ธนาธร เผย มี “ว่าที่ ส.ส.” หลายพรรค ถือหุ้นในธุรกิจ ที่ระบุวัตถุประสงค์ผลิตสื่อ
วันที่ 1 พ.ค. 62 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กของตนเอง ดังนี้
ไม่ควรมีนักการเมืองคนใดถูกตัดสิทธิ์ เพราะถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้ผลิตสื่อจริงๆ
มีว่าที่ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ, ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย สามคนเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ผลิตสื่อ ซึ่งอาจทำให้ทั้งสามท่านขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. (ดูภาพประกอบ)
ก่อนการเลือกตั้ง นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จังหวัดสกลนคร เขต ๒ ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่านายภูเบศวร์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส และหนึ่งในวัตถุประสงค์ของบริษัทนี้คือการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ทั้งๆ ที่ตัวบริษัทจริงทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไป
ในเขตเลือกตั้งสกลนครเขต ๒ มีบัตรเสียสูงถึง ๑๐,๒๐๐ ใบ ซึ่งอนุมานได้ว่าส่วนที่เกินจากค่าเฉลี่ยบัตรเสียในเขตอื่นทั่วประเทศ คือคะแนนที่ผู้ที่ไม่ทราบว่านายภูเบศวร์ถูกตัดสิทธิ์มอบให้พรรคอนาคตใหม่ ทำให้บัตรที่กาพรรคอนาคตใหม่ถือเป็นบัตรเสีย
พรรคอนาคตใหม่ได้รวบรวมข้อมูลว่าที่ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. จากหลายพรรคการเมืองที่ถือหุ้นในบริษัทที่ระบุถึงการผลิตสื่อไว้ในวัตถุประสงค์ ถึงแม้ว่าตัวบริษัทจะทำธุรกิจประเภทอื่นและไม่ได้ผลิตสื่อจริงๆ ได้มากกว่าสามสิบคน และกำลังสืบค้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรานำสามท่านจากสามพรรคการเมืองมาเป็นตัวอย่างในที่นี้ ดังนี้
๑. กรณีนายณัฐวุฒิ ทีปสุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ ตามรูปภาพแนบ ๑ ถึง ๓
๒. กรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ จากพรรคประชาธิปัตย์ ตามรูปภาพแนบ ๔ ถึง ๖
๓. กรณีนายพิบูลย์ รัชกิจประการ จากพรรคภูมิใจไทยตามรูปภาพแนบ ๗ ถึง ๙
เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจนถึงวันสมัคร ส.ส. ทั้งสามท่านขายหุ้นหรือบริษัทยกเลิกกิจการไปแล้วหรือยัง หากยัง ทั้งสามท่านจะเข้าข่ายกรณีเดียวกันกับนายภูเบศวร์ ที่ถูกศาลฎีกาตัดสิทธิ์ และถ้าเป็น ส.ส. เขต คะแนนจะถูกนับเป็นบัตรเสียด้วย หรือหากจัดการแล้วทั้งสามท่านอาจต้องชี้แจงอย่างที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกตรวจสอบ ว่าขายหุ้นจริงหรือไม่, โอนเงินหรือยัง, นำแสดงหลักฐานที่อยู่ได้หรือไม่, เปิดเผยหลักฐานการจ่ายเงินได้หรือไม่ เป็นต้น
เจตนาของการห้ามผู้สมัคร ส.ส. ถือหุ้นในกิจการสื่อคือความกังวลว่า หากมีผู้สมัครที่สามารถควบคุมสื่อได้ จะได้เปรียบในการรณรงค์หาเสียงต่อผู้แข่งขันรายอื่น อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการทั่วไปเมื่อจดทะเบียนธุรกิจใหม่ มักใช้แบบฟอร์มแจ้งวัตถุประสงค์บริษัทแบบมาตรฐานทั่วไป ซึ่งมักจะระบุวัตถุประสงค์กว้างๆ ไว้ รวมถึงธุรกิจสื่อลงไปด้วยเสมอ เพื่อว่าหากวันหน้าธุรกิจจะขยายหรือเปลี่ยนแปลงจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแก้วัตถุประสงค์กับหน่วยงานราชการ
ผมเห็นว่า การตัดคุณสมบัติว่าที่ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ แต่การผลิตสื่อถูกระบุไว้ในวัตถุประสงค์ของบริษัทด้วย หรือที่ทำธุรกิจสื่อแต่เลิกไปแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฏหมาย การตัดสินเช่นนี้อาจทำให้ว่าที่ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. ถูกตัดสิทธิ์จำนวนมาก คะแนนเสียงของประชาชนกลายเป็นบัตรเสีย และนำมาซึ่งผลการเลือกตั้งที่ไม่สะท้อนความต้องการของประชาชน
เราไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อทั้งสามท่าน เราเพียงต้องการแสดงให้สังคมเห็นถึงปัญหาเชิงระบบที่กฏหมายและการตีความทางกฏหมายไม่สอดคล้องกับความจริงในสังคม เราไม่มีเจตนาจะฟ้องร้องท่านหนึ่งท่านใด และเราไม่เห็นด้วยที่จะใช้ข้อกล่าวหานี้กับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพราะเราเห็นว่าการฟ้องร้องแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อใคร แต่เป็นเพียงการทำลายล้างกันทางการเมือง และสร้างภาระในการพิสูจน์ให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหามากมาย
อนึ่ง เราขอสงวนสิทธิ์ที่จะนำรายชื่อที่รวบรวมไว้ ฟ้องต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อง หากพรรคอนาคตใหม่ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม