วันนี้ (31 ต.ค.62) ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี นัดอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกาคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 ที่พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนพพร นามเชียงใต้, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายสมญศฆ์ พรมภา, นายนิสิต สินธุไพร, นายสำเริง ประจำเรือ, นายศักดา นพสิทธิ์, นายสิงห์ทอง บัวชุม, นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี, นายวรชัย เหมะ, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวัลลภ ยังตรง และ
นายพิเชฐ สุขจินดาทอง ทั้งนี้ ได้พักคดี
พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ และ
นายสุรชัย แซ่ด่าน เนื่องจากหลบหนี ขณะที่
นายธรชัย ศักดิ์มังกร และ
พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ ศาลชั้นต้นยกฟ้อง
หลังจาก เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีแกนนำ นปช. นำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 แต่ปรากฎว่าจำเลยทั้ง 13 คน มาเพียงคนเดียว ศาลจึงได้อ่านคำพิพากษาของ นายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 10 ซึ่งชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 นั้น พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 11, 12, 13, 15, 16, 17 คนละ 4 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2) (3) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด
ขณะที่ชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ให้ปรับจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 11, 12, 13, 15, 16, 17 คนละ 200 บาท ฐานร่วมกันเดินแถวเป็นกระบวนและกระทำในลักษณะกีดขวางการจราจร ตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาด้วย
ดังนั้น ศาลจึงนัดอ่านคำพิพากษาจำเลยที่อ้างว่าไม่ได้รับนัดหมายเรียกศาล มาเป็นวันที่ 31 ต.ค.62 โดยวันนี้มีจำเลย 3 คน ที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษา คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ ทั้ง 3 คน ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับหมายเรียกศาล ซึ่งศาลได้มีการอ่านคำพิพากษาไปแล้ว คือ จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา และก็ได้เตรียมใจในการรับโทษ เพราะตามกระบวนการยุติธรรม หากมีคำพิพากษาไปแล้วแม้จำเลยจะเดินทางมารับฟังหรือไม่ก็ต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม