คลัง เตือนห้างร้าน ห้ามออกคูปองบังคับสิทธิ์ ชิมช้อปใช้ ยังมีลุ้นโอกาสสุดท้าย!
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้กระทรวงการคลังยังเปิดให้ลงทะเบียนต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หรือจนกว่ามีผู้ใช้สิทธิครบ 10 ล้านคน โดยจะพิจารณาให้สิทธิลงทะเบียนเพิ่มแบบวันต่อวัน ซึ่งจะยกยอดมาจากผู้กรอกข้อมูลลงทะเบียนไม่ถูกต้อง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแต่ไม่ใช้เงินภายใน 14 วัน ให้นำกลับมาเปิดลงทะเบียนใหม่
โดยผู้สนใจร่วมชิมช้อปใช้สามารถตรวจสอบจำนวนสิทธิในแต่ละวันได้ที่ www.ชิมช้อปใช้.com ซึ่งคาดจะเหลือสิทธิไม่เยอะ ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยจะต้องรอการตรวจสอบสิทธิอีก 3 วันทำการ จากนั้นจะได้รับแจ้งเอสเอ็มเอส พร้อมอีเมลยืนยันสิทธิและเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ในวันถัดไปจนถึง 30 พ.ย.นี้
นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ยังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าถูกห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ มีพฤติกรรมเอาเปรียบ ด้วยการบังคับให้จ่ายเงิน 1,000 บาทจากโครงการชิมช้อปใช้ทั้งหมดทีเดียว ก่อนเข้าไปเลือกซื้อสินค้า ซึ่งต่อมาแม้ประชาชนจะใช้ซื้อสินค้าไม่ถึง 1,000 บาท แต่ก็ไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือคืน และต้องจำใจซื้อของให้ครบทั้งหมด
ด้านนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า กระทรวงการคลังขอย้ำเตือนผู้ประกอบการห้างร้านทั้งหลายว่า ห้ามไม่ให้มีการเอาเปรียบประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จากโครงการชิมช้อปใช้ เช่น ออกคูปอง 1,000 บาท หรือเงื่อนไขอื่นใดเพื่อให้ประชาชนซื้อของเฉพาะในห้างหรือร้านของตัวเองเต็มวงเงิน เพราะหากได้รับการร้องเรียนและมีการตรวจพบว่ากระทำการลักษณะดังกล่าวจริง ก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการยกเลิกสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที รวมถึงขึ้นบัญชีดำสำหรับการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ในอนาคต
"ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนพากันไปจับจ่ายเงินโครงการชิมช้อปใช้ผ่านแอพพลิเคชัน เป๋าตัง เป็นจำนวนมาก และส่งผลให้ร้านค้าหรือห้างสะดวกซื้อบางแห่งมีการวางระบบบริหารการจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวก หรือถูกเอาเปรียบจึงขอให้ยุติพฤติกรรม"
นอกจากนี้ ยังแนะนำประชาชนว่าหลังจากได้รับเอสเอ็มเอสยืนยันสิทธิ์ และมีการเปิดใช้ครั้งแรกภายในระยะเวลา 14 วันแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายในครั้งเดียว เพราะเงินส่วนที่เหลือยังนำไปใช้ยังสถานที่อื่นๆ ภายในจังหวัดที่ลงทะเบียนเอาไว้ได้ จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62 โดยสามารถใช้ซื้อสินค้าจำเป็นที่ใช้ในครัวเรือน ซื้ออาหาร หรือใช้เป็นค่าที่พักในการเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องใช้จนหมดในครั้งครั้งแรกครั้งเดียว ที่สำคัญยังสามารถเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าที่ 2 เพื่อนำไปใช้ยังสถานที่ต่างๆ ได้ทั่วประเทศ โดยจะได้รับเงินคืนสูงสุด 15% หรือ 4,500 บาท ต่อคน หลังสิ้นสุดโครงการ 30 พ.ย.62 และเงินดังกล่าวจะได้รับคืนไม่เกิน 1 เดือนหลังสิ้นสุดโครงการ