การเมืองร้อนฉ่า!บิ๊กตู่VSก้าวไกล ปมระวังตัวไว้บ้าง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง การเมืองร้อนฉ่า!บิ๊กตู่VSก้าวไกล ปมระวังตัวไว้บ้าง
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า
ยินดีกับคำกล่าวของท่าน เห็นยกไม้ยกมือกันใหญ่ นั่นก็เป็นความเห็นของท่าน ตนไม่เคยมองคนเห็นต่างเป็นศัตรู แต่มีบางคนมองกฎหมายเป็นศัตรูทุกกฎหมาย เรื่องตอบคำถามตนขี้เกียจตอบแล้ว เพราะตอบซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ทุกคนถือกระดาษเข้ามาแล้วก็พูดๆๆ พวกตนก็ตอบไป เดี๋ยวคำถามเดิมก็กลับมาอีก แล้วก็โจมตีแต่เรื่องเดิมๆ
ซึ่งตนรับฟังได้ไม่โกรธ ซึ่งงบเงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน ใช้ดูแลสาธารณสุข โรงพยาบาลทั่วประเทศ เครื่องไม้เครื่องมือก็อยู่ในแผน ส่วนงบเยียวยา 5.5 แสนล้านก็ใช้จ่ายเงิน 5 พันก็จ่ายไปแล้ว รัฐบาลไม่ได้ใช้เงินสักบาท ส่วนงบฟื้นฟู 4 แสนล้านก็เอามาใช้ให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเดินหน้าได้ พูดแล้วพูดอีกหัดฟังกันซะบ้าง ส่วนงบ 64 ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็สานต่อ มีการประชุมคอนเฟอร์เรนซ์กับต่างประเทศก็ทำอยู่ เรียนว่าความเห็นต่างตนรับได้หมด ขึ้นกับการหาข้อยุติ ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ต้องดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ไม่ต้องพูดถึงงบโควิดซึ่งมีอยู่ ไม่พอก็ใช้งบกลางได้ ทุกอย่างเราทำงานเป็นคณะที่เรียกว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ภาระเรามีอีกมาก ประชาชนยากจน รายได้ไม่เพียงพอ ความเหลื่อมล้ำแต่ความเหมาะสมอยู่ตรงไหนในเมื่อทุกคนต้องการเงินทั้งหมด แล้วให้ได้ทั้งหมดหรือไม่ นี่ถึงเรียกว่าการบริหารราชการที่เป็นไปได้ การลงทุนก็ค่อยๆ เดินหน้าไป เรามีทั้งวิกฤตและโอกาส เมื่อมีโควิดเกิดขึ้นก็ไม่มีคาดมาก่อน ผู้นำต่างประเทศก็เดือดร้อนหมด ต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน ทั้งนี้ งบลงทุนโลจิสต์ติกต่างๆ ต้องทำถ้าอยากจะเป็นเสือตัวที่เท่าไรก็แล้วแต่ แต่ไทยมีความได้เปรียบเรื่องเสถียรภาพเรื่องระบบเศรษฐกิจ ความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ทักษะแรงงาน เราต้องเดินหน้าอีอีซี เราต้องมาดูว่ารัฐบาลและนักการเมืองจะร่วมมือกันอย่างไรมากกว่าเอาอันใดอันหนึ่งมาตัดสิน ทุกภาคต้องได้รับการพัฒนา จังหวัดท้ายตารางถ้าพร้อมก็หางบให้ ไม่พร้อมก็สร้างคนก่อน ดังนั้นอย่าเอาทุกเรื่องมาสร้างความสับสนอลหม่านไปหมด ก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ถามประชาชนละกัน ตนถามของตน ท่านถามของท่าน ต่างคนต่างถามว่าเขาพอใจหรือไม่
"หลายคนพูดเก่งผมยอมรับ แต่อย่ามากล่าวหาว่าผมใช้กฎหมายกับผู้เห็นต่าง กฎหมายอยู่เฉยๆ ผมก็นั่งเฉยๆ ใครทำผิดต้องถูกลงโทษ ผมสั่งเขาไม่ได้หรือถ้าสั่งได้คงไม่เป็นแบบนี้ แต่ผมไม่ได้สั่ง ระวังตัวบ้างก็แล้วกัน
กฎหมายมีผลบังคับใช้กับทุกคน แม้กระทั่งผมก็ยอมรับกฎหมาย วันก่อนเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย กลับไปย้อนดู ความต้องการของประชาชนไม่มีวันสิ้นสุด ผมเข้าใจ แต่อย่าลืมว่าความต้องการของท่านมีอะไรได้รับการตอบสนองไปแล้วบ้าง พูดอย่างเดียวไม่ได้ ท่านต้องหาวิธี ไม่ใช่ใช้การท้าทาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้าน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงนายกฯว่า ที่นายกฯบอกว่าให้ระวังตัวนั้นจะต้องระวังตัวเรื่องอะไรบ้าง เพราะจะได้ตรียมตัว
ทำให้นายกฯ ลุกขึ้นตอบโต้ทันควันว่า จะพูดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ไม่ได้ ที่ตนบอกให้ระวังตัวคือระวังตัวในเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะทำผิดได้ ตนก็ระวังของตน ท่านก็ต้องระวังของท่าน ความหมายของตนคือแค่นี้ ไม่ได้ไปขู่อะไรท่าน เข้าใจไหม ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวอะไร เมื่อนายกฯพูดจบก็เดินออกไปจากที่นั่งทันที
นางอมรัตน์ สวนว่า หากมีคนข้างบ้านมาพูดกับดิฉันว่าให้ระวังตัวเอาไว้ ดิฉันก็ตีความได้ว่าเป็นการข่มขู่
ทำให้นายศุกภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เบรกว่า มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่
ทำให้นางอมรัตน์ สวนกลับว่า "อ๋อดิฉันเข้าใจผิดใช่มั๊ยคะ งั้นท่านนายกฯก็ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน"
นายศุภชัย ตอบโต้ว่า "อ๋องั้นก็แปลว่าต่างฝ่ายต่างบอกให้ระวังตัวก็ถือว่าจบแล้วนะ"
ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงประธานที่ประชุมว่า ขอให้ประธานควบคุมการประชุมให้เป็นไปได้ด้วยดี นายกฯ พูดพาดพิงและหันมาทางพวกตนหลายครั้ง พวกตนก็คนธรรมดา โดนขู่มากๆ ก็ตกใจ ขอให้ประธานควบคุมการพูดของนายกฯด้วย ทำให้นายศุภชัย ชี้แจงว่า ตนฟังอยู่ นายกฯพูดถึงให้ระมัดระวัง ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ตนไม่ได้ปกป้องนายกฯ แต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดซึ่งกันแล้วกัน
ทำให้นายกฯ ลุกขึ้นตอบโต้ทันควันว่า จะพูดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ไม่ได้ ที่ตนบอกให้ระวังตัวคือระวังตัวในเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะทำผิดได้ ตนก็ระวังของตน ท่านก็ต้องระวังของท่าน ความหมายของตนคือแค่นี้ ไม่ได้ไปขู่อะไรท่าน เข้าใจไหม ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวอะไร เมื่อนายกฯพูดจบก็เดินออกไปจากที่นั่งทันที
นางอมรัตน์ สวนว่า หากมีคนข้างบ้านมาพูดกับดิฉันว่าให้ระวังตัวเอาไว้ ดิฉันก็ตีความได้ว่าเป็นการข่มขู่
ทำให้นายศุกภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เบรกว่า มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่
ทำให้นางอมรัตน์ สวนกลับว่า "อ๋อดิฉันเข้าใจผิดใช่มั๊ยคะ งั้นท่านนายกฯก็ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน"
นายศุภชัย ตอบโต้ว่า "อ๋องั้นก็แปลว่าต่างฝ่ายต่างบอกให้ระวังตัวก็ถือว่าจบแล้วนะ"
ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงประธานที่ประชุมว่า ขอให้ประธานควบคุมการประชุมให้เป็นไปได้ด้วยดี นายกฯ พูดพาดพิงและหันมาทางพวกตนหลายครั้ง พวกตนก็คนธรรมดา โดนขู่มากๆ ก็ตกใจ ขอให้ประธานควบคุมการพูดของนายกฯด้วย ทำให้นายศุภชัย ชี้แจงว่า ตนฟังอยู่ นายกฯพูดถึงให้ระมัดระวัง ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ตนไม่ได้ปกป้องนายกฯ แต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดซึ่งกันแล้วกัน
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ลุกขึ้นเตือนสมาชิกว่า
วันนี้อภิปรายเป็นวันที่ 3 แล้ว อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่อยากให้ผิดใจกัน ขณะนี้เวลาในส่วนของครม.และพรรคร่วมรัฐบาลเหลืออีก 1 ชั่วโมง 50 นาที หักที่นายกฯได้อภิปรายไปแล้วด้วย ขณะที่ฝ่ายค้านเหลือเวลา 1 ชั่วโมง 17 นาที ยังไม่ได้หักที่มีการประท้วง
ทำให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม ที่ปล่อยให้นายกฯจิ้มไมค์แล้วพูดเลย เราจะประชุมกันแบบนี้หรือ ต่อไปนี้ใครก็ตาม อยากพูดอะไรก็กดไมค์แล้วพูดเลยแบบนี้ โดยที่ประธานไม่ตำหนิกติกาแบบใดพวกเราต้องเคารพ แต่อยู่ๆนายกฯกลับกดจิ้มไมค์แล้วพูดถือว่าไม่เคารพกติกา ไม่เคารพข้อบังคับสภา ทั้งที่ประธานมีหน้าที่จัดการประชุมให้เกิดความเรียบร้อย ควรเรียกนายกฯมาตำหนิว่าทำแบบนั้นไม่ได้ นี่คือหน้าที่ของประธาน
นายศุภชัย จึงชี้แจงว่า ความจริงตนติงนายกฯไปแล้ว ถ้าตั้งใจฟังตอนที่นายกฯพูดสวนขึ้นมา ตนก็ติงไปแล้ว แต่ตอนนั้นนางอมรัตน์ ยังอภิปรายต่อ ตนจึงปล่อยให้เขาอภิปราย ซึ่งความเป็นจริงตนพยายามยึดหยุ่นกับทุกฝ่าย ขอบคุณนายรังสิมันต์ และตนจะทำหน้าที่ให้เข้มแข็งกว่านี้ และถ้าตนเข้มแข็งก็อย่าโวยวาย จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายต่อไป
วันนี้อภิปรายเป็นวันที่ 3 แล้ว อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่อยากให้ผิดใจกัน ขณะนี้เวลาในส่วนของครม.และพรรคร่วมรัฐบาลเหลืออีก 1 ชั่วโมง 50 นาที หักที่นายกฯได้อภิปรายไปแล้วด้วย ขณะที่ฝ่ายค้านเหลือเวลา 1 ชั่วโมง 17 นาที ยังไม่ได้หักที่มีการประท้วง
ทำให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม ที่ปล่อยให้นายกฯจิ้มไมค์แล้วพูดเลย เราจะประชุมกันแบบนี้หรือ ต่อไปนี้ใครก็ตาม อยากพูดอะไรก็กดไมค์แล้วพูดเลยแบบนี้ โดยที่ประธานไม่ตำหนิกติกาแบบใดพวกเราต้องเคารพ แต่อยู่ๆนายกฯกลับกดจิ้มไมค์แล้วพูดถือว่าไม่เคารพกติกา ไม่เคารพข้อบังคับสภา ทั้งที่ประธานมีหน้าที่จัดการประชุมให้เกิดความเรียบร้อย ควรเรียกนายกฯมาตำหนิว่าทำแบบนั้นไม่ได้ นี่คือหน้าที่ของประธาน
นายศุภชัย จึงชี้แจงว่า ความจริงตนติงนายกฯไปแล้ว ถ้าตั้งใจฟังตอนที่นายกฯพูดสวนขึ้นมา ตนก็ติงไปแล้ว แต่ตอนนั้นนางอมรัตน์ ยังอภิปรายต่อ ตนจึงปล่อยให้เขาอภิปราย ซึ่งความเป็นจริงตนพยายามยึดหยุ่นกับทุกฝ่าย ขอบคุณนายรังสิมันต์ และตนจะทำหน้าที่ให้เข้มแข็งกว่านี้ และถ้าตนเข้มแข็งก็อย่าโวยวาย จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายต่อไป
รับชมคลิป
VVV
VV
VV
V
VV
VV
V
VVVV
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น