‘กกต.’ ถกด่วน ชี้ชะตาอนาคต ‘ไทยรักษาชาติ’!


‘กกต.’ ถกด่วน ชี้ชะตาอนาคต ‘ไทยรักษาชาติ’!

     พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการพิจารณาคุณสมบัติบัญชีนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุเพียงสั้นๆว่า ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ คณะกรรมการกกต. จะประชุมคาดว่าจะมีการหารือในทุกเรื่อง รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ด้วย

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีปัญหาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของ กกต.ว่า จะสามารถพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ได้หรือไม่ เนื่องจากฎหมายได้กำหนดให้กกต.ประกาศเพียงรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น รวมถึงการพิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วย


ทั้งนี้ ลำดับเหตุการณ์ ก่อนมีพระราชโองการชี้ ทูลกระหม่อมต้องอยู่เหนือการเมือง สู่ กกต.ตัดสินอนาคต ‘ทษช.' 11 ก.พ.นี้

เวลา 09.10 น. วันที่ 8 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อเป็นวันสุดท้าย พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช.ได้เดินทางมายังสำนักงานกกต. ในเวลา 08.45 น. เมื่อเข้ามาถึงได้ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก่อนจะเดินไปตั้งแถวหน้ากระดานที่ลานเอนกประสงค์เพื่อถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ก่อนจะตรงเข้าไปลงทะเบียนเพื่อยื่นบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค ทษช.ตามฤกษ์ 09.10 น. โดยเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกฯของพรรคชื่อเดียว

ร.ท.ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไทยรักษาชาติเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี คนเดียวของพรรค โดยเป็นมติของกรรมการบริหารพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงประสานไป และท่านได้ตอบรับกลับมา
*****
ต่อมาเวลา 22.40 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ความว่า

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า

สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ดังเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่าตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกและความอยู่ดีกินดีของประชาชน ทรงปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรม และนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย ภัยพิบัติ และภัยที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุข และดูแลปกป้องประชาชนด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระมหากรุณาอย่างมิอาจประมาณได้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าเคารพรัก และเทิดทูนพระองค์เสมือนด้วยบิดา จึงทรงเป็น "พ่อแห่งแผ่นดิน" โดยแท้จริง

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้วตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในสถานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ตลอดจนเป็นที่เคารพยกย่องของพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ และประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานด้วยทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยในการดำรงพระองค์และการประกอบพระกรณียกิจต่างๆ นั้น ทรงปฏิบัติด้วยการถวายงานของข้าราชการในพระองค์ และหน่วยราชการต่างๆ ของหน่วยราชการในพระองค์ตลอดมา การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

อนึ่ง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกฉบับรวมทั้งฉบับปัจจุบัน มีหมวดว่าด้วยพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่รองรับสถานะพิเศษของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณี การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิด กล่าวหา หรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดใดมิได้ ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญดังกล่าวย่อมครอบคลุมถึงพระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ ดังที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับพระองค์หรือแทนพระองค์อยู่เป็นนิจ ดังนั้นพระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ จึงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมืองพระมหากษัตริย์ด้วย และไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้ เพราะจะเป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2562 ในรัชกาลปัจจุบัน

‘กกต.’ ถกด่วน ชี้ชะตาอนาคต ‘ไทยรักษาชาติ’!

*****
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทวิตเตอร์ "iLawclub" ได้ทวิตภาพพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ข้อความว่า "กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เป็นหนึ่งในเหตุให้ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่ง #ยุบพรรค ได้ ตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 92
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/105/1.PDF

‘กกต.’ ถกด่วน ชี้ชะตาอนาคต ‘ไทยรักษาชาติ’!


‘กกต.’ ถกด่วน ชี้ชะตาอนาคต ‘ไทยรักษาชาติ’!

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : 5555555
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 184.82.234.51

184.82.234.51,,184-82-234-0.24.public.sila1-bcr02.myaisfibre.com ความคิดเห็นที่ 23 [อ้างอิง]
มีแค่ ไอเกื้อคนเดียวก็ เผาเมืองได้แล้ว


[ วันจันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10:44 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์