ยุทธตู้เย็นเปิดปากแฉโดนหักหลัง

เพื่อนร่วมครม.ยุทหาร เลิกกฎอัยการศึก11จว.ตรึงเชียงใหม่-บุรีรัมย์สั่งล็อกเพิ่มอีก3แห่ง

“ยุทธ ตู้เย็น” แฉโดนเพื่อนร่วม ครม. หักหลัง

คาบข่าวไปเป่าหูยุทหารทำรัฐประหาร กุเรื่องว่าก่อตั้งกองกำลังป่าไม้สู้ สะใจสุดท้ายโดนหลอก เผย ตชด. ใกล้ชิดถูกย้ายลงใต้ก่อนโดนลอบสังหาร ลั่นสู้ตายกู้รัฐบาลทักษิณคืนมา พปช.ชู “สมัคร” นั่งนายกฯ คนแห่ฟังนับหมื่น สมช. เห็นชอบยกเลิกกฎอัยการศึกอีก 11 จว. ไม่ปล่อย”เชียงใหม่-บุรีรัมย์” ตรึงเพิ่มอีก 3 แห่ง “หนองคาย-นครพนม-มุกดาหาร”

ฝ่าย “เนวิน”เรียกร้องผ่อนปรนอ้างเรื่องการเมือง

 “พล.อ.สนธิ” รอทางลมเข้าเจรจาหย่าศึก “บุญรอด”มั่นใจภาพรัฐบาลยังดูดี “พล.อ.สมเจตน์” เชื่อผลสอบองค์การแบตฯไม่จั่วลม “บิ๊กบรรณ”การันตี “ยี่ห้อบรรณวิทย์” ทส.แบไต๋ยังไม่มีงบสอบที่ดินเขายายเที่ยง “น้องแบม”กรี๊ดแถลงโต้ทิ้ง “ป๋าเติ้ง” ยันพร้อมใส่เสื้อชท.ลงเลือกตั้ง”บรรหาร”ปลอบส่งลงส.ส.แน่นอน

“ประชัย”ขายนโยบายเกษตร เกือบพลาดสะดุดเวทีล้ม

“ป๋าเหนาะ”ส่ง “กร” ลงชิงนายกฯ “นพดล”ชี้แจงหุ้นชินฯอ้าง “แม้ว”รวยมาก่อน ทนายแม้วขอเลื่อนยื่นเพิกถอนคตส.อายัดเงิน 500 ล. “คิงพาวเวอร์”ดิ้นยื่นคำร้องต่อศาลป้องกันถูกรื้อ แพทย์ทำบอลลูน 2 เส้นให้รองไพบูลย์ ผลน่าพอใจ

"บิ๊กบัง"รอดูทางลงสงบศึก


เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการทำความเข้าใจกับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิก สนช.ที่ยังไม่ยอมยุติเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรีว่า ตนยังไม่ได้หารือโดยตรงกับ น.ต. ประสงค์ เดี๋ยวสักพักพออากาศมันดูดีแล้ว มันอาจจะดีและง่ายขึ้น เมื่อถามว่า ภายหลังการอภิปรายรัฐบาลเสร็จสิ้นทุกฝ่ายควรหยุดการกวนน้ำให้ขุ่นและหันหน้าไปสู่การเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า โดยหลักการควรจะเป็นอย่างนั้น ระบอบประชาธิปไตยเมื่อทำตามรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วก็น่าจะยุติ

เมื่อถามว่า คิดว่าสถานการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร พล.สนธิ กล่าวว่า

ดีขึ้น ต้องช่วย ๆ กันนำสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาก็แล้วกัน เมื่อถามว่า ทางสมาชิก สนช.เขาก็ยังเคลื่อนไหวกดดันอยู่ รองนายกฯ กล่าวว่า ในนั้นถือว่าเป็นคนส่วนน้อยหรือส่วนมาก ถ้ามติของส่วนใหญ่นั้นคือความถูกต้องของระบอบประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวถามว่า จากวันนี้ไปจนถึงวันที่จะมีการเลือกตั้ง ไม่น่าจะมีอุบัติเหตุการเมืองให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มี

นายกฯมุ่งมั่นจัดเลือกตั้ง


เมื่อเวลา 11.30 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งว่า

คาดว่าภายในสัปดาห์นี้คงจะได้รับร่างฯจาก กกต. ภายในสัปดาห์หน้าคงจะนำเข้าสู่การประชุม ครม.ได้ทัน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายต้องการให้ยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด นายกฯ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้พล.อ.สนธิ ร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณา หลังจากนั้นก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวคำครหาที่มอบให้ พล.อ.สนธิ ซึ่งทำการรัฐประหารมาดูแลการเลือกตั้งหรือ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า

ตนคิดว่าพล.อ.สนธิ คงตระหนักดีว่าท่านจะทำอะไร แนวทางของรัฐบาลคือการสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ให้โปร่งใสและเป็นธรรม เรายืนอยู่ในจุดนี้อยู่แล้ว

มั่นใจภาพรัฐบาลยังดูดี

พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการเลือกตั้งว่า

 มาถึงบัดนี้ทุกอย่างคงเรียบร้อย โดย กอ.รมน.จะต้องเข้าไปช่วยในเรื่องนี้ ด้วยการเน้นการรณรงค์ให้คนออกมาใช้เสียงและป้องกันไม่ให้มีการซื้อสิทธิขายเสียง นอกจากนี้ทางกองทัพพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน กกต.และกระทรวงมหาดไทยในด้านการรณรงค์ เพราะเรามีสื่อวิทยุกว่า 200 สถานี ซึ่งทั้งสื่อของรัฐและทหารจะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องนี้

พล.อ.บุญรอด ยังกล่าวถึงการอภิปรายจริยธรรม คุณธรรมของนายกฯว่า

เชื่อว่าประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาลที่กำลังไป สู่การเลือกตั้ง การอภิปรายดังกล่าวจึงไม่น่าจะ ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล โดยเฉพาะคำว่านายกฯไม่มีคำว่าถอดใจ เพราะได้ชี้แจงทุกอย่างแล้ว รวมทั้งกรณีการถือครองที่ดินเขายายเที่ยง จ.นคร ราชสีมา และได้บอกว่าหากผิดก็พร้อมคืนให้ ส่วนเรื่องที่เป็นประโยชน์รัฐบาลก็จะนำมาแก้ไข
"สพรั่ง"ไม่ทิ้งเก้าอี้ปธ.บอร์ด

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานที่ปรึกษาสภากลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะลาออกจากทุกตำแหน่งทั้งในส่วนราชการทหารและประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจทุกแห่งนั้น ขอยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ในส่วนของตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหมที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ ถือเป็นงานหลัก จะยังทำหน้าที่ต่อไปแน่นอน

สำหรับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นั้น พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า

 ที่ผ่านมาได้เคยให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนชัดเจนแล้วว่าจะมีการลาออกหากได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ทบ.แต่หากไม่ได้รับการแต่งตั้งก็จะขอทำหน้าที่จนกว่าหลังการเลือกตั้งมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจจะมีการลาออกตามมารยาท เพื่อให้รัฐบาลใหม่สรรหาคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจชุดใหม่เข้ามาทำงานที่สอดคล้องกับนโยบาย ส่วนการที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ออกมาพูดเชื่อว่ามาจากการที่ตนเคยปรารภถึงปัญหาการทำงานในปัจจุบัน แต่ไม่ขอพูดถึงความเหมาะสมในการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.อ. บรรณวิทย์

เชื่อสอบแบตเตอรี่ไม่จั่วลม

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช. ในฐานะ ผอ.สำนักงบประมาณกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญรอด เตรียมตั้งกรรมการสอบสวนกรณีการทุจริตในการบริหารงานขององค์การแบตเตอรี่ ในสมัยที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เป็นประธานบอร์ดว่า เมื่อได้อภิปรายในสภาและส่งข้อมูลผ่านประธาน สนช.ไปยังรมว.กลาโหม ก็ถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว เชื่อว่า รมว.กลาโหมจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพราะหลักฐานมีน้ำหนักและสามารถตรวจสอบข้อมูลได้หมด เพราะเป็นข้อมูลทางราชการ ไม่ใช่ความลับอะไรทั้งสิ้น

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวต่อว่า

ส่วนผลการสอบสวนจะถึงขั้นเอาผู้กระทำผิดออกจากราชการได้หรือไม่ อยู่ที่กระทรวงกลาโหมจะดำเนินการสอบสวน ตนเชื่อในขีดความสามารถว่าเอา คนผิดมาลงโทษได้ ยืนยันว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่ได้ต้องการให้เกิดประเด็นทางการเมือง เพราะตนไม่ใช่นักการเมืองเป็นทหารอาชีพ เพียงแต่เมื่อพบเห็นความไม่ชอบธรรม ก็เอามาเปิดเผย ตอนที่อภิปรายก็ไม่ได้กล่าวหาใคร เพียงแต่ชี้ข้อสังเกตให้ ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ที่จะสอบสวนว่าการบริหารงานสมัยนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร

การันตี"ยี่ห้อบรรณวิทย์"

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า

ในการบริหารงานองค์การแบตเตอรี่ "ยี่ห้อบรรณวิทย์" ซื่อสัตย์ เป็นอันดับ 1 ไม่เช่นนั้นไม่มาตรวจสอบอย่างนี้ แต่ตนก็สงสัยว่า ในการอภิปรายรัฐบาลเกิดเรื่องนี้มาได้อย่างไร และอภิปรายในช่วงดึกที่หนังสือพิมพ์ปิดไปแล้ว แต่มี นสพ.ฉบับหนึ่ง ลงข่าว ซึ่งผู้บริหาร นสพ.นั้นก็เป็นเพื่อนกับ ปลัดกระทรวงกลาโหมข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม การยุบองค์การแบตเตอรี่ มีมาก่อนสมัยที่ตนเข้าไปบริหาร เราทำแบตเตอรี่ให้รถถัง และรถไฟ เมื่อมาถึงสมัยตนแล้วขาดทุนนั้น มติครม.รัฐบาลที่แล้วให้ขึ้นเงินเดือนพนักงาน 5% บวก 2 ขั้น เจอดาบสองเข้าไป เพราะ ครม.ชุดที่แล้ว ยกเลิกไม่ต้องให้ราชการซื้อผลิตภัณฑ์จากรัฐวิสาหกิจ องค์การ แบตเตอรี่ก็ยิ่งแย่

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวอีกว่า

ที่ กล่าวหาว่าตนบริหารงานขาดทุน ตั้งที่ปรึกษาเงินเดือน 8,000 บาท นั้นก็มีมาก่อนตนเข้ามาบริหาร และที่ว่าเอาเงินรับรอง 4 หมื่นบาทไปใช้ ระหว่างเสียเกียรติและเสียชีวิตตนยอมเสียชีวิต ยืนยันตนไม่มีการนำเงินรับรองไปใช้ ส่วนที่เลือก บริษัท ช.นั้นบอร์ดเป็นคนคัดเลือก ส่วนยอด เงินที่เขาส่งไม่ครบนั้น อยู่ระหว่างฟ้องร้องทำให้บริษัทยังจ่ายเงินไม่ได้ ที่ผ่านมาตนก็ได้เร่งทาง บริษัท ช. ส่วนการจัดงานครบรอบ 50 ปี เป็นเงิน 5 แสนนั้น พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวชี้แจงว่า การจัดไม่ใช่หน้าที่ประธาน

"ธีรภัทร์"รับชี้แจงไม่เต็มที่

นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และสมาชิก สนช. ได้ส่งเรื่องการครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงของนายกฯให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อว่า ที่ผ่านมาเคยมีการส่งเรื่อง ดังกล่าวให้ ป.ป.ช.สอบสวนเรื่องนี้มาแล้ว แต่หากคิดว่ามีประเด็นข้อมูลใหม่ก็สามารถทำได้ ยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่เพราะเวลามีน้อย และเป็นญัตติที่ สนช.พิจารณากันเองและก็มีบางประเด็นที่อภิปรายเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตามคงต้องมีการดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

เมื่อถามว่าการที่ สนช.ยังเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และเครือข่ายกลุ่มอีสานกู้ชาติได้เข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายกฯและ รมต.ที่เกี่ยวข้องจะกระทบกระเทือนต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะกระทบ เพราะ กระบวนการตามกฎหมายก็ควรจะเดินหน้าต่อไป เมื่อพิสูจน์สิทธิแล้วหากไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและมติ ครม. ทางราชการก็ต้องเพิกถอนและยึดคืน

ไม่มีงบสอบเขายายเที่ยง

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทน รมว. ทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ทส.เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบที่ดินบ้านพัก พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ว่า การประชุมครั้งนี้ได้หารือกับนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัด ทส. และนายวิชัย แหลมวิไล อธิบดีกรมป่าไม้ ให้เร่งตรวจสอบสิทธิของผู้ที่ครอบครองพื้นที่ในบริเวณเขายายเที่ยง รวมทั้งบ้านพักของนายกฯด้วย

นายยงยุทธ กล่าวว่า รับทราบว่าสาเหตุ ที่ล่าช้าเป็นเพราะไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ แต่การตรวจสอบดังกล่าวจะอยู่ในแผนงบประมาณปี 2551-2552 ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย. 2541 ที่ให้มีการตรวจสอบการครอบครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินป่าสงวนทั่วประเทศ ในเบื้องต้นมีทั้งสิ้น 23,000 ราย รวมทั้งของนายกฯด้วย โดยตนย้ำว่า จะไม่ยื้อเวลาเรื่องการตรวจสอบที่ดินเขายายเที่ยงอย่างเด็ดขาด

ยกเลิกกฎอัยการศึก11จว.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สนธิ บุญย รัตกลิน รองนายกฯ เปิดเผยหลังประชุมสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบในการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก 11 จังหวัด ประกอบด้วย ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร หนองบัวลำภู และอุดรธานี และประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนคือ หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร ขณะนี้ยังคงเหลือพื้นที่ที่ใช้กฎอัยการศึกทั้งหมด 27 จังหวัด 344 อำเภอ

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามที่ประชุม สมช.ได้วิเคราะห์การยกเลิกกฎอัยการศึก โดยมองที่ผลประโยชน์ของประเทศและภัยคุกคามที่เกิดขึ้นที่ขณะนี้มีหลายรูปแบบ ทั้งเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศลาว ที่มีคนหลบหนีเข้าเมืองค่อนข้างมากส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาวมากขึ้น

ยังกัก"บุรีรัมย์-เชียงใหม่"

เมื่อถามว่า จ.เชียงใหม่และบุรีรัมย์ ทำไมไม่มีการยกเลิก พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ทั้งสองจังหวัดถือว่ายังเป็นจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดน เมื่อถามย้ำว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองหรือเรื่องของความมั่นคง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เรา มองในเรื่องของปัญหายาเสพติดและการหลบหนีเข้าเมืองเป็นหลัก และการประกาศกฎอัยการศึกรวมทั้งนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ กกต.เราต้องพยายามแยกออกจากกัน

รองนายกฯ ยังระบุว่า สิ่งใดที่ไม่กระทบต่อความมั่นคง ถือว่าพรรคการเมืองต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้แต่อย่าให้ขัดกับระเบียบของ กกต. การประกาศกฎอัยการศึกไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการหาเสียงทางการเมือง อย่าเอามาปะปนกัน เราจะไม่ทำให้เรื่องการประกาศกฎอัยการศึกเป็นอุปสรรคต่อการหาเสียง ทั้งนี้หากสถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นก็จะค่อยลดลงและยกเลิกไปในที่สุด

เตรียมการเลือกตั้งต่างแดน

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.ได้ร่วมประชุมกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยและบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ถึงการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ครั้งที่ ผ่านมามีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรถึง 1.4 แสนคน ครั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและสำหรับคนไทยในต่างประเทศ ใช้สิทธิล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 22 ต.ค.-22 พ.ย. นี้ โดยขณะนี้ กกต.ได้เสนอร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งไปยังรัฐบาลแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้

"แบม"กรี๊ดหนูยังไม่ลาออก

ที่พรรคชาติไทย น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย แถลงข่าวปฏิเสธไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนรู้สึกงงกับข่าวความขัดแย้งกับหัวหน้าพรรคชาติไทยว่ามาได้อย่างไร ยอมรับตนหายไป 3 สัปดาห์ เพราะเดินทางไปดูงานรณรงค์การเลือกตั้งที่ประเทศสหรัฐตามคำเชิญของสถานทูตสหรัฐ หลังเดินทางกลับมาถึงเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ก็ยังเข้าประชุมพรรคในวันที่ 10 ต.ค.ตามปกติ ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นว่าหัวหน้าพรรคว่าตนไม่เข้าประชุม จะไม่ส่งลง ส.ส.เขตดอนเมือง ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ตนยังไม่ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค อยากให้ท่านพูดเองมากกว่า แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ยกหูไปรบกวนท่าน ยกเว้นมีเรื่องงานของพรรค

"ตราบใดที่องค์กรของพรรคชาติไทย ยังมีหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง คณะ กรรมการบริหารที่มีความเข้มแข็ง ทุกคนตั้งใจทำงาน และที่สำคัญหากพรรคยังเปิดโอกาสและสนับสนุนเหมือนเดิมก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องย้ายพรรค ถึงแม้จะรู้ว่าการลงแข่งขันในเขต กทม.ในนามของพรรคชาติไทยเป็นอะไรที่ยากมาก แต่ว่าก็ไม่หวั่นไหว ก็บอกให้หัวหน้าพรรคสบายใจ ว่าถ้าผู้ใหญ่สนับสนุนแบมก็พร้อมจะอยู่ตรงนั้น" น.ส.จณิสตากล่าว

เผยความสัมพันธ์ยังไม่ร้าว

อดีต ส.ส.คนสวยรายนี้ กล่าวอีกว่า ความสัมพันธ์กับพรรคและหัวหน้าพรรคยัง เหมือนเดิม ก่อนไปสหรัฐก็ยังได้เจอกับหัวหน้าพรรคและพูดคุยเรื่องพื้นที่และมองหาผู้สมัคร เป็นปกติดีไม่มีปัญหา และยังทำหนังสือแจ้งให้ ทราบถึงการเดินทาง สำหรับเรื่องการถูกทาบทามจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีมูลเลย ไม่มีการพูดคุยจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ถึงการไปลงพื้นที่เลย แต่เคยมีการพูดคุยทาบทามเล่น ๆ อันนี้มีตลอด เพราะอยู่ในสภาก็มีเพื่อนร่วมงานสนิทสนมกัน แต่ทุกคนก็มีจุดยืนของตนเอง และตนก็ลงสมัครพรรคชาติไทยแล้ว 2 ครั้ง

น.ส.จณิสตา ยังกล่าวต่อว่า รวมทั้งเรื่องการไม่ลงพื้นที่ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในเขตดอนเมืองตนจะมีสมาชิกสภาเขต ทีมงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นคิดว่าเรื่องทั้งหมดไม่รู้ว่ามาจากไหน ยอมรับว่าข่าวที่เกิดขึ้นค่อนข้างจะส่งผลลบเหมือนกัน คงทำได้อย่างเดียวคือชี้แจง เมื่อวานนี้เจอหัวหน้าพรรคก็ไม่ได้คุย แต่ท่านได้ให้ผู้อำนวยการพรรคโทรฯไปบอกว่าวันที่ 15 ต.ค.จะขอ เจอก่อนเข้าประชุมพรรค ซึ่งคงจะได้คุยกัน เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่น่าเป็นคนในพรรคปล่อยข่าว นา.ส.จณิสตา กล่าวว่า ตนก็มีประสบการณ์ เรื่องข่าวมาก จริงบ้างไม่จริงบ้างก็ไม่อยากไปยึดติดกับมัน แต่ก็เสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้น

"เติ้ง"ปลอบ"แบม"ส่งลงส.ส.

เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้ลงเขตหรือระบบสัดส่วนยังจะอยู่พรรคชาติไทยหรือไม่ น.ส.จณิสตา กล่าวว่า ต้องดูความสบายใจว่ามีอะไรให้อึดอัดใจหรือเปล่า ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง คงทำงานในพื้นที่ และเตรียมที่จะลงในนามพรรค เราก็หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยคิดอยากย้ายออกจากพรรคชาติไทยหรือไม่ น.ส.จณิสตา กล่าวว่า ไม่เคย เพราะไม่มีปัญหาอะไรที่สร้างความอึดอัด สิ่งที่ตนตัดสินใจว่าจะย้ายพรรคหรือไม่มี 2 องค์ประกอบ คือ 1.องค์กรมีความเข้มแข็งหรือไม่ 2.ผู้นำของพรรคเป็นอย่างไร

ขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าทางพรรคชาติไทยก็ยังส่งน.ส.จณิสตาลงสมัคร ส.ส.เขตดอนเมืองในนามพรรคชาติไทยคู่กับลูกชายของนางปวีณา หงสกุล ที่ปรึกษาพรรคฯ และก่อนที่ น.ส.จณิสตาจะไปสหรัฐก็ยังคุยกัน ได้ถามความสมัครใจเขาก็ยืนยันว่าจะลง ส.ส. ส่วนการเดินทางไปสหรัฐนั้นทางพรรคไม่ส่งคนไปเพราะเห็นว่าใกล้เลือกตั้ง แต่กรณีที่เกิดขึ้นคงติดต่อกันโดยตรง ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร วันเดียวกันนายบรรหาร ได้เดินทางไปจ.หนองบัวลำภู เพื่อเปิดสาขาพรรคพร้อมเปิดตัว ดร.อนงค์วิชญา สาริบุตร อดีต ส.ว.ว่าที่ผู้สมัครส.ส.หนองบัวลำภู และได้ปราศรัยกับประชาชนที่มารอต้อนรับ
"ประชัย"สะดุดเวทีเกือบล้ม

ที่อาคารทีพีไอ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงนโยบายการเกษตรของพรรคว่า พรรคต้องการให้ประชาชน และเกษตรกรมีชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดี จะมีการประกันราคาข้าวและสินค้าการเกษตร อาทิ ข้าวเกวียนละ 1 หมื่นบาท อ้อยตันละ 900 บาท ช่วยเหลือประชาชนที่โดนรังแกเรื่องที่ดิน หรือ หากมีปัญหาน้ำขาดแคลนจะสร้างฝายและขุดแม่น้ำ เพื่อให้เก็บน้ำได้ และส่งเสริมการขุดบ่อ 9 ล้านบ่อ ดูแลการพักหนี้ และประกันพืชผลและสัตว์เลี้ยงหากประสบภัยเช่นน้ำท่วม นโยบายขุดบ่อไม่เป็นการเพ้อฝัน โดยเราจะให้รถแบ๊กโฮ ใน 1 คัน ต่อทุก 600 ครัวเรือน และหากขุดเสร็จ ก็สามารถนำดินที่ขุดได้ไปขายต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายประชัยจะขึ้นมาแถลงข่าวปรากฏว่าได้เดินไปสะดุดเวทีและเอนตัวเกือบจะล้มลง และมีทีมโฆษกของพรรคมัชฌิมามาช่วยจับตัวพยุงไว้ก่อนที่จะล้มทันที ซึ่งนายประชัยถึงกับหน้าเสียทันทีและหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะขึ้นเวทีเพื่อแถลงข่าว

พร้อมอ้ารับ"สพรั่ง"ร่วมทีม

นอกจากนี้ นายประชัย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.สพรั่ง จะลาออกมาอยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า ตอนนี้ตนยังไม่ได้รับการยืนยันจาก พล.อ.สพรั่ง และไม่ทราบว่าท่านจะมา แต่ที่ผ่านมาตนก็พูดกับท่านด้วยความสนิทสนม แต่อย่างอื่นไม่ได้รับการยืนยัน พล.อ.สพรั่งเป็นคนเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ท่านเป็นคนมีศีลธรรมจริยธรรมที่ดี ไม่ว่าจะไปอยู่พรรคไหนเขาก็ยินดีต้อนรับ รวมถึงเราก็ยินดีต้อนรับท่านเช่นกัน

ขณะที่แกนนำพรรคมัชฌิมาธิปไตย เปิดเผยว่า สำหรับการทาบทาม พล.อ.สพรั่ง ขณะ นี้ทางพรรคกำลังเจรจาพูดคุย อย่างไรก็ตามทางพล.อ.สนธิ ก็มีความสนใจจะมาร่วมงานกับพรรคมัชฌิมา แต่ทั้งนี้คงจะต้องเคลียร์ปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่าง พล.อ.สนธิ กับพล.อ.สพรั่ง ให้เรียบร้อยก่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก หากพล.อ.สนธิมาอยู่กับพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทาง พรรคจะเสนอให้ พล.อ.สนธิ เป็น ส.ส.บัญชี รายชื่อเบอร์ 1

"เสนาะ"ส่ง"กร"ชิงนายกฯ

ที่พรรคประชาราช นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พร้อมด้วยนายกร ทัพพะรังสี ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่องเสนอตัวนายกรัฐมนตรี โดยนายเสนาะ กล่าวว่า ตนและคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเอกฉันท์ให้เสนอต่อประชาชนทั่วประเทศว่าในกรณีที่พรรคได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคจะสนับสนุนให้นายกร ซึ่งเป็นทายาททางการเมืองของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ และได้เคยสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยให้รุ่งเรืองเป็นที่ประจักษ์มาแล้วให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายเสนาะ กล่าวว่า ตนมั่นใจในตัวนายกรว่ามีความรู้ ความสามารถ อาจมีหลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องนายกร ผมอยากให้มองไปที่การเมืองในต่างประเทศอย่าง บิล คลินตัน และจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ถูกเสนอชื่อเป็นประธานาธิบดี ตรงนี้พรรคประชาราชจะบริหารประเทศด้วยบอร์ดของพรรค ดังนั้นหากในอนาคตเกิดความไม่ดีไม่งาม ตั้งแต่หัวหน้าพรรคไปจนถึงบอร์ดทุกคนก็จะต้องรับผิดชอบ

"มาร์ค"นำทัพขึ้นที่ราบสูง

ที่วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานคณะกรรมการการเมืองภาคอีสาน ได้จัดงาน "ประชาธิปัตย์คืนถิ่นอีสาน" โดยมีสมาชิกสาขาพรรคในภาคอีสาน และประชาชน รวมกว่า 400 คน ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตผู้สมัคร ส.ว.กรุงเทพฯปี 2549 ได้มาร่วมงานนี้ด้วย โดยนายบุญยอด กล่าวยอมรับว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

สำหรับบรรยากาศภายในงานดังกล่าว ได้มีการประกอบพิธีบังสุกุลเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพชนผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต ที่เป็นชาวอีสาน จากนั้นได้ประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำพิธีฝากเนื้อฝากตัวพรรคประชาธิปัตย์ต่อประชาชนชาวอีสาน

เผยปชป.เจรจาทาบ"แบม"

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้ทาบทามพระเปรมศักดิ์ เพียยุระ มาลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากลาสิกขา ล่าสุด พระเปรมศักดิ์ได้ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคชาติไทยแล้ว ส่วน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว.อุบล ราชธานี จะมาลงสมัคร ส.ส.อุบลราชธานี ใน นามพรรคประชาธิปัตย์นั้น ล่าสุดได้เปลี่ยนไปอยู่กับพรรคมัชฌิมาธิปไตยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แหล่งข่าวพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า มีอดีต ส.ส.ของพรรคที่มีความสนิทสนมกับ น.ส.จณิสตา ได้ชักชวนให้มาทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเกิดกระแสความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในพรรคชาติไทย โดย น.ส.จณิสตา ขอไปพูดคุยกับนายบรรหารก่อน นอกจากนี้ พรรคเคยมีการพูดคุยกับ พล.อ.สพรั่ง โดยระบุว่าจะต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคแบบไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ พล.อ.สพรั่งเสนอว่าถ้าหากจะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะขอพาเพื่อนนายทหารระดับสูง เช่น พล.ร.อ.บรรณวิทย์ และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เข้าร่วมด้วย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย ซึ่งทำให้การทาบทาม พล.อ. สพรั่งเข้ามาทำงานการเมืองต้องยุติลง

พปช.ปราศรัยสนามหลวง

ที่สนามหลวง เวลา 16.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมสมาชิกและแกนนำร่วม 300 คน อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขา ธิการพรรค พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำคนสำคัญของพรรคไทยรักไทย และยังมีกรุง ศรีวิไล นักแสดงรุ่นใหญ่ นายสายัณห์ สัญญา นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังร่วมขึ้นเวที ท่ามกลางประชาชนร่วม 1 หมื่นคนที่เฝ้าจับจ้องรอฟังการปราศรัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรคพลังประชาชนได้ตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่บริเวณกลางท้องสนามหลวง หันหลังให้วัดพระแก้ว ฉากหลังเวทีติดป้ายข้อความสีขาวขนาดใหญ่ระบุ "พรรคพลังประชาชนพบประชาชน" นอกจากนี้ ได้มีการกางเต็นท์รับสมัครสมาชิกพรรค และจำหน่ายของที่ระลึก อาทิ เสื้อยืด หมวก กระเป๋า และได้มีการแจกธง เอกสารนโยบายของพรรคและซีดีบันทึกคำสัมภาษณ์ของนายสมัครให้กับ ผู้เข้าร่วม สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจาย กำลังโดยรอบสนามหลวง ทั้งนี้ เมื่อนายยงยุทธ พบหน้า เป๋ คลองเตย ผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชนในพื้นที่คลองเตย ได้เข้าไปสวมกอดพร้อมระบุว่า คนนี้รักมาก คิดถึงมาก

พกของดีสกัดฝน

นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มการปราศรัยว่า ครั้งนี้ไม่ใช่การหาเสียงแต่เป็นการเปิดตัวพรรคพลังประชาชน หลังได้รับการรับรองจาก กกต. ซึ่งจะพูดคุยปัญหาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาว่ามีอะไรบ้างและ 5 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามตนขอขอบคุณกกต.ที่ตัดสิน ว่าตนเองและนายเนวิน ไม่ได้กระทำการที่ขัดขืนต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญจากการขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.บุรีรัมย์ การจัดงานครั้งนี้กังวลใจอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องฟ้าฝน แต่ตนพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาด้วยเป็นพระพุทธรูปวัดสุทธาราม เขตฝั่งธนฯ ที่หลวงพ่อฉิมเป็นผู้ปลุกเสก ซึ่งตนจะใช้วิธีการเช่นนี้ทุกครั้งในการหาเสียงตั้งแต่อยู่พรรคประชากรไทย

ส่วน นายเนวิน กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกในจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะตนสามารถยืนยันได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความมั่นคง การยังคงกฎอัยการศึกไว้เป็นเรื่องที่ให้ประโยชน์ในทางการเมืองมากกว่า

"ยุทธ"ปูดเกลือเป็นหนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคพลังประชาชนได้สลับขึ้นพูดคนละประมาณ 10 นาที เนื้อหาโดยรวมเป็นการพูดถึงความผิดหวังในผลงานของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และยืนยันว่าหากพรรคพลังประชาชนได้รับเลือกเป็นรัฐบาลจะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับคืนมา พร้อมสานต่อนโยบายประชานิยมของพรรคไทยรักไทย พร้อมชูนายสมัคร เป็นนายกฯ ส่วนไฮไลต์อยู่ที่การปราศรัยของนายยงยุทธ โดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า ตนอยากให้พี่น้องช่วยกันมองหา พล.อ.สพรั่ง ว่าอยู่ข้าง ๆ หรือไม่ เพราะรู้มาว่าเขาจะลาออก กลัวจะมาหลงเสน่ห์พรรคพลังประชาชน และยังบอกให้ช่วยหา กระดาษทิซชูไปเช็ดปาก พล.ร.อ.บรรณวิทย์ และ พล.อ.สนธิ ด้วย

นายยงยุทธ ระบุว่า การรัฐประหารเหยื่อรายแล้วรายเล่าถูกกล่าวหาไปในทางที่ชั่วร้าย แต่คนที่ไปดื่มฉี่ แล้วยังบอกว่าอร่อยและหอมดีกลับได้ดี บางพรรคตั้งมา 50-60 ปีตามเราไม่ทันก็ไปบอกว่าเป็นประชานิยม ตนกับนายเน วินเป็นเป้าหมายที่ถูกจับตามอง โดยมีเพื่อนที่อยู่ในครม.หักหลัง เอาข้อมูลเท็จไปบอกทหารว่าตนเอากำลังป่าไม้ไปต่อสู้กับการรัฐประหาร คนพวกนี้ไปกินฉี่ทหารเรียบร้อยแล้วแต่สุดท้ายพวกนี้ก็โดนหลอก โดนสึนามิทางการเมืองถูกถอนสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด บาปกรรมที่เกิดขึ้นไม่ต้องรอชาติหน้า แต่ตนไม่กินฉี่ทหารก็เลยถูกจับไปขัง

เผยตชด.คนสนิทถูกฆ่าตาย

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า มีการส่งคนไปจับตนถึงบ้านแต่ตนไม่อยู่ ไปถึงก็ทุบประตูจับตชด. 2 คนที่มาพักที่บ้านมัดมือไพล่หลัง เหยียบหัวเขา เอาไปซ้อม อีกไม่กี่วันถูกย้ายไปอยู่ใต้ แล้วก็ถูกฆ่าตาย ไม่รู้ว่าถูกผู้ก่อการร้ายหรือทหารฆ่าตาย คงเพราะคิดว่าเขาเป็นพวกตน แต่ความจริงถูกเอาตัวไปเพียงแค่มาพักอยู่บ้านญาติตนชั่วคราวเท่านั้นเอง

นายยงยุทธ ยังกล่าวว่า เมื่อพ.ต.ท. ทักษิณ ถูกยึดอำนาจหลายคนก็เอาใจออกห่าง แถมยังพูดจาว่าร้าย ก่อนกลับมาตนไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเคยเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าช้ำหัวใจเหลือเกิน ให้กลับมาช่วยทำให้เห็นว่าเราจงรักภักดี ซึ่งถ้าบอกให้ไปตายตนก็จะไปตาย เพราะตนจะพิสุจน์ว่าเขาเป็นคนดี

"นพดล"ชี้แจงหุ้นชิ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์