อย่างรถไฟฟ้า 3 สาย รับรอง 3 เดือนเสร็จ คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้ทันที ทั้งรถไฟฟ้าอุโมงค์ รถราง รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนรถเดินบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดิน ตอนนี้ตนไม่ทราบว่ารูปแบบเขาทำอย่างไร แต่เทิร์นคีย์ทั้งหมดตนตอบไม่ได้ แต่ทราบว่า รัฐบาลกำลังจะกู้เงินต่างประเทศ ถ้ากู้จะกู้ทั้งหมดหรือไม่ หรือกู้บางส่วนมาต่ออุโมงค์ ส่วนรถบนดินก็ทำตอม่อ วางรางเสร็จ เอกชนหารถมาวิ่งทั้งบนดินและใต้ดิน ตรงนี้เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง หรือจะใช้ระบบเทิร์นคีย์ แต่ระบบนี้พิจารณายาก เพราะผู้ที่จะทำระบบเทิร์นคีย์ ผู้ที่จะมาลงทุนเขาต้องคิดอัตราการลงทุนที่สูง รวมถึงดอกเบี้ยฉะนั้นด้วย ฉะนั้น ค่ารถจะแพง แต่หากรัฐลงทุนส่วนหนึ่งก็จะถูกลง
นายบรรหาร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่าต้องวางผังเมืองอย่างเต็มที่
เพราะขณะนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน บ้านจัดสรรเยอะแยะ เป็นชุมชนแห่งหนึ่ง ทำให้เกิดความแออัด เดินทางไม่สะดวก ฉะนั้น ตนอยากให้เราทำเหมือนต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งที่พักเขาจะอยู่ห่างกับที่ทำงานเกือบ 100 กิโลเมตร เขาจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปทำงาน ตรงนี้เป็นวินัยของเขา ซึ่งเราน่าจะมีรถไฟที่มีความเร็วพอสมควร โดยขยายไปยังจังหวัดลพบุรี อยุธยา หัวหิน เดินทางถึงภายในครึ่งชั่วโมง และรถไฮสปีด เทรน น่าจะมีจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ไปหาดใหญ่ ซึ่งวันนี้เวียดนาม เกาหลี ก็ทำแล้ว และจะเสร็จก่อนเราด้วย ทั้งๆ ที่เขาล้าหลังกว่าเรา
“ต้องเห็นใจรัฐบาล เพราะมาจากข้าราชการทั้งนั้น ไม่กล้าทำอะไรที่ผูกพัน” นายบรรหาร กล่าวพร้อมฝากคำแนะนำถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า อีก 3 เดือนที่จะหมดวาระ รัฐบาลจะต้องทำงาน เรื่องอะไรเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านต้องเอาเข้า อนุมัติไปทันที อย่าไปบอกว่าเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ทำอะไรไม่ได้ ใช้ไม่ได้ เพราะเห็นรัฐมนตรีบางคนพูดว่า จะไม่เสนออะไรเข้าไปในที่ประชุม ครม.แล้ว อย่างนี้ไม่ได้ ต้องทำไปจนหมดวาระ ไม่เสียหาย ไม่มีใครต่อว่า นายกฯ ต้องเดินหน้าต่อไป กฎหมายต่างๆ โครงการต่างๆ ต้องเดินหน้าต่อไปทั้งหมด จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง หรือหลังวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ก็โอ.เค. หยุดได้แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่า การจะดำเนินการในส่วนของรถไฟฟ้า รถราง จะรอให้ดอกเบี้ยต่ำลงอีกสักนิด นายบรรหาร กล่าวว่า
ไม่ต้องรอ รอก็ไม่ทันการณ์ ถ้าไปรออัตราดอกเบี้ยแล้วมันไม่ลดจะทำอย่างไร และหากมันยิ่งสูงขึ้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ตนคิดว่าไม่ควรรอ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่มีบทบาทในการนำทัพเลือกตั้งแล้ว ในส่วนของพื้นที่ภาคอีสาน พรรคชาติไทยคิดว่าจะมีโอกาสมากขึ้นหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คงจะมีสอดแทรกได้บ้าง คงจะมากกว่าเดิม แต่คงไม่มากเท่าไหร่ ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะบังเอิญว่าฐานเสียงของพรรคชาติไทยในพื้นที่ภาคอีสานถูกดึงไปพรรคอื่นเยอะ เช่น ถูกดึงไปพรรคประชาราชก็มี รวมถึงพรรคพลังประชาชนก็มี ผู้แทนภาคอีสานจากพรรคชาติไทย ที่ไหลไปมากเช่นกัน
ต่อข่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ฝนจะตกหนักอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่รู้ ตอบไม่ได้ แต่ไม่น่าจะหนัก เพราะถ้าหนักก็เจอใบเหลือง ใบแดง คงไม่น่าจะหนัก เพราะวันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็วางตัวเป็นกลางแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนนี้ คิดว่าคงไม่หนัก แต่ก็ยังน่ากลัว