ลุ้น! ของขวัญปีใหม่ 2563 กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล

การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาทั้งนักธุรกิจ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมไปถึงประชาชนทั่วไปรอคอยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาจี้ให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเร่งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจหรือจีดีพีในปีนี้ลงเหลือ 2.6% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพราะผลกระทบจากภาคการส่งออก ภาคท่องเที่ยวชะลอตัว ภาคอุตสาหกรรมลดการผลิตลดคนงาน ราคาพืชผล เกษตรยังทรงตัวต่ำ ปัญหาขาดความเชื่อมั่น โดยคาดหมายว่าการประชุมครั้งนี้จะมีของขวัญปีใหม่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจไทยหลุดเป้า

แต่ภายหลังการประชุมฯ จบลง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขานุการ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ออกมาแถลงว่า ไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เพราะที่ผ่านมาได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปหมดแล้ว ทั้งการกระตุ้นการบริโภค การท่องเที่ยว การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ครม.เศรษฐกิจ อาจจะมีการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือนสุดท้ายของปีนี้

สำหรับมาตรการที่รัฐบาลออกมาก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนคนไทยที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนแล้ว เช่น การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ออกมาล่าสุด ประกอบด้วย 1.ลดราคาค่าโดยสารแบบเหมาเที่ยว จำนวน 30 วัน หรือตั๋วเดือน ถูกสุด 47 บาทต่อเที่ยว 2.การลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง เฉพาะช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) เหลือ 20 บาทตลอดสาย 3.การลดค่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ) ลดราคาตั๋วเดือน 44 เที่ยว

นอกจากนั้น เพื่อเป็นการลดภาระให้คนไทยกรมการค้าภายในร่วมกับห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกรวมกว่า 20 ราย มาหารือเพื่อจัดทำมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในช่วงปลายปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน หรือ "งานมหกรรมลดราคาสินค้าช่วยเหลือค่าครองชีพ" เบื้องต้นปีนี้จะเริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2562 ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2563 หรือประมาณ 1 เดือน โดยสินค้าจะลดราคาสูงสุดไม่น้อยกว่าการจัดในปีที่ผ่านมา หรือลดสูงสุดถึง 80%

ขณะที่ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานได้ตรึงราคาค่าไฟฟ้าช่วงม.คง-เม.ย. 63 นานถึง 4 เดือนเพื่อเป็นของขวัญและลดภาระให้คนไทย

ทางด้านของกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติม โดยสั่งการให้ 3 ธนาคารของรัฐ ได้แก่ กรุงไทย ออมสิน และแบงก์เอสเอ็มอี เตรียมออกมาตรการเป็นแพ็กเกจลดภาระหนี้สิน ให้เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี หนุ่มสาวโรงงาน และผู้สูงอายุ นอกภาคการเกษตรเพิ่มเติมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ต้องประเมินว่าจะออกมาตรการใดที่เหมาะสมแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะดำเนินการภายใต้ชื่อโครงการ "บ้านในฝัน รับปีใหม่" ที่จะมีการปล่อยสินเชื่อ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ2.5% ต่อปี นาน 3 ปี และได้ของแถมจากโครงการ ขณะที่กระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆต้องรอดูว่าจะมีมาตรการ เช่น กระทรวงพลังงานที่เคยบอกว่าจะมีแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ กระทรงแรงแรงที่จะปรับขึ้นค่าแรงให้เป็นของขวัญปีใหม่ กรมสรรพากรจะลดภาระภาษีให้ผู้มีรายได้ประจำ หรือแม้แต่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ที่บอกว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มเติม