อียูฟื้นสัมพันธ์การเมืองไทย มัดคอบิ๊กตู่เร่งเลือกตั้งตามสัญญาพ.ย.61
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูขอเรียกร้องให้ประเทศไทยมีการคืนสู่กระบวนการทางด้านประชาธิปไตยเร่งที่สุด โดยผ่านการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ต้องความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน อีกทั้งต้องฟื้นฟูสิทธิทางการเมือง สิทธิพลเมือง และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ขณะที่ไทยดำเนินการไปสู่ประชาธิปไตย โดยอียูจะยังสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนต่อไป นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูส่งเสริมให้ผู้มีอำนาจของไทยดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ไทยให้คำมั่นระหว่างการทบทวนรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายใต้กลไกรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ (ยูพีอาร์) ครั้งที่ 2 ของไทย เมื่อเดือน พ.ค.2559
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูสังเกตว่าการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ระบุว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นภายใน 150 วัน หลังจากมีการประกาศใช้กฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จำเป็น 4 ฉบับ นอกจากนี้ ยังสังเกตว่าการเตรียมความพร้อมในทางนิติบัญญัติเพื่อจัดการเลือกตั้งกำลังมีความคืบหน้า ซึ่งคณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูยอมรับแถลงการณ์ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 ที่ว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในเดือน พ.ย.61
คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูขอเรียกร้องให้ประกาศใช้กฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เหลืออยู่เร็วที่สุดและให้เคารพกำหนดการจัดการเลือกตั้งตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ อีกทั้งขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของไทยไม่ดำเนินคดีต่อพลเรือนในศาลทหาร ซึ่งรวมถึงความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 12 ก.ย.59
ทั้งนี้ เมื่อเราพิจารณาจากความคืบหน้าที่กล่าวไปข้างต้น จึงเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะเริ่มกลับมาปรับความสัมพันธ์ด้านการเมืองในทุกระดับกับไทยเพื่ออำนวยความสะดวกการเจรจาในประเด็นที่มีความสำคัญร่วมกัน โดยขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปสำรวจความเป็นไปได้ในการกลับมาเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างยุโรป - ไทย และการลงนามในกรอบข้อตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ เพื่อจะสามารถดำเนินการได้กับรัฐบาลพลเรือนที่ได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงขอให้ผู้แทนระดับสูงของอียูและคณะกรรมาธิการยุโรป ร่วมกันติดตามสังเกตการณ์และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีต่างประเทศอียูทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าที่เกิดขึ้น
Cr::: naewna.com