เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของนายวัฒนา เมืองสุข พร้อมด้วยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เดินทางมายังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อรอพบกับนายวัฒนา เนื่องจากครบกำหนดที่นายวัฒนาจะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามที่อัยการนัดหมายเพื่อนัดสอบคำให้การข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550
ทหารยังไม่ปล่อยตัว"วัฒนา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้นำตัวนายวัฒนา มารายงานตัวต่อศาล โดยยังคงคุมตัวนายวัฒนาเพื่อปรับทัศนคติที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี หลังถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่าน เนื่องจากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขประกาศคสช.ฉบับที่ 39/2557 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่งศาล25เมย.คดีพรบ.คอมพ์
นายนรินทร์ กล่าวว่า ทหารได้ยื่นคำร้องต่อศาล 1 ฉบับ ระบุว่าการควบคุมตัวนายวัฒนาเป็นไปตามคำสั่งคสช.ฉบับที่ 3/2558 และขอนำตัวนายวัฒนามารายงานตัวต่อศาลเองในวันจันทร์ที่ 25 เมษายนนี้ในคดีผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่นายวัฒนาจะถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วัน เพราะตามกำหนดจะครบการควบคุมตัววันที่ 24 เมษายน แต่เมื่อทหารระบุว่า จะนำตัวนายวัฒนามาส่งศาลด้วยตนเอง จึงค่อนข้างมั่นใจว่านายวัฒนาจะถูกคุมตัวไปจนครบกำหนด และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆอีก
ลูก-เมียไปเยี่ยมที่ค่ายสุรสีห์
"ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบดูว่า เจ้าหน้าที่ทหารจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงต้องขึ้นศาลทหารหรือไม่ ซึ่งทีมทนายจะขอคัดคำร้องจากศาลเพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ตนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายวัฒนาที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรีในวันที่21เม.ย. ซึ่งบุตรสาวและภรรยาจะเข้าเยี่ยมด้วย แต่ทีมทนายความ และแกนนำพรรคกำลังอยู่ระหว่างประสานงานว่า จะอนุญาติให้เข้าเยี่ยมหรือไม่"นายนรินทร์ กล่าว
ร่อนจดหมายฟ้องรบ.ออสซี่
ในขณะที่สำนักข่าวเอบีซี ออนไลน์ของออสเตรเลียรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข ได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังนางจูเลีย บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ให้สังเกตการณ์การใช้อำนาจโดยมิชอบในไทย "ผมไม่พอใจอย่างยิ่งที่ถูกทหารออกหมายจับที่เรียกกันว่า ปรับทัศนคติ แน่นอนว่ามันเป็นเครื่องมือสำหรับข่มขู่และสกัดกั้นฝ่ายต่อต้าน" เอบีซี ออนไลน์ อ้างเนื้อหาในจดหมายที่นายวัฒนาเขียนถึงนางบิชอป
เนื้อหาในจดหมายของนายวัฒนาที่ทางเอบีซีได้มาระบุต่อไปอีกว่า "ผมอยากใช้โอกาสนี้วิงวอนประชาคมนานาชาติและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน กรุณาตรวจสอบแนวโน้มการใช้อำนาจโดยมิชอบของ คสช.ในครั้งนี้ด้วย"
อีบีซีรายงานว่า พวกเขาได้ติดต่อไปยังสำนักงานของนางบิชอปเพื่อขอความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมา พร้อมระบุว่านายวัฒนายังได้ส่งหนังสือร้องเรียนลักษณะเดียวกันถึงนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ และเหล่าทูตในกรุงเทพฯ ด้วย