ทำไมการกระทำของไทยรักษาชาติจึง “เป็นปฏิปักษ์” ต่อประชาธิปไตยแบบไทย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ทำไมการกระทำของไทยรักษาชาติจึง “เป็นปฏิปักษ์” ต่อประชาธิปไตยแบบไทย
นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ สองกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมเจ้าหน้าที่ กกต. 6 คนจาก กทม. เยือนสหราชอาณาจักรตั้งแต่ 1 มี.ค. เป็นเวลา 6 วัน เพื่อสังเกตการณ์การเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และพบปะชุมชนไทยในประเทศอังกฤษ
นายฉัตรไชย และนายเลิศวิโรจน์ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยในลอนดอน ซักถามถึงความคืบหน้าของการเตรียมการเลือกตั้งทั้งในประเทศและนอกราชอาณาจักร โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย ได้ขอคำอธิบายถึงที่มาของมติเอกฉันท์ของ กกต. ทั้ง 7 คน ที่ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งยุบ ทษช. โดยเห็นว่า "กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข" กรณีเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค เมื่อ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา
นายฉัตรไชย ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กล่าวว่า ในฐานะ กกต. คนหนึ่ง เห็นว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหมายความว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมืองทุกอย่าง สถาบันนี้ต้องเป็นกลาง ไม่สามารถเลือกข้างประชาชนได้
"เหมือนกับพ่อปกครองลูก ลูกก็จะเหมือนเหมือนกัน ท่านแบ่งไม่ได้ว่าท่านรักลูกคนนี้ ท่านรักลูกคนนี้ ลูกคนนี้ไม่ใช่พวกท่าน ต้องอยู่เหนือการเมือง สถาบันนี้จะลงมาเล่นการเมือง คงไม่เหมาะไม่สมควร ไม่ได้" นายฉัตรไชยอธิบาย
เมื่อ 27 ก.พ. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของ กกต. และอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง โดย ศาลฯกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 7 มี.ค. เวลา 13.30 น. และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น.
ไม่เลือกปฏิบัติ
นายฉัตรไชยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า กกต.เลือกปฏิบัติ โดยมุ่งกำจัดพรรคเครือข่ายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ให้ความคุ้มครอง และสิทธิพิเศษแก่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค ท่ามกลางข้อกังขาว่า หัวหน้าคณะรัฐประหารกำลังใช้อำนาจในตำแหน่งนายกฯไปช่วย พปชร. หาเสียง
นายฉัตรไชยกล่าวว่า ไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามไม่ให้นายกฯหาเสียงเลือกตั้ง หรือไปช่วยหาเสียง แต่กฎหมายบอกว่า เจ้าพนักงานของรัฐ ห้ามไม่ให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อช่วยเหลือ ให้เป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่นไม่ได้
"การขึ้นเวทีไปช่วยผู้สมัคร ต้องถามว่าท่านใช้อำนาจอะไรของท่านไปช่วยผู้สมัคร ใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าไม่ได้ใช้อำนาจในหน้าที่นายกฯ ท่านจะทำอะไรก็ทำไป"
ส่วนกรณีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อระดมทุนของ พปชร.นั้น นายฉัตรไชยกล่าวว่า กกต.ได้สั่งการให้เลขาธิการไปติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
"เราไม่เลือกปฏิบัติแน่"
บัตรเสียอาจเกิน 2% ?
ไม่ว่าคำตัดสินใจจะออกมาอย่างไร บัตรเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีหมายเลขผู้สมัครของ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) อยู่ด้วย เนื่องจากการจัดพิมพ์บัตรได้เสร็จสิ้นก่อนคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากประชาชนกาเลือก ทษช. ในบัตรนั้น ให้นับเป็นบัตรเสีย
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทยสอบถามว่า หากประชาชนไม่รู้แล้วเลือก ทษช. มาก ๆ กกต. จะป้องกันไม่ให้จำนวนบัตรเสียสูงกว่าเป้าที่วางไว้คือ 2% ของผู้มาใช้สิทธิทั้งหมด นายฉัตรไชย ชี้แจงว่า กกต.ต้องหาวิธีแจ้งผู้มาใช้สิทธิให้ได้มากที่สุดว่า ทษช. ถูกยุบแล้ว
"เราจะติดไว้หน้าหน่วยว่าพรรคนี้ถูกยุบแล้ว" นายเลิศวิโรจน์ กล่าวเสริม
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกระแสข่าวลือที่ว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. อาจไม่เกิดขึ้น นายฉัตรไชยยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องมีแน่ ประเทศไทยเราไม่มีเลือกตั้ง ไม่ได้แล้ว
"ยาก ที่จะไม่มี ตอนนี้ยังไม่มีเหตุอะไรที่จะบอกว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ก็ต้องล้มรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมไม่เชื่อว่าใครจะทำ" นายฉัตรไชยกล่าวอย่างมั่นใจ
เจ้าหน้าที่ กกต. ให้ข้อมูลว่า งบประมาณสำหรับการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ คือ 4 พันล้านบาท ในส่วนนี้ เป็นงบเลือก ส.ส. นอกราชอาณาจักรทั่วโลก 50 ล้านบาทส่วน งบสำหรับการจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นั้น ตั้งไว้ที่ 1.3 พันล้าน แต่ใช้ไป เพียง 700 ล้านบาท เพราะ "คนสมัครจริงเจ็ดพัน แต่คาดไว้ว่าเป็นแสน"
นายฉัตรไชยกล่าวถึงการเปิดให้ องค์กรเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศมาร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้งได้ว่า สามารถทำได้ ถ้าร้องขอมา ส่วนการที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว. กระทรวงการต่างประเทศเคยให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยที่จะให้ต่างชาติมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น นายฉัตรไชยกล่าวว่า "ไม่เกี่ยวกับท่าน ใครจะมาก็มาได้"
นายดอน กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 18 ธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า "ประเทศไทยเราต้องแก้ปัญหาของเราเองให้ได้"
"มันเป็นศักดิ์ศรีของประเทศเรา แทนที่จะทำกันเอง ต้องเอาคนอื่นเข้ามาตลอดเวลาได้อย่างไร นี่มัน พ.ศ. 2561 แล้ว เรื่องอะไรต่างชาติจะเก่งไปกว่าเราทุกเรื่องได้ยังไง"
มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกราชอาณาจักร จำนวน 119,184 คน ใน 67 ประเทศ (94 สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่) ดังนี้
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น