“คุณหญิงหน่อย” แจง “ทักษิณ” ย้ำไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง “คุณหญิงหน่อย” แจง “ทักษิณ” ย้ำไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง
พรรคเพื่อไทย จัดประชุมสมาชิก เพื่อจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ (ภาคเหนือ ) จัดขึ้นที่ ศูนย์ทรัพยากรมนุษย์ล้านนา ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีแกนนำสำคัญ อาทิ พ.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคฯ ,นายจาตุรนต์ ฉายแสง , คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รวมทั้งอดีต ส.ส.พรรคในพื้นที่ภาคเหนือและทั่วประเทศ เข้าร่วม
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้นอกจากประชุมเพื่อคัดเลือกกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทยดั่งเดิมที่เคยมีอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่เพราะสมาชิกเดิมถูกเซทซิโร่ไปหมด จึงต้องมาเริ่มต้นรับสมัครสมาชิกกันใหม่ ส่วนสมาชิกที่เคยเป็น ส.ส.ภาคเหนือเดิม ไม่จำเป็นต้องเช็กชื่อกันใหม่ โดยหลักก็จะให้ ส.ส.เดิมมีสิทธิลงสมัคร ซึ่งต้องยอมรับว่า ในภาคเหนือและอีสานมีคนเสนอชื่อลงสมัครมากกว่า 1 คน แต่พรรคจะให้สิทธิผู้สมัครเดิมก่อน สำหรับสมาชิกที่เป็น ส.ส. เดิมและย้ายพรรคไป ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือตอนล่างแต่น้อยมากไม่สะเทือนแต่อย่างใดเมื่อถามว่ามีความคาดหวังกับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างไร
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จากการลองทำโพลสำรวจความคิดเห็นจะพบว่าประชาชนยังให้ความนิยม ขณะที่โพลของสถาบันต่างๆทำ ก็จะเห็นว่าคะแนนนิยมและความต้องการของประชาชนมากขึ้น ในลักษณะความเดือดร้อนที่สะท้อนออกมาจากห้วงที่ผ่านมา และคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ ซึ่งพรรคยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตอย่างแน่นอน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้นอกจากประชุมเพื่อคัดเลือกกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทยดั่งเดิมที่เคยมีอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่เพราะสมาชิกเดิมถูกเซทซิโร่ไปหมด จึงต้องมาเริ่มต้นรับสมัครสมาชิกกันใหม่ ส่วนสมาชิกที่เคยเป็น ส.ส.ภาคเหนือเดิม ไม่จำเป็นต้องเช็กชื่อกันใหม่ โดยหลักก็จะให้ ส.ส.เดิมมีสิทธิลงสมัคร ซึ่งต้องยอมรับว่า ในภาคเหนือและอีสานมีคนเสนอชื่อลงสมัครมากกว่า 1 คน แต่พรรคจะให้สิทธิผู้สมัครเดิมก่อน สำหรับสมาชิกที่เป็น ส.ส. เดิมและย้ายพรรคไป ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือตอนล่างแต่น้อยมากไม่สะเทือนแต่อย่างใดเมื่อถามว่ามีความคาดหวังกับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างไร
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จากการลองทำโพลสำรวจความคิดเห็นจะพบว่าประชาชนยังให้ความนิยม ขณะที่โพลของสถาบันต่างๆทำ ก็จะเห็นว่าคะแนนนิยมและความต้องการของประชาชนมากขึ้น ในลักษณะความเดือดร้อนที่สะท้อนออกมาจากห้วงที่ผ่านมา และคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ ซึ่งพรรคยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติว่า พร้อมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ไม่ใช่ สื่อเขียนไม่ชัดเจน ท่านไม่คิดหวนกลับมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ท่านได้พูดชัดเจน แต่ในฐานะคนไทยสิ่งไหนที่ให้ความเห็นแล้วเป็นประโยชน์ก็พูดออกมา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราย่อมมีความรักและห่วงใยประเทศชาติ ความรักความห่วงใยไม่ผิดและไม่เป็นปัญหา ส่วนการคัดเลือกผู้จะลงสมัครลงเลือกตั้งท่านก็ไม่มีส่วนเลือก ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้พิจารณา
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเลือกวิธีเดียวกันทุกพรรคทำเหมือนกัน แต่บางพรรคไปหาเสียงเลือกหัวหน้าได้ ยกเว้นพรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าใจดีว่าพรรคที่ผ่านการถูกยุบมา 2 รอบต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นจะบอกว่าการเลือกมาจากคนๆเดียวไม่ใช่ วิธีการเลือกของพรรคเป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า กฎหมายและกติกาการเลือกตั้งในครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ ยอมรับว่า
ใช้ จึงทำให้พรรคต้องระวังมากขึ้น แต่ยอมรับว่าเกิดการเสียเปรียบได้เปรียบอยู่แล้ว เพราะอำนาจอยู่กับเขาจะทำอะไรได้ นอกจากต้องใช้ความพยายามและทำตามกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ยากจนถอดใจ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเลือกวิธีเดียวกันทุกพรรคทำเหมือนกัน แต่บางพรรคไปหาเสียงเลือกหัวหน้าได้ ยกเว้นพรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าใจดีว่าพรรคที่ผ่านการถูกยุบมา 2 รอบต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นจะบอกว่าการเลือกมาจากคนๆเดียวไม่ใช่ วิธีการเลือกของพรรคเป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า กฎหมายและกติกาการเลือกตั้งในครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ ยอมรับว่า
ใช้ จึงทำให้พรรคต้องระวังมากขึ้น แต่ยอมรับว่าเกิดการเสียเปรียบได้เปรียบอยู่แล้ว เพราะอำนาจอยู่กับเขาจะทำอะไรได้ นอกจากต้องใช้ความพยายามและทำตามกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ยากจนถอดใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงท้ายของการประชุม พรรคเพื่อไทยได้เปิดตัวสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นทายาทของนักการเมืองที่เป็นแกนนำคนสำคัญในพรรค
โดยผู้ที่ถูกจับตามมอง คือ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ อายุ 28 ปี บุญชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่จะลงสมัคร ส.ส. 7 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตเดิมของนายบุญทรง รวมทั้งนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ทายาทผู้บริหารตลาดต้นพะยอม และเคยเป็นผู้ช่วยของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่จะมาลงสมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 3 แทนนางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.บุตรสาวของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
Cr:::springnews
โดยผู้ที่ถูกจับตามมอง คือ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ อายุ 28 ปี บุญชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่จะลงสมัคร ส.ส. 7 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตเดิมของนายบุญทรง รวมทั้งนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ทายาทผู้บริหารตลาดต้นพะยอม และเคยเป็นผู้ช่วยของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่จะมาลงสมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 3 แทนนางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.บุตรสาวของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
Cr:::springnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น