‘ หลังจากขึ้นศาลเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผมเดินทางมาสหรัฐอเมริกา ประเทศที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผม เพราะสมัยเมื่อ 30 ปีก่อน ผมเคยใช้ชีวิตนักศึกษา ทำงานหาเช้ากินค่ำ และมีครอบครัวอยู่ที่นี่
ชีวิตคนเรามันช่างแสนสั้น ผมจึงใช้ชีวิตทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ตื่นนอนแต่เช้า ออกกำลังกาย เดินทางไปทุกที่ที่อยากไป ทักทายผู้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
หากยังมีโอกาส ผมวางแผนจะใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอยู่ที่นี่ แต่อนาคตของผมจะเป็นอย่างไรแม้แต่พระเจ้าก็ยังไม่รู้
ผมเป็นนักต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง
แม้กระทั่งครั้งนี้ หรืออีกกี่ครั้งในอนาคต จนกว่าผมจะตายจากโลกนี้ไป'