คสช.สั่งล่าไอ้โม่งชักใย ลูกสาววัฒนา แฉทำกันเป็นขบวนการ

คสช.สั่งล่าไอ้โม่งชักใย  ลูกสาววัฒนา  แฉทำกันเป็นขบวนการ


คสช.สั่งล่าไอ้โม่งชักใยลูกสาววัฒนาแฉทำกันเป็นขบวนการจุดกระแสดึงต่างชาติกดดันวีรดาเดินสายร้องทูตสหรัฐแกนนำนปช.แห่เยี่ยมแต่วืด25เมษาฯหิ้วเสี่ยไก่ขึ้นศาล

เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของนายวัฒนา เมืองสุข พร้อมด้วยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เดินทางมายังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อรอพบกับนายวัฒนา เนื่องจากครบกำหนดที่นายวัฒนาจะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามที่อัยการนัดหมายเพื่อนัดสอบคำให้การข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550

ทหารยังไม่ปล่อยตัว"วัฒนา"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้นำตัวนายวัฒนา มารายงานตัวต่อศาล โดยยังคงคุมตัวนายวัฒนาเพื่อปรับทัศนคติที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี หลังถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่าน เนื่องจากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขประกาศคสช.ฉบับที่ 39/2557 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่งศาล25เมย.คดีพรบ.คอมพ์

นายนรินทร์ กล่าวว่า ทหารได้ยื่นคำร้องต่อศาล 1 ฉบับ ระบุว่าการควบคุมตัวนายวัฒนาเป็นไปตามคำสั่งคสช.ฉบับที่ 3/2558 และขอนำตัวนายวัฒนามารายงานตัวต่อศาลเองในวันจันทร์ที่ 25 เมษายนนี้ในคดีผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่นายวัฒนาจะถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วัน เพราะตามกำหนดจะครบการควบคุมตัววันที่ 24 เมษายน แต่เมื่อทหารระบุว่า จะนำตัวนายวัฒนามาส่งศาลด้วยตนเอง จึงค่อนข้างมั่นใจว่านายวัฒนาจะถูกคุมตัวไปจนครบกำหนด และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆอีก

ลูก-เมียไปเยี่ยมที่ค่ายสุรสีห์

"ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบดูว่า เจ้าหน้าที่ทหารจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงต้องขึ้นศาลทหารหรือไม่ ซึ่งทีมทนายจะขอคัดคำร้องจากศาลเพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ตนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายวัฒนาที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรีในวันที่21เม.ย. ซึ่งบุตรสาวและภรรยาจะเข้าเยี่ยมด้วย แต่ทีมทนายความ และแกนนำพรรคกำลังอยู่ระหว่างประสานงานว่า จะอนุญาติให้เข้าเยี่ยมหรือไม่"นายนรินทร์ กล่าว

ร่อนจดหมายฟ้องรบ.ออสซี่

ในขณะที่สำนักข่าวเอบีซี ออนไลน์ของออสเตรเลียรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข ได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังนางจูเลีย บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ให้สังเกตการณ์การใช้อำนาจโดยมิชอบในไทย "ผมไม่พอใจอย่างยิ่งที่ถูกทหารออกหมายจับที่เรียกกันว่า ปรับทัศนคติ แน่นอนว่ามันเป็นเครื่องมือสำหรับข่มขู่และสกัดกั้นฝ่ายต่อต้าน" เอบีซี ออนไลน์ อ้างเนื้อหาในจดหมายที่นายวัฒนาเขียนถึงนางบิชอป

เนื้อหาในจดหมายของนายวัฒนาที่ทางเอบีซีได้มาระบุต่อไปอีกว่า "ผมอยากใช้โอกาสนี้วิงวอนประชาคมนานาชาติและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน กรุณาตรวจสอบแนวโน้มการใช้อำนาจโดยมิชอบของ คสช.ในครั้งนี้ด้วย"

อีบีซีรายงานว่า พวกเขาได้ติดต่อไปยังสำนักงานของนางบิชอปเพื่อขอความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมา พร้อมระบุว่านายวัฒนายังได้ส่งหนังสือร้องเรียนลักษณะเดียวกันถึงนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ และเหล่าทูตในกรุงเทพฯ ด้วย

 


คสช.สั่งล่าไอ้โม่งชักใย  ลูกสาววัฒนา  แฉทำกันเป็นขบวนการ


ลูกสาวเดินสายร้องทูตมะกัน

วันเดียวกัน น.ส.วีรดา เมืองสุข บุตรสาวของนายวัฒนา เมืองสุข เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสิทธิมนุษยชนสากลได้ตรวจสอบว่าการดำเนินการกับผู้เห็นต่างทางการเมืองของคสช.นั้นขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่

ทั้งนี้หนังสือร้องทุกข์ดังกล่าว นายวัฒนา ได้ลงนามเซ็นต์ชื่อไว้ล่วงหน้าหลาย 10 ฉบับ ก่อนที่ คสช.จะควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ น.ส.วีรดา จึงได้นำหนังสือร้องทุกข์ดังกล่าวมายื่นต่อสถานทูตสหรัฐฯ แทนนายวัฒนา

โดย น.ส.วีรดา กล่าวว่า คสช.ได้ติดต่อมาว่าให้ไปเยี่ยมได้แล้ว และได้อนุญาตให้บิดาโทรติดต่อมายังตน โดยพูดคุยเพียงสั้นๆว่าจะมีคนพาไปหาบิดา พร้อมบอกให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องตื่นเต้น

คสช.หาตัวไอ้โม่งชักใย"วีรดา"

ด้านพ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช. กล่าวถึงการออกมาเคลื่อนไหวของน.ส.วีรดาลูกสาวนายวัฒนาว่า เรื่องการควบคุมตัวนายวัฒนานั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไปแล้วถึงขั้นตอนต่างๆ เชื่อว่าต่างประเทศจะเข้าใจ ร่วมถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เดินทางไปต่างประเทศทุกครั้งก็ชี้แจงเรื่องนี้ตลอด สำหรับเรื่องดังกล่าว คสช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับ น.ส.วีรดาแล้วว่าบิดาถูกเชิญตัวด้วยเหตุใด แต่ก็ยังมีการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ คสช.เชื่อว่ามีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังและกำลังตรวจสอบอยู่

ทำเป็นทีมดึงตปท.กดดันคสช.

"การดำเนินการทำกันเป็นทีมงาน เราติดตามอยู่ ตั้งแต่ที่นายวัฒนาโพสต์เฟตบุ๊ค จนเป็นที่มาของการเชิญตัว และมีการให้ลูกสาวไปยืนหนังสือ ต่อด้วยการแสดงออกของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ในการจุดกระแส ร่วมถึงการเดินทางไปเยี่ยมคุณวัฒนา ของนายจตุพร พรหมพันธ์และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ นปช. ซึ่งสิ่งต่างๆที่เพื่อต้องการดึงต่างชาติให้มากดดันการทำงานของ คสช. แต่ในเรื่องดังกล่าวเราไม่ได้กังวลอะไร เพราะเชื่อว่าต่างชาติจะเข้าใจ ร่วมถึงองค์กรสิทธิ์มนุษยชนต่างประเทศ อย่าง ฮิวแมนไรท์วอช ก็ได้มีการชี้แจง ซึ่งเขาก็เข้าใจถึงแนวทางการทำงานของ คสช." พ.อ.ปิยพงษ์ กล่าว

เชื่อคนเบื่อจุดกระแสไม่ติด

พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่นัดหมายเคลื่อนไหวบริเวณบีทีเอส ช่องนนทรี และเตรียมยกระดับเคลื่อนไหวใหญ่ในวันศุกร์นี้ เชื่อว่า คสช. ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่เชื่อว่าจุดกระแสไม่ได้เพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับการชุมนุมทางการเมือง แต่ที่ คสช.เป็นห่วงคือความปลอดภัยของเขา เพราะมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของเขาเช่นกัน ต้องระมัดระวังในส่วนนี้

ไม่ให้'นปช.'ฉวยโอกาสตีปี๊บ

อย่างไรก็ตามการดูแลคงให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักภายใต้กฎหมายปกติ สำหรับท่าทีของนายวัฒนาขณะนี้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ พูดคุยก็เข้าใจ เพียงแต่ความคิดทางการเมืองของเขาก็ยังคงอยู่ ทั้งนี้การไปเยี่ยมนายวัฒนา ที่ค่ายสุรสีห์ กองพลทหารราบที่9 จ.กาญจนบุรี จะเปิดให้ผู้เป็นญาติของนายวัฒนาเข้าเยี่ยมเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น นายจตุพร นายณัฐวุฒิ เจ้าหน้าที่คงอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้

ตู่-แกนนำนปช.ขอเยี่ยมแต่วืด

เวลาประมาณ 15.30 น. มีรายงานว่า แกนนำนปช. อาทิ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ได้เดินทางไปขอเยี่ยมนายวัฒนาที่ค่ายสุรสีห์โดยมีพ.อ.สุทธิพงษ พืชมงคล เสนาธิการ กรม 29 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ อ.เมืองกาญจนบุรี ให้การต้อนรับ และหารือกันถึงรายละเอียด ว่าจะได้เข้าเยี่ยมหรือไม่ เนื่องจากนายวัฒนาได้แจ้งก่อนหน้านี้ว่า ไม่ประสงค์ให้บุคคลใดเข้าเยี่ยม นอกเหนือจากทนายความและครอบครัว

ระหว่างพูดคุยแกนนำ นปช.ได้กล่าวขอร้องให้นำกลุ่ม นปช.ทั้งหมดเข้าไปเยี่ยมนายวัฒนา แต่การเจรจาล้มเหลว โดยบรรยากาศไม่ตึงเครียดแต่อย่างใด แต่ทางแกนนำ นปช.ก็ยังคงขอร้องให้นำตัวนายวัฒนา ออกมาหา โดยไม่จำเป็นต้องมายืนคุยกันอย่างใกล้ชิด เพียงขอให้เห็นหน้าและยกมือให้กันก็พอ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเคย

ให้ดูแค่ภาพถ่ายวัฒนาอยู่สบายดี

ในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ทหารได้นำภาพถ่ายของนายวัฒนา จำนวน 2 ภาพ ภาพแรกเป็นภาพขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะรับรอง และภาพที่ 2 เป็นภาพขณะที่นายวัฒนา พูดคุยกับลูกสาวทางโทรศัพท์ ในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งดูจากภาพพบว่าห้องที่นายวัฒนาพักอยู่ค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้แกนนำกลุ่ม นปช.ทั้งหมดรู้สึกสบายใจ ว่านายวัฒนายังอยู่สบายดี และยังได้กล่าวขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ที่ดูแลนายวัฒนา เป็นอย่างดี

ตลอดเวลาที่พูดคุยกันบรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง จนกระทั่งเวลา 16.00 น.การเจรจาจึงแล้วเสร็จ จากนั้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่นำรูปไก่ชนติดตัวมาด้วย ฝากให้กับนายวัฒนา โดยผ่านนายทหารที่มาต้อนรับ จากนั้นนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมแกนนำที่มาด้วยกันก้ได้เดินทางกลับ กทม.


คสช.สั่งล่าไอ้โม่งชักใย  ลูกสาววัฒนา  แฉทำกันเป็นขบวนการ


คาดถูกควบคุมตัวไม่เกิน7วัน

โดยนายจตุพร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอขอบคุณกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ที่ได้ต้อนรับพวกเราอย่างเป็นไมตรีระหว่างกัน แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอคุณวัฒนาก็ตาม แต่ก็เป็นท่วงทำนองที่เป็นมิตรที่ดี

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เผยว่า ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่อีกว่า กรอบระยะเวลาในการควบคุมตัวนายวัฒนา จะไม่เกิน 7 วันตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นส่วนการกำหนดวันที่จะปล่อยตัว เมื่อไหร่นั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบเช่นกัน ดังนั้นก็จำเป็นจะต้องติดตามข่าวกันต่อไป

คสช.อ้าง"วัฒนา"ไม่ให้พบเอง

ขณะที่แหล่งข่าวจากคสช. เผยว่า สถานที่ที่พานายวัฒนาไปอยู่นั้นไม่ใช่ที่คุมขัง แต่เป็นสถานที่ที่อำนวยความสะดวกทุกประการ และทางคสช.ยังอนุญาตให้ญาติ โดยเฉพาะลูกสาวเข้ามาเยี่ยมได้ ส่วนฝ่ายอื่นๆ ที่ตอนนี้ร้องขอเข้ามา โดยเฉพาะแกนนำนปช.นั้น เมื่อแจ้งนายวัฒนาให้ทราบ นายวัฒนาเป็นผู้ปฏิเสธไม่ให้เข้ามาเยี่ยมเอง แต่ก็คงอยู่ที่เจ้าตัวว่าจะอนุญาตให้เยี่ยมหรือไม่ เพราะคสช.ไม่ปิดกั้นอยู่แล้ว

จัดหมอดูแล-อยู่สุขสบายดี

และว่าตอนนี้นายวัฒนาไม่ยอมกินข้าว แต่ขอกินน้ำมะพร้าวกับเนื้อมะพร้าว ซึ่งทางทหารก็จัดให้ตามที่ร้องขอ และให้แพทย์คอยตรวจร่างกายตลอด พร้อมกับเตรียมน้ำเกลือและอาหารทางน้ำเกลือไว้แล้ว ยืนยันว่าเราดูแลนายวัฒนาเป็นอย่างดี สถานที่พักก็เหมือนโรงแรม อยู่สุขสบาย ไม่ได้ลำบาก

ลุ้นศาลทหารให้ประกันหรือไม่

แหล่งข่าว คสช. กล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับนายวัฒนามาวันหนึ่งแล้ว โดยนายวัฒนายังยืนยันว่าแสดงความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งคสช.จะใช้ความพยายามในการพูดคุยจนกว่านายวัฒนาจะยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข คือไม่แสดงความเคลื่อนไหวทางการเมือง และจะต้องไม่กล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ คสช.ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบ

"หากท่าทีของนายวัฒนายังแข็งกร้าว ก็คงต้องปฏิบัติตามคำสั่งคสช.ที่ 3 เพื่อนำตัวนายวัฒนาไปฟ้องศาลทหารภายในวันสองวันนี้ ซึ่งศาลทหารก็จะให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับตัวไปฝากขัง ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลทหาร"แหล่งข่าวระบุ

จ่อฟ้องคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีกับนายวัฒนานั้น แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้จัดรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมเอกสารต่างๆ เพื่อเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับนายวัฒนา ข้อหาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ตามประกาศคสช. ฉบับที่ 39/2557 มีอัตราโทษ จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่านายทหารพระธรรมนูญจะนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนภายใน 1-2 วันนี้

มท.1ซัดหวังให้ปั่นป่วนวุ่นวาย

ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การควบคุมตัวนายวัฒนานั้นเป็นไปตามหลักของคสช.ที่สร้างความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมือง เพื่อให้ทุกอย่างในประเทศเดินไปได้ รวมทั้งประชาชนจะได้ไม่สับสนวุ่นวาย เมื่อนายวัฒนาทำแล้วทำอีกในลักษณะนี้ จึงต้องควบคุมนายวัฒนา ซึ่งการอ้างประชาธิปไตยหากอ้างแล้วเกิดความไม่สงบ ก็ไม่สามารถทำได้

เมื่อถามว่านายวัฒนาอ้างถึงสิทธิมนุษยชน ละเมิดไม่ได้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้านายวัฒนาไม่ได้ทำ ก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะละเมิดสิทธิ ซึ่งชัดเจนว่านายวัฒนาเขาทำให้เกิดความวุ่นวาย และตนเชื่อว่าคสช.ก็คิดเช่นเดียวกัน เพราะไม่ใช่แค่เพียงแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองเท่านั้นแต่พยายามจุดประเด็นให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ที่สำคัญคือฝ่าฝืนกฎหมายด้วย

ชี้จัดคูหาประชามติจำลองผิดกม.

ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก สนช. อดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ห้ามทุกฝ่ายรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเพราะจะมีความผิดตามพ.ร.บ.ประชามติมีโทษจำคุก10 ปีว่า เนื้อหากฎหมายฉบับดังกล่าวระบุชัดเจนว่าห้ามรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสนับสนุนหรือต่อต้าน แต่ไม่ปิดกั้นการแสดงความเห็นในการพูดถึงข้อดีข้อเสียร่างรัฐธรรมนูญ หากทำด้วยความสุจริตใจและไม่ขัดต่อกฎหมาย

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับจัดกิจกรรมจำลองการลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ที่หน้าสน.พญาไทนั้น ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดพ.ร.บ.ประชามติ เข้าข่ายการชี้นำให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญชัดเจน มีเป้าหมายไม่สุจริตใจ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวทีจำลองประชามติ หรือการใส่เสื้อรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถือว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายประชามติทั้งนั้น

สมช.เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย

ส่วนพล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มการเมืองและนักวิชาการเคลื่อนไหวเรื่องของประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ต้องขอให้ระมัดระวัง ศึกษาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้ดี การจะทำอะไร ถ้าไม่มั่นใจให้พยายามหลีกเลี่ยงเพราะมีบทลงโทษอยู่ ถ้าทำอะไรเลยเถิดกลายเป็นการละเมิดกฎหมาย มีความผิดตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ ด้านการข่าวยังติดตามพฤติกรรมการเคลื่อนไหว หากมีอะไรบ่งชี้ว่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง เราต้องเตรียมตัดไฟเสียแต่ต้นลม

พลเมืองโต้กลับนัดแต่งขาว

ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen' ได้โพสต์ข้อความ เชิญชวนร่วมแสดงออกโดยสันติ เรียกร้องให้รัฐปล่อยตัววัฒนา โดยการแสดงตัวและยืนเฉยๆ อย่างสงบสันติเวลา 18.00 น. ที่สกายวอล์ก สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี พร้อมระบุด้วยว่า หากยังไม่ปล่อยตัววัฒนาภายในวันศุกร์นี้ เราขอเชิญชวนร่วมชุมนุมใหญ่กดดันอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนเวลาจะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้นำโดย อานนท์ อำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ซึ่งเคยถูกควบคุมตัวและมีการปล่อยตัวไปเมื่อเย็นวันที่ 19 เม.ย.


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์