นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวที่กรุงปักกิ่งระหว่างเยือนประเทศจีน ถึงกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
ที่เรียกร้องให้ กกต. คมช. และรัฐบาล วางตัวเป็นกลางในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ว่า การให้วางตัวเป็นกลางคงไม่ค่อยเป็นปัญหา แต่อยากเตือนคนที่คิดทำผิดกฎหมายด้วยว่าอย่าทำ และทุกคนต้องทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ที่สำคัญผู้ที่มีส่วนได้ เสียทางการเมืองควรทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ถ้าอยู่ในกรอบนี้บ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้ วันนี้ไม่อยากให้ใครเอาประโยชน์ของตัวเอง หรือประโยชน์ของพวกอยู่เหนือการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่พอเดินไปข้างหน้าก็พยายามกระตุกให้บ้านเมืองเดินถอยหลังไปสู่ความขัดแย้ง นั่นคือเหตุผลสำคัญที่เราจะร่วมงานกับพรรคพลังประชาชนไม่ได้ เพราะเป็นพรรคที่ทำให้ ประเทศอยู่ในความขัดแย้งต่อไป
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์พูดชัดเจนจะไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน
แต่พรรคชาติไทยที่เป็นพันธมิตรฝ่ายค้านเดิมยังไม่ชัดเจน จะมีการนัดหารือกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า คงได้มีโอกาสพบกันอีก เพราะเคยพูดกันไว้ว่าเมื่อมีเหตุการณ์ สำคัญจะมาพูดคุยกัน แต่บังเอิญตนติดภารกิจที่ประเทศจีน เชื่อว่าเมื่อกลับไปแล้วคงมีโอกาสคุยกัน ส่วนจะมีข้อสรุปอย่างไร ต้องอยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละพรรค
"ชวน” เตือน กกต.ซื้อตัว ส.ส.มีจริง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีการซื้อตัว ส.ส. 30-40 ล้านบาท ว่า ถ้าจำได้ก่อนการเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทยซื้อ ส.ส.ตรัง โดยรัฐมนตรีเป็นคนเจรจาให้เงินรวมทั้งหมด 32.4 ล้านบาท โดยจ่ายงวดแรก 5 ล้าน ส่วนที่เหลือเป็นค่าโปสเตอร์ ค่าน้ำมันรถ และจ่ายรายเดือนให้ 2 แสนบาท ดังนั้นข่าวที่ออกมาว่ามีการซื้อตัว ส.ส. 30 ล้านบาท ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะเขาเคยทำอย่างนี้มาแล้ว เพราะกลุ่มที่มีเงินก็ยังมีเงินอยู่ ส.ส.ที่มาจากระบบเงินจะใช้วิธีอื่นเพื่อสร้างความนิยมก็ยาก เพราะเคยชินกับระบบการใช้เงินซื้อเสียง