ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” ไร้ผิดตั้ง ก.คลัง ฟื้นฟูทีพีไอ

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ 9 คนที่เลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 ด้วยเสียงข้างมากยกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นกรณีที่นายทักษิณ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2546 ได้เสนอให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ และ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยนั้น ยินยอมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผน และเสนอชื่อ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นประธานคณะผู้บริหารแผน และนายทนง พิทยะ เป็นผู้บริหารแผน

คดีนี้ศาลได้ไต่สวนลับหลังจำเลย โดยในชั้นพิจารณาจำเลยไม่มาศาล ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และศาลออกหมายจับนายทักษิณไว้แล้ว เนื่องจากหลบหนีไปต่างประเทศในคดีอื่น ขณะที่ การพิจารณาครั้งนี้ มีเพียงผู้แทน ป.ป.ช.โจทก์ เดินทางมาศาล ซึ่งศาลอ่านคำพิพากษาให้ฝ่ายโจทก์ฟัง และถือว่าจำเลยรับทราบคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อองค์คณะผู้พิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องแล้ว ผลคดีจึงถือเป็นที่สุดยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบในกรณีดังกล่าว ขณะนี้คดีดังกล่าวถือเป็นคดีเดียวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และองค์คณะวินิจฉัยชั้นอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนให้ยกฟ้อง.

เครดิตแหล่งข้อมูล : ข่าวช่องวัน