงที่น่ากระอักกระอ่วน) ที่ 3 ที่เกิดขึ้นกับอุณหภูมิการเมืองไทยในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็คือจะมีการเอาข้อเรียกร้อง 10 ข้อของนิสิต-นักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ ยกมาเป็นเหตุเพื่อที่จะปฏิเสธ 3 ข้อเรียกร้องแรก (ยุบสภา-หยุดคุกคามประชาชน-แก้ไขรัฐธรรมนูญ) เพราะเขาตั้งใจที่จะปฏิเสธแต่แรกอยู่แล้ว" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว