ปิยบุตร ชี้ 3 ล.! ลักษณะเด่นนโยบายรัฐบาล
"ต้องยอมรับว่า นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนปี 2557 เขียนได้ดีกว่าตอนนี้เสียอีก ซึ่งผมอยากชี้ให้ความเป็นธรรมว่า ทำไมการเขียนนโยบายรอบนี้ ที่เป็นแบบนี้ ไม่ได้โทษที่ตัวท่าน แต่โทษที่ระบบซึ่งออกแบบรัฐธรรมนูญ 2560 มา และบีบบังคับให้คณะรัฐมนตรีต้องเขียนนโยบายลักษณะนี้ แน่นอนว่าทุกพรรคอยากนำนโยบายของตนไปใช้ทั้งหมด แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวก็ทำไม่ได้ ยิ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ รัฐบาลผสมถึง 19 พรรค มากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หากแต่เสียงก็ยังปริ่มน้ำอยู่ นี่เป็นผลของรัฐธรรมนูญ 2560 เช่น ส.ว. 250 คน ก็ทำให้กลไกการตัดสินใจพรรคการเมืองบิดเบือนไป เพราะถ้าไม่มี ส.ว. 250 คน พรรคที่ได้ที่นั่งอันดับหนึ่งคงตั้งรัฐบาลเรียบร้อยในไม่กี่วัน แต่ที่พรรคอันดับ 2 กล้าตั้งรัฐบาลแข่งนั่นเป็นเพราะมี ส.ว. 250 คนอยู่ ทำให้พรรคอันดับ 4-5 ที่หาเสียงเรื่องการไม่สืบทอดอำนาจ จำเป็นต้องไปร่วมด้วยเพราะรู้ว่ามีกลไก ส.ว.ช่วย นี่คือการบิดเบือนการตัดสินใจ พรรคการเมืองต้องจำใจ หรือลดหย่อนนโยบายที่ตนต้องการเพื่อให้ได้ในร่วมรัฐบาล เหล่านี้คือ สิ่งที่ทำให้นโยบายที่ออกมาเลื่อนลอย โลเล หลอกลวง
"ผมเองในฐานะ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ขอเรียนว่า พรรรคอนาคตใหม่และสมาชิก เรามีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง เรารักชาติบ้านเมือง รักและเทิดทูนสถาบันไม่ได้น้อยกว่าท่าน ไม่น้อยกว่าคนที่กล่าวหาเรา แต่การแสดงออกของแต่ละคนอาจต่างไปในรายละเอียด แต่หัวจิตใจไม่ต่างจากท่าน พวกเราไม่ได้มีความคิดล้มล้างอะไร ไม่ได้มีความคิดรุนแรง เราเพียงต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ระบบปกติ กลับสู่ระบบประชาธิปไตย กลับสู่นิติรัฐให้ได้ เราเพียงต้องการ สร้างฉันทามติร่วมกันพาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้ง 13 ปี เสียที เราไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับกองทัพ แต่เราไม่เอารัฐประหารโดยกองทัพ ไม่เอารัฐบาลพลเรือนที่อยู่ใต้กองทัพ อยากให้กองทัพเป็นมืออาชีพ เราไม่ได้เป็นศัตรูองค์กรตุลาการศาลใด เราต้องการมาตฐานกระบวนการยุติธรรมมาตรฐานเดียวกัน เรา 81 คน เป็น ส.ส. หน้าใหม่ พร้อมให้ความร่วมมือกับคณะรัฐมนตรี กับรัฐบาล กับทุกองค์กรเพื่อนำประชาธิปไตยกลับมา และร่วมกันเดินหน้าหาฉันทามติ แสวงหาอนาคตแบบใหม่ร่วมกัน" นายปิยบุตร กล่าว