ก้าวที่พลาดของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล”

คดีที่ ปอท.ไม่ใช่คดีแรกที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ต้องเผชิญ เพราะยังมีสิ่งที่นายปิยบุตร เคยพูด เคยทำ เคยร่วมกิจกรรม หรือ เวทีเสวนาเอาไว้ ตามกลับมาหลอกหลอนจนถึงทุกวันนี้

เริ่มจากคดีที่ไปถูก ปอท.หมายเรียกในฐานะผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีใน 2 ข้อหาคือ 1.ดูหมิ่นศาล 2.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยน่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือ เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ซึ่งเป็นผลมาจากการอ่านแถลงการณ์พรรคอนาคตใหม่ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของพรรคอนาคตใหม่

ถูก อุ๊ น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี อดีตนักร้องชื่อดัง ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการกองปราบปราม ให้ตรวจสอบคลิปคำพูดของนายปิยบุตร ในงานเสวนาเรื่อง "การเมืองความยุติธรรมและกษัตริย์" เกี่ยวกับ ม.112 ซึ่งจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 (6 ปีที่แล้ว) ว่า เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงหรือไม่

นายปิยบุตร ชี้แจงเรื่องนี้ว่า การนำข้อความที่ตนบรรยายเมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อครั้งยังเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มาตัดใช้บางตอนโดยไม่ระบุว่าบรรยายในโอกาสใด เมื่อไร และยังใส่ตำแหน่งใต้ชื่อตนว่า "เลขาฯ พรรคอนาคตใหม่" พร้อมนำสัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ไปติดในรูปภาพด้วย เป็นการแสดงเจตนาอันไม่สุจริตของผู้กระทำ ต้องการทำให้ตนเสียหาย

นอกจากนี้ คุณอุ๊ หฤทัย ยังร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี กรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เขียนหนังสือ 2 เล่ม คือ ราชมัลลงทัณฑ์ บัลลังก์ปฏิรูป และ รัฐธรรมนูญ : ประวัติศาสตร์ข้อความคิด อำนาจสถาปนา และการเปลี่ยนผ่าน ว่า มีเนื้อหาเข้าข่ายมาตรา 116 เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่

แต่ทั้งหมดนี้เป็นความผิดเฉพาะตัว บทลงโทษก็เป็นการจำคุก แต่ไม่โยงไปถึงพรรคอนาคตใหม่ ยกเว้นคดีที่เกี่ยวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ที่อาจจะโยงไปถึง "โทษยุบพรรค" อนาคตใหม่ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรรคขึ้นประวัตินายธนาธรผิดว่า เคยเป็นอดีตประธานสภาอุตสาหกรรม และ ที่ออกมาพูดว่า การดำเนินคดีกับนายทักษิณ ชินวัตร เป็นการกลั่นแกล้ง