วัฒนาลั่นมัน!เรื่องคนโสด2คน,สาว‘โบว์“ขอบคุณคนเคียงข้าง”

จากกรณีมีคลิปหลุดแชร์ว่อนโลกโซเชียล เป็นชายหน้าคล้ายนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งกำลังมีเซ็กซ์กับสาวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยคลิปที่แชร์กันนั้น ลักษณะเหมือนถ่ายจากกล้องหน้ารถตามแอบถ่ายชายหน้าคล้ายนักการเมืองและสาวคนดังกล่าว อีกทั้ง ยังเหมือนแอบไปตั้งกล้องในห้องที่ทั้งคู่กำลังมีสัมพันธ์สวาทอยู่ด้วยกันนั้น

ล่าสุด น.ส.ณัฎฐา มหัธนา แกนนำคนอยากเลือกตั้ง ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวตนเชื่อว่าเป็นปฏิบัติการ IO (ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ทหารใช้ในการสงคราม) โดยตนเองก็เคยมีประสพการณ์และถูกกล่าวหามาแล้ว เมื่อตอนมีกรณีการถกเถียงเรื่อง การข่มขืน ไม่ประหารชีวิต โดยเชื่อว่าเป็นการ "เบี่ยงเบนความสนใจ" ของสังคมจากที่สิ่งที่เป็นประโยชน์สาธารณะ

จบตรงนี้นะคะ จะไม่ตอบสนองอะไรเพิ่มเติมต่ออาชญากรรมและความทุจริตครั้งนี้ พื้นที่สื่อควรมีไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ให้ทรราชใช้เป็นเครื่องมือในการเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมไปจากสิ่งที่สำคัญ#เผด็จการจงพินาศ_ประชาธิปไตยจงเจริญ

จากนั้น นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคลิปฉาวว่า

 ความจริงผมตั้งใจจะไม่พูดเรื่องนี้ให้เป็นประเด็น เพราะจะเข้าทางคนที่ทำเรื่องสกปรกแบบนี้ขึ้น เรื่องนี้คิดได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนทำและทำด้วยเจตนาอะไร แต่สิ่งที่สังคมควรตั้งสติคือเราจะสนับสนุนเจตนาของผู้ทำหรือไม่

ข่าวที่ปล่อยออกมาเป็นเรื่องของ คนโสดสองคน ที่ไม่ได้กระทำความผิดต่อใครและไม่ได้เป็นประเด็นสาธารณะ แต่คนที่เอาเรื่องแบบนี้มาทำลายต่างหากที่มีเจตนาทุจริต ใช้วิธีสกปรกเพื่อเบี่ยงเบนผู้คนออกจากประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่น การระดมทุนของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีชื่อของส่วนราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเรื่องนาฬิกาที่ไม่มีความคืบหน้า

รวมถึงการโกงการเลือกตั้งด้วยวิธีต่างๆ อย่างเป็นระบบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการก่ออาชญากรรมที่เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนวิธีที่สกปรกแบบนี้ ตั้งแต่ถูกทำร้าย ถูกนำตัวไปควบคุมเพื่อปรับทัศนคติ ถูกยัดข้อหาและถูกดำเนินคดีทั้งศาลทหารและศาลอาญานับสิบคดี ทั้งหมดเพื่อปิดปากและเพื่อให้ผมหยุดการต่อสู้แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ จึงต้องหันมาใช้วิธีที่สกปรกยิ่งกว่า

ผมจึงขอประณามการกระทำดังกล่าวและจะไม่ตอบสนองต่อเจตนานั้น ขอสงวนพื้นที่สื่อไว้เพื่อปกป้องการสืบทอดอำนาจผ่านกลโกงการเลือกตั้ง ขอให้สังคมดำรงความมุ่งหมายที่จะนำพาประเทศออกจากร่มเงาของเผด็จการที่สร้างความเสียหายให้ประเทศทุกด้าน

ส่วนตัวผมขอยืนยันว่าแม้จะโดนยัดข้อหาเพิ่มขึ้นหรือถูกใช้วิธีสกปรกแค่ไหนก็ตาม จุดยืนที่จะต่อสู้เพื่อนำอำนาจคืนให้กับประชาชนจะไม่เปลี่ยนแปลง

"อย่างเดียวที่จะหยุดผมได้คือผมไม่มีชีวิต ถ้ากล้าทำถึงขนาดนั้นก็จนปัญญา ขอขอบคุณทุกกำลังใจและความเข้มแข็งของคนที่ยืนเคียงข้าง"

ภายหลัง ‘โบว์ อยากเลือกตั้ง' เคลื่อนไหวอีกครั้ง หลัง โพสต์ชี้แจงของ นายวัฒนา !ระบุว่า

"โบว์เพิ่งกลับถึงบ้านนะคะพาคุณแม่กับลูกไปทานข้าวมา จึงยังไม่ได้ตอบข้อความและโทรกลับทุกคน น่าเสียดายที่เรื่องไร้สาระแบบนี้กลับได้พื้นที่สื่อมากกว่าการรณรงค์ประเด็นสาธารณะของพวกเรา โบว์หวังว่าเร็วๆนี้เมื่อสังคมตั้งหลักได้และมีสมาธิพอ เราจะได้หันกลับมาสนใจมันอีกครั้งในระดับที่มากกว่าเดิม เพราะนี่คือช่วงเวลาที่สำคัญกับอนาคตของเราทุกคน"

หลายคนอาจรู้สึกว่าเรื่องนี้ดู "หนัก" โบว์อยากบอกว่ามีคนอีกมากมายเจอเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าตลอดเกือบห้าปีที่ผ่านมา พรุ่งนี้ 22 ธ.ค.61 จะเป็นวันครบสองปีแห่งการจองจำ "ไผ่ดาวดิน" นักกิจกรรมต่อต้านเผด็จการที่ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงจนต้องรับปริญญาในคุก

หากโบว์จะแบ่งความสนใจจากเรื่องเล็กๆของเรา เพื่อให้เกิดการรับรู้สิ่งเหล่านี้ได้บ้าง ก็คงจะดี เรามีพลเรือนนับพันต้องขึ้นศาลทหาร นักโทษการเมืองมากมายไม่ได้ประกันตัว นักศึกษาชาวบ้าน นักวิชาการ ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีเพียงเพราะไม่ได้ยืนอยู่ข้างเดียวกับเผด็จการ สิ่งที่พวกเราร่วมกันทำก็เพียงเพื่อหยุดสิ่งเหล่านี้ ให้ประชาชนได้มีสิทธิในการปกครองตนเอง ได้เป็นเจ้าของประเทศ แน่นอนมันมีราคาที่ต้องจ่าย แต่เท่าไหร่ก็คุ้ม"