“จาตุรนต์” ลั่นต้องพาฝ่ายประชาธิปไตยกวาด 251 ส.ส.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง “จาตุรนต์” ลั่นต้องพาฝ่ายประชาธิปไตยกวาด 251 ส.ส.
ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง นางฐิติมา ฉายแสง อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยแกนนำนปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาฯนปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง เป็นต้น น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ นายประภัสร์ จงสวง อดีตผู้ว่ารฟม. นายนรวิช หล้าแหล่ง นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา โดยมีผู้บริหารของพรรคไทยรักษาชาติให้การต้อนรับ
ด้านร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคทษช. กล่าวว่า คนที่มาร่วมกับพรรควันนี้ เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่า ในฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนที่มารวมกันอยู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือจุดยืนในการรักษาประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจทุกรูปแบบ แม้พรรคของเราจะมีอายุไม่นาน แต่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ จะเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคของเรา เราพร้อมที่จะสร้างความสุขสร้างรอยยิ้ม ให้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีความขัดแย้งกับแกนนำพรรคหรือใครในพรรค ไม่มีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย ตนคิดว่าการทำงานตามอุดมการณ์เพื่อให้ปรากฎเป็นจริง จะทำได้อย่างไร ซึ่งในสถานการณ์นี้ประเทศอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อคือฝ่ายเผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจ กับฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งโจทย์ของเราคือจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจได้อย่างไร หากหยุดยั้งไม่ได้ ประเทศไทยอาจตกอยู่ภายใต้ คสช. อีก10-20ปี อย่างที่ทราบกัน มีการวางกติกาลดทอนอำนาจประชาชน จนมีนักการเมืองบางคนถึงกับประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา รวมทั้งพรรคการเมืองใหญ่ถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมาก การออกรัฐธรรมนูญเช่นนี้ เหมือนกับเจาะจงให้กับมีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเป็นประตูกล เป็นกับดักที่เล่นงานพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้เกิดผลเสียต่อฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อเรารู้เท่าทันในรัฐธรรมนูญและหมากกล เราเชื่อว่าสามารถทำให้พรรคการเมือง พ้นและฝ่าจากกับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ
"ที่มาร่วมงานกับพรรคทษช.เนื่องจากที่นี่ได้รวมผู้สนใจการเมือง มีวิสัยทัศน์ ต้องการมีบทบาททางการเมือง ท่านหัวหน้าพรรคได้มาเชิญผม จากการหารือเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน เลยตัดสินใจมา ที่มาไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็น ยาพาหนะ ที่ทำให้พรรค นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน โดยตั้งเป้าจะนำพาพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 251 เสียง" นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้านร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคทษช. กล่าวว่า คนที่มาร่วมกับพรรควันนี้ เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่า ในฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนที่มารวมกันอยู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือจุดยืนในการรักษาประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจทุกรูปแบบ แม้พรรคของเราจะมีอายุไม่นาน แต่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ จะเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคของเรา เราพร้อมที่จะสร้างความสุขสร้างรอยยิ้ม ให้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีความขัดแย้งกับแกนนำพรรคหรือใครในพรรค ไม่มีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย ตนคิดว่าการทำงานตามอุดมการณ์เพื่อให้ปรากฎเป็นจริง จะทำได้อย่างไร ซึ่งในสถานการณ์นี้ประเทศอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อคือฝ่ายเผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจ กับฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งโจทย์ของเราคือจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจได้อย่างไร หากหยุดยั้งไม่ได้ ประเทศไทยอาจตกอยู่ภายใต้ คสช. อีก10-20ปี อย่างที่ทราบกัน มีการวางกติกาลดทอนอำนาจประชาชน จนมีนักการเมืองบางคนถึงกับประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา รวมทั้งพรรคการเมืองใหญ่ถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมาก การออกรัฐธรรมนูญเช่นนี้ เหมือนกับเจาะจงให้กับมีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเป็นประตูกล เป็นกับดักที่เล่นงานพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้เกิดผลเสียต่อฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อเรารู้เท่าทันในรัฐธรรมนูญและหมากกล เราเชื่อว่าสามารถทำให้พรรคการเมือง พ้นและฝ่าจากกับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ
"ที่มาร่วมงานกับพรรคทษช.เนื่องจากที่นี่ได้รวมผู้สนใจการเมือง มีวิสัยทัศน์ ต้องการมีบทบาททางการเมือง ท่านหัวหน้าพรรคได้มาเชิญผม จากการหารือเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน เลยตัดสินใจมา ที่มาไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็น ยาพาหนะ ที่ทำให้พรรค นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน โดยตั้งเป้าจะนำพาพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 251 เสียง" นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย มีแต่ความรัก อบอุ่น ถึงทุกวันนี้ก็รู้สึกดีไม่เสื่อมคลาย จะยืนหยัดต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างสันติวิธี ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ต่างมองไปในทางเดียวกันในการต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตย พวกเราจึงเดินทางมาในพรรคนี้ โดยไม่มีเงื่อนไข ข้อเรียกร้องในสถานะใดๆ
ทั้งนี้ขอเพียงอย่างเดียวทษช.ต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน หลักการ เมื่อตนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ขอปวารณาตัวตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสพรรคทษช.แม้เป็นพรรคใหม่ แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม ชอบที่พรรคนี้เป็นศูนย์รวมของคนมีความคิดทันสมัย บนรากฐานประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐก็มั่นใจจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายจาตุรนต์กล่าวว่า เป็นความชัดเจนของฝ่ายที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ตั้งพรรคการเมืองในทำเนียบรัฐบาล ใช้โครงการต่างๆ การเดินสายของรัฐมนตรี ดึงนักการเมืองให้ไปร่วมกัน มาถึงวันนี้ประกาศ รัฐธรรมนูญนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา มันก็ชัดเจน
ส่วนของการรับมือนั้น เราต้องคิดว่า ทำอย่างไรให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงมากที่สุด โจทย์คือ ไม่ให้กลไกลรัฐธรรมนูญทำให้เราอ่อนแอ ซึ่งเป็นเรื่องเกมเลือกตั้ง ที่เราต้องรู้ทัน และแก้เกม แต่หลักใหญ่การสกัดสืบทอดอำนาจ คือ เราต้องอธิบายกับประชาชนว่า เหตุใดควรสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ได้เสียงมากที่สุด หากไม่เป็นเช่นนั้น จะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างไร
ส่วนคสช.จะสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เป็นเรื่องพรรคการเมืองต้องประกาศแต่ต้น สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือ ทำตัวเองให้ชัดเจน ยืนยันความตั้งใจตัวเองให้ชัดเจน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยถูกมองว่ามุ่งหวังคะแนนระบบเขต ส่วนพรรคทษช.มุ่งหวังระบบบัญชีรายชื่อ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะตอบแทนพรรคเพื่อไทยก็ไม่เหมาะ หรือจะมาตอบแทนพรรคทษช.เลยก็ดูไม่ดี เอาไว้ค่อยหารือกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าจะอธิบายต่อประชาชนได้อย่างไร ต่อประชาชนให้ต้องเลือกเพื่อไทยระบบเขต ไทยรักษาชาติเลือกเพื่อบัญชีรายชื่อ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีใครอธิบายว่าทษช.จะเน้นปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยมุ่งหวังเขต แต่ที่รู้คือทษช. จะต่อสู้ตามกติกา อยู่ที่ประชาชน ได้คะแนนเสียงเท่าไหร่ อยู่ที่ประชาชน ดังนั้นข้อสังเกตที่ว่า คงเป็นข้อสังเกตที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตมีแต่คนเสื้อแดง ที่ไปอยู่ทั้งพรรคเพื่อชาติ พรรคทษช. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นปช.ได้หารือ จะไม่ตั้งพรรคการเมืองในนามนปช. ส่วนสมาชิกจะไปร่วมงานพรรคใด ถือเป็นเสรีภาพ ตราบใดยืนยันตามหลักประชาธิปไตย ถือเป็นแนวร่วม แต่ถ้าใครไปร่วมกับฝ่ายเผด็จการ ถือว่าขาดกัน ข้อเท็จจริงที่เคยพูดไว้วันนั้น ยังยืนยันมาถึงทุกวันนี้ นายจตุพร ไปเป็นกองเชียร์อยู่พรรคเพื่อชาติ เรามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ไปร่วมงานกับพรรคใดไปในนามองค์กร นปช.
ทั้งนี้ขอเพียงอย่างเดียวทษช.ต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน หลักการ เมื่อตนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ขอปวารณาตัวตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสพรรคทษช.แม้เป็นพรรคใหม่ แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม ชอบที่พรรคนี้เป็นศูนย์รวมของคนมีความคิดทันสมัย บนรากฐานประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐก็มั่นใจจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายจาตุรนต์กล่าวว่า เป็นความชัดเจนของฝ่ายที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ตั้งพรรคการเมืองในทำเนียบรัฐบาล ใช้โครงการต่างๆ การเดินสายของรัฐมนตรี ดึงนักการเมืองให้ไปร่วมกัน มาถึงวันนี้ประกาศ รัฐธรรมนูญนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา มันก็ชัดเจน
ส่วนของการรับมือนั้น เราต้องคิดว่า ทำอย่างไรให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงมากที่สุด โจทย์คือ ไม่ให้กลไกลรัฐธรรมนูญทำให้เราอ่อนแอ ซึ่งเป็นเรื่องเกมเลือกตั้ง ที่เราต้องรู้ทัน และแก้เกม แต่หลักใหญ่การสกัดสืบทอดอำนาจ คือ เราต้องอธิบายกับประชาชนว่า เหตุใดควรสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ได้เสียงมากที่สุด หากไม่เป็นเช่นนั้น จะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างไร
ส่วนคสช.จะสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เป็นเรื่องพรรคการเมืองต้องประกาศแต่ต้น สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือ ทำตัวเองให้ชัดเจน ยืนยันความตั้งใจตัวเองให้ชัดเจน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยถูกมองว่ามุ่งหวังคะแนนระบบเขต ส่วนพรรคทษช.มุ่งหวังระบบบัญชีรายชื่อ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะตอบแทนพรรคเพื่อไทยก็ไม่เหมาะ หรือจะมาตอบแทนพรรคทษช.เลยก็ดูไม่ดี เอาไว้ค่อยหารือกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าจะอธิบายต่อประชาชนได้อย่างไร ต่อประชาชนให้ต้องเลือกเพื่อไทยระบบเขต ไทยรักษาชาติเลือกเพื่อบัญชีรายชื่อ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีใครอธิบายว่าทษช.จะเน้นปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยมุ่งหวังเขต แต่ที่รู้คือทษช. จะต่อสู้ตามกติกา อยู่ที่ประชาชน ได้คะแนนเสียงเท่าไหร่ อยู่ที่ประชาชน ดังนั้นข้อสังเกตที่ว่า คงเป็นข้อสังเกตที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตมีแต่คนเสื้อแดง ที่ไปอยู่ทั้งพรรคเพื่อชาติ พรรคทษช. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นปช.ได้หารือ จะไม่ตั้งพรรคการเมืองในนามนปช. ส่วนสมาชิกจะไปร่วมงานพรรคใด ถือเป็นเสรีภาพ ตราบใดยืนยันตามหลักประชาธิปไตย ถือเป็นแนวร่วม แต่ถ้าใครไปร่วมกับฝ่ายเผด็จการ ถือว่าขาดกัน ข้อเท็จจริงที่เคยพูดไว้วันนั้น ยังยืนยันมาถึงทุกวันนี้ นายจตุพร ไปเป็นกองเชียร์อยู่พรรคเพื่อชาติ เรามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ไปร่วมงานกับพรรคใดไปในนามองค์กร นปช.
Cr:::springnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น