เปิดใจ!! 4 กุมาร ยันจากกันด้วยดี ชี้!ลาออกเอง เพื่อบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กลุ่ม 4 กุมารนำโดย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินทางมายื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้ไปไหว้ศาลพระพรหม ที่อยู่บนตึกไทยคู่ฟ้าและลงมาไหว้ศาลพระภูมิและศาลตายาย

จากนั้นทั้ง 4 คน ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน โดยนายอุตตม กล่าวว่า เราเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเวลาที่เหมะสมที่จะออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงประเทศชาติต้องเดินหน้าได้ เรื่องความคลุมเครือต้องหายไป ลดความกดดันทางการเมืองที่มีต่อนายกฯ ในช่วงเวลานี้ เกิดความชะงักในการบริหารบ้านเมือง เราออกออกเสียช่วงนี้ เพื่อให้ปรับคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกกดดันการเมือง เราคิดเราเอง เข้าใจว่านายกฯ ทราบแล้ว ถือว่าจากกันด้วยดี วันนี้สถานการณ์บ้านเมือง เราต้องช่วยกันดูแลประคับประคอง อนาคตของพวกเรา เราตั้งใจทำอะไรที่จะเป็นประโยชน์ให้บ้านเมือง ให้สังคม เราสามารถทำในสิ่งเหล่านั้นได้ อะไรเป็นประโยชน์พร้อมจะทำ

นอกจากนี้เราทั้ง 4 คนขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความไว้วางใจ ให้โอกาสมาทำงานให้บ้านเมือง มาระยะหนึ่ง มาทำงานกับท่าน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราได้มา ส่วนอนาคตทางการเมือง วันนี้ยังไม่ได้คิด พวกเรามีเหตุผลของเราในการลาออกเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ ในการบริหารบ้านเมือง ส่วนใครจะมารับหน้าที่ต่อ เราไม่ทราบได้ แต่เชื่อว่านายกฯมีความสามารถ เฟ้นหาคนที่มีความสามารถมาร่วมทีม

เปิดใจ!! 4 กุมาร ยันจากกันด้วยดี ชี้!ลาออกเอง เพื่อบ้านเมือง

อย่างไรก็ตามพวกเราได้ทำงานกันมา มีหลักการร่วมกันว่า เราไม่ยึดติดกับตำแหน่ง เมื่อได้รับโอกาสมาทำงาน แต่เมื่อหมด แล้วไม่เสียดาย ไม่ยึดติด ไม่ว่าใส่หมวกใบไหนเราก็งานให้บ้านเมืองได้

ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองยังไม่ได้คิด เราเดินการเมืองมาถึงวันนี้ ตั้งแต่ตั้งพรรค นำพรรคลงเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลจนถึงวันนี้ เรื่องความคิดตั้งพรรค พวกเรายังไม่ได้คิดในวันนี้ แต่พวกเรามีความพร้อมที่จะคิดเพื่อบ้านเมือง พักบทบาทการเมืองในขณะนี้ สิ่งที่เป็นห่วงที่สุด คือสถานการณ์บ้านเมือง เราไม่อยากเห็นการเมืองเป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนบ้านเมือง ช่วยให้บรรยายกาศบ้านเมือง พัฒนาปรับให้มีกลไกที่ ไม่ต้องคลุมเครือ ยินดีที่มีส่วนในการปรับเปลี่ยน