กรมป่าไม้ชี้ ปารีณา ผิด 3 ข้อหา เตรียมแจ้งเอาผิดรุกป่าสงวน - ปักป้ายปิดฟาร์มไก่
อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้คณะทำงาน นำเรื่องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส ) เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป ในความผิด ต่อไปนี้
1.ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า เข้ายึดถือและครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตตามความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ต้องระวางโทษตามมาตรา 72
2.ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตามความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ต้องระวางโทษตามมาตรา 31
3.เข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97
ทั้งนี้ นายอรรถพล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการและดูรายละเอียดอย่างรอบคอบ จึงทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ยืนยัน ทำงานเต็มที่ ไม่มีการประวิงเวลา หรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใด พร้อมคงมาตรฐานเดิมในการรักษากฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการทำลายป่า และบุกรุกป่าโดยเริ่มลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้หลักฐานที่ชัดเจนในวันที่ 29 พ.ย. โดยกรมป่าไม้จะยังคงเป็นที่พึ่งให้ประชาชนในการดำเนินการเกี่ยวกับพื้นที่ทำกิน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับแปลงที่มีปัญหาอยู่จะไม่ได้รับผลกระทบตามมติวันที่ 30 มิ.ย.41 และคทช.จะไม่ได้รับความเดื้อดร้อนตามที่มีหนังสือคัดค้าน
"ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากกรมป่าไม้ตกเป็นจำเลยว่าอาจจะประวิงเวลา ในกรณีที่ดินแปลงนี้ ย้ำเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจ และความชอบธรรม"