สุดารัตน์โพสต์ FB ต้องเพิ่มงบฯกลาโหมหรือไง? ถึงจะไม่หนักแผ่นดิน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สุดารัตน์โพสต์ FB ต้องเพิ่มงบฯกลาโหมหรือไง? ถึงจะไม่หนักแผ่นดิน
ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ความคิดเห็น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เกี่ยวกับนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง โดยอ้างอิงถึงนโยบายการตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นใช้แนวทางการสมัครใจแทน ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ตอบผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า ให้ไปฟังเลง หนักแผ่นดิน
กระทั่งต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมต.กลาโหม ออกมาประสานเสียงตอบคำถามผู้สื่อข่าวในลักษณะเดียวกันกับที่ ผบ.ทบ.ตอบไปเมื่อช่วงเช้า โดยแนะให้ไปฟังเพลง หนักแผ่นดิน เช่นเดียวกัน และในวันที่ ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีการเปิดเพลงนี้ในเสียงตามสาย พร้อมมีคำสั่งให้เปิดเพลงนี้ในสถานีวิทยุ จ.ส. ของกองทัพบก ทั่วประเทศอีกด้วยนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ปรากฎความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมีการโพสต์ข้อความในลักษณะที่ยืนยันในแนวคิดปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยยืนยันว่าเป็นการพยายามให้กระทรวงกลาโหมเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่เยาวชน ในสภาวะที่บ้านเมืองประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าภัยสงคราม อีกทั้ง การตัดลดงบประมาณดังกล่าวเป็นไปเพียงแค่ 10% จาก2แสนล้านบาท นั่นคือเงินจำนวน 2หมื่นล้านบาทที่สามารถนำไปพัฒนาคนรุ่นใหม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจก็เพื่อต้องกาให้เกิดการพัฒนาบุคลากรทางทหารที่สมัครใจเข้ามาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ช่วงท้ายได้กล่าวว่า
"โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพเพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน" อีกด้วย
กระทั่งต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมต.กลาโหม ออกมาประสานเสียงตอบคำถามผู้สื่อข่าวในลักษณะเดียวกันกับที่ ผบ.ทบ.ตอบไปเมื่อช่วงเช้า โดยแนะให้ไปฟังเพลง หนักแผ่นดิน เช่นเดียวกัน และในวันที่ ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีการเปิดเพลงนี้ในเสียงตามสาย พร้อมมีคำสั่งให้เปิดเพลงนี้ในสถานีวิทยุ จ.ส. ของกองทัพบก ทั่วประเทศอีกด้วยนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ปรากฎความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมีการโพสต์ข้อความในลักษณะที่ยืนยันในแนวคิดปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยยืนยันว่าเป็นการพยายามให้กระทรวงกลาโหมเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่เยาวชน ในสภาวะที่บ้านเมืองประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าภัยสงคราม อีกทั้ง การตัดลดงบประมาณดังกล่าวเป็นไปเพียงแค่ 10% จาก2แสนล้านบาท นั่นคือเงินจำนวน 2หมื่นล้านบาทที่สามารถนำไปพัฒนาคนรุ่นใหม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจก็เพื่อต้องกาให้เกิดการพัฒนาบุคลากรทางทหารที่สมัครใจเข้ามาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ช่วงท้ายได้กล่าวว่า
"โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพเพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน" อีกด้วย
รู้สึกเป็นห่วงวิธีคิดของ ผบ.ทบ. ที่ถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ของประเทศ ทีมีท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดทนายกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีที่มาจากการรัฐประหาร แต่แข็งกร้าวกับคนที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชนตามครรลองประชาธิปไตยแบบไร้เส้น ทั้งที่โดยสถานะผบ.ทบ. ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ถ้าจะต้องให้บอกว่า จะเพิ่มงบให้กระทรวงกลาโหมจากแสนกว่าล้านบาทเป็นสองแสนกว่าล้านบาท แบบที่รัฐบาลนี้ทำ จึงจะเป็นคนไม่หนักแผ่นดินในสายตา ผบ.ทบ.
ดิฉันจะขอยืนยันในความถูกต้อง ที่ได้เสนอขอปรับลดงบกระทรวงกลาโหมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กับปัญหาปากท้อง และในเวลานี้ยังไม่ปรากฏภัยคุกคามทางความมั่นคงของประเทศ ถึงขั้นจะต้องใช้กำลังคนและ อาวุธยุทโธปกรณ์มากไปกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ดิฉันขออนุญาตพูดอีกครั้งหนึ่ง เผื่อผู้มีอำนาจจะฟังบ้าง เราเสนอให้ลดงบประมาณลงเพียง 10%ในส่วนที่ใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออย่างมากมายในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศที่แย่อย่างทุกวันนี้
เราชวนกลาโหมให้มาช่วยกันสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนตัวเล็กๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและตำแหน่งงานน้อยลง งานหายากขึ้น และคนจะตกงานมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากภาวะเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามากระทบต่ออาชีพต่างๆ ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนคนไทยและเด็กรุ่นใหม่ของเรา
งบประมาณที่ขอแบ่งมา 10% นี้เป็นจำนวน เพียง 20,000 ล้านบาท จากงบประมาณกระทรวงกลาโหม ทั้งหมด กว่า 200,000 ล้านบาท จะเอามาช่วยคนรุ่นใหม่ให้มีอาชีพ ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเด็กรุ่นใหม่ และประชาชนได้ มากกว่า30,000 คนต่อปีซึ่งเป็นการให้โอกาสคนรุ่นใหมได้มาเป็นกำลังในการผลิตและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ทหารและงบประมาณทหารมีความจำเป็น แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นและใช้ให้มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนากำลังพลและศักยภาพของกองทัพ
การเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้ใช้ระบบสมัครใจเข้ารับราชการ จะ เป็นการพัฒนาบุคลากรที่เข้ารับราชการทหารเพราะได้เข้ามาด้วยความเต็มใจก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะใช้งบประมาณน้อยกว่า
เรายืนยันว่างบประมาณส่วนที่ขอแบ่งมาจากงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพียง 10% นี้จะไม่กระทบต่อการดูแลรายได้ และสวัสดิการของกำลังพล ตรงกันข้ามเรากลับมองว่า เราควรจะสนับสนุนในการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมกับความเสียสละของเขาที่ถือเป็นเหล่าทหารกล้า
โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพเพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน
ผลิตโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
พรรคเพื่อไทย เลขที่ 1770 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้
เครดิตแหล่งข้อมูล : springnews.co.th
ถ้าจะต้องให้บอกว่า จะเพิ่มงบให้กระทรวงกลาโหมจากแสนกว่าล้านบาทเป็นสองแสนกว่าล้านบาท แบบที่รัฐบาลนี้ทำ จึงจะเป็นคนไม่หนักแผ่นดินในสายตา ผบ.ทบ.
ดิฉันจะขอยืนยันในความถูกต้อง ที่ได้เสนอขอปรับลดงบกระทรวงกลาโหมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กับปัญหาปากท้อง และในเวลานี้ยังไม่ปรากฏภัยคุกคามทางความมั่นคงของประเทศ ถึงขั้นจะต้องใช้กำลังคนและ อาวุธยุทโธปกรณ์มากไปกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ดิฉันขออนุญาตพูดอีกครั้งหนึ่ง เผื่อผู้มีอำนาจจะฟังบ้าง เราเสนอให้ลดงบประมาณลงเพียง 10%ในส่วนที่ใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออย่างมากมายในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศที่แย่อย่างทุกวันนี้
เราชวนกลาโหมให้มาช่วยกันสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนตัวเล็กๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและตำแหน่งงานน้อยลง งานหายากขึ้น และคนจะตกงานมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากภาวะเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามากระทบต่ออาชีพต่างๆ ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนคนไทยและเด็กรุ่นใหม่ของเรา
งบประมาณที่ขอแบ่งมา 10% นี้เป็นจำนวน เพียง 20,000 ล้านบาท จากงบประมาณกระทรวงกลาโหม ทั้งหมด กว่า 200,000 ล้านบาท จะเอามาช่วยคนรุ่นใหม่ให้มีอาชีพ ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเด็กรุ่นใหม่ และประชาชนได้ มากกว่า30,000 คนต่อปีซึ่งเป็นการให้โอกาสคนรุ่นใหมได้มาเป็นกำลังในการผลิตและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ทหารและงบประมาณทหารมีความจำเป็น แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นและใช้ให้มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนากำลังพลและศักยภาพของกองทัพ
การเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้ใช้ระบบสมัครใจเข้ารับราชการ จะ เป็นการพัฒนาบุคลากรที่เข้ารับราชการทหารเพราะได้เข้ามาด้วยความเต็มใจก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะใช้งบประมาณน้อยกว่า
เรายืนยันว่างบประมาณส่วนที่ขอแบ่งมาจากงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพียง 10% นี้จะไม่กระทบต่อการดูแลรายได้ และสวัสดิการของกำลังพล ตรงกันข้ามเรากลับมองว่า เราควรจะสนับสนุนในการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมกับความเสียสละของเขาที่ถือเป็นเหล่าทหารกล้า
โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพเพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน
ผลิตโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
พรรคเพื่อไทย เลขที่ 1770 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้
เครดิตแหล่งข้อมูล : springnews.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น