แม้หลายหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทยจะถูกแบ่งแยกออกไป แต่ความเป็นกระทรวงระดับเกรดเอมาตั้งแต่อดีตก็มิได้น้อยลงตามความผกผันไปด้วย กระทรวงคลองหลอดแห่งนี้ยังคงมีความสำคัญในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของคนในชาติ ถือเป็นศูนย์กลางการปกครองที่มีมณฑลภายใต้บังคับบัญชารายล้อมถึง 77 แห่ง
ด้วยความสำคัญดังกล่าว การโยกย้ายพลพรรคชาวสิงห์ค่ายต่างๆ จึงเป็นที่จับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปีนี้จะมีสิงห์คลองหลอดระดับ 11 และข้าราชการจำนวนมากที่ต้องเกษียณอายุราชการไปในสิ้นกันยายน 2558
ในวงจรข้าราชการไทย ปี 2548 มีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับราชการมากเป็นพิเศษถึง 1,500 คน จากที่เคยเปิดรับสมัครสอบบุคคลเข้ารับราชการแต่ละรุ่นแต่ละรอบจะบรรจุเข้ารับราชการเพียงประมาณ 200- 500 คน เป็นอย่างมาก
ปีนี้จึงถือเป็นการปิดบัญชีข้าราชการรุ่น 1,500 โดยมีผู้เกษียณอายุราชการมากที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นใหญ่เป็นโต ที่สำคัญเป็นข้าราชการระดับสูงระดับ 11 หรือหัวหน้าส่วนราชการของแต่ละกระทรวง มากถึง 14 ราย
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยนับเวลาถอยหลังเก้าอี้ใหญ่เบอร์หนึ่งฝ่ายข้าราชการประจำมี “วิบูลย์ สงวนพงศ์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ค่ายสิงห์ดำ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่น 25 ได้เวลาโบกมือลาสละเก้าอี้เปิดทางให้รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ หลังนั่งครองเก้าอี้ครบ 3 ปีแบบหืดขึ้นคอ
ท่ามกลางกระแสข่าวหวิดขาเก้าอี้หักมาตลอดกับความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในระบบราชการ ซึ่งมหาดไทยถือเป็นกระทรวงที่สอดรับงานการเมืองมากที่สุด จึงหลีกหนีสัจธรรมของความขัดแย้งไม่พ้น แต่ปลัดวิบูลย์ก็อยู่ได้ตลอดรอดฝั่งแบบสมศักดิ์ศรีคนเมืองกรุงเก่า ณ บางบาล
ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายแคนดิเดตคู่แข่งเข้าชิงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้โผล่เข้าชิง ปีนี้เก้าอี้เบอร์หนึ่งฝ่ายข้าราชการประจำจำนวนน้อยกว่าทุกครั้ง ที่ผ่านมาปกติมีไม่ต่ำกว่า 5 ราย แต่รอบนี้มีแค่ 4 ราย ที่โดดเด่นเข้าตากรรมการยุคเขียวเข้ม...???
เที่ยวนี้ไร้อดีตคนในหรือลูกหม้อเดิมที่ไปเติบใหญ่ภายนอกกลับเข้ามาร่วมวงเขย่าติ้ว ไม่ว่าจะเป็นสิงห์แดง “ภาณุ อุทัยรัตน์” เกิด 12 กุมภาพันธ์ 2499 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันนั่งเก้าอี้เลขาธิการ ศอ.บต.
หรือจะเป็นคุณเหลน "ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล" เกิด 26 สิงหาคม 2499 จบการศึกษาต่างประเทศ ที่ข้ามห้วยไปเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง 2 เหลืออายุราชการเพียงปีเดียว
นับ “สิงห์” ที่เหลือเข้าเรียงแถวยึดตามกฎเกณฑ์คุณสมบัติคบถ้วนทั้งความรู้ ความสามารถ และอาวุโส ประวัติรับราชการแทบไม่ด่างพร้อย ที่ชัดเจนมี 4 ราย ที่จะมีสิทธิ์มีรายชื่อเขย่าโผในตะกร้าครองตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงมหาดไทย”
ส่วนใครจะเป็นบุคคลผู้โชคดีถูกนำรายชื่อใส่พานเสนอต่อ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปตัดเชือกก่อนตัดสินใจเคาะเหลือเพียงชื่อเดียว เพื่อแต่งตั้งให้เป็นบิ๊กคลองหลอดคนใหม่ ที่รับรู้กันว่าเป็น “เบอร์หนึ่งฝ่ายข้าราชการประจำ”
แน่นอนว่า ไม่เกี่ยวกับฤกษ์งามยามดี แต่เป็นประเพณีปฏิบัติที่ต้องมีการจัดวางคัดเอามือดีทำงานสนองนโยบายรัฐบาล ด้วยการชงชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า
กระนั่นก็ดี เพื่อให้มีการเตรียมพร้อมก่อนที่คนเก่าจะโบกมือลาไปพักผ่อนหลังสิ้นเดือนกันยายนนี้ เปิดเส้นทาง 4 สิงห์บิ๊กคลองหลอด แคนดิเดต “ปลัดกระทรวงคนใหม่”..!!
เริ่มจากขาแรงคนแรกเต็งหนึ่งเข้าโผ ค่ายสิงห์ทอง คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง “กฤษฎา บุญราช” อธิบดีกรมการปกครอง เกิด 5 กรกฎาคม 2500 เหลืออายุราชการน้ำหนักกำลังเดินไปได้สวย 2 ปีแล้วไปเกษียณราชการปี 2560
เส้นทางในกระทรวงคลองหลอดของกฤษฎา เคยนั่งเป็นผู้ว่าฯ ยะลา 2 ปี ก่อนขยับขึ้นนั่งพ่อเมืองสงขลา 3 ปี แล้วกระโดดเข้าค่ายสิงห์เป็นบิ๊กคลองหลอด ขยับเข้าฐานใหญ่ดงสิงห์ยุค “คสช.” ได้นั่งเก้าอี้เบอร์สองกระทรวงมหาดไทย เป็น “อธิบดีกรมการปกครอง”
ขณะที่คู่ชิงคนสำคัญ “ไมตรี อินทุสุต“ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เกิด 8 ตุลาคม 2499 เหลืออายุราชการ 2 ปี จบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่โดดเด่นเหลืออยู่รายเดียว เป็นทายาทค่ายสิงห์แดง รุ่น 27 เกษียณราชการปี 2560
เหล่าสิงห์คลองหลอดรู้กันดีว่า ไมตรีเป็นบุคคลที่มีคอนเนกชั่นสัมพันธภาพค่อนข้างดี ภาพลักษณ์ที่ฉายออกจากประวัติการทำงานอยู่ในกลุ่ม “ฝ่ายบุ๋น” หรือวิชาการแน่น ขยันไม่หยุด อดีตเคยนั่งผู้ว่าฯ ตรัง พะเยา ภูเก็ต ก่อนโยกมานั่งเป็น “รองปลัดกระทรวงมหาดไทย”
ถัดมาเป็นใครคงไม่ได้ “จรินทร์ จักกะพาก” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เกิด 14 เมษายน 2502 เหลืออายุราชการ 4 ปี เกษียณปี 2562 ค่ายสิงห์ดำ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 30 อดีตเคยนั่งผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ผู้ว่าฯ สกลนคร
สิงห์ดำผู้นี้ จัดได้ว่าเป็นกลุ่มบู๊สายวัด ภาพลักษณ์ดีอีกราย ก่อนมีชื่อเข้าโผในรอบนี้บรรดาสิงห์ค่ายต่างๆ มองตรงกัน ถ้าไม่เข้าวิน ฟันธงได้เลยเก้าอี้ที่รออยู่ไม่พลาดต้องโยกสลับเป็นเจ้ากรมอู่ข้าวอู่น้ำ หรือ “อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น” เหมาะสมไปดูแลงบประมาณหลายแสนล้านบาท
น้องเล็กรายสุดท้าย “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกิด 19 กุมภาพันธ์ 2504 เหลืออายุราชการ 6 ปีเกษียณราชการปี 2564 ค่ายสิงห์ดำ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 32
แม้จะเป็นอดีตผู้ว่าฯ ลพบุรีเพียงแห่งเดียวก็ตาม แต่ด้วยอัธยาศัยไมตรี ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงเป็นที่รักใคร่ของทุกสิงห์ และถูกเรียกใช้ตลอดเวลา ชนิดสั่ง 1 ได้ 2 ผนวกกับฝีไม้ลายมือที่ไม่เป็นสองรองใคร ฟูลออปชั่นครบเครื่องเรื่อง “บู๊-บุ่น” จึงมีชื่อโผล่ขึ้นมาแบบไม่เกินคาดด้วยผลงานที่โดดเด่น
ขนาดมีเสียงเม้าท์ลั่นกระทรวงว่า ถ้าปล่อยให้โหวตเสียงเลือกจากเหล่าข้าราชการกระทรวงมหาดไทย รับรองได้ เสียงส่วนใหญ่ต้องไปอยู่ที่น้องเล็กรายนี้ได้เข้าวินทำงานลากยาวแบบไร้ข้อครหาแน่..!!!
โฉมหน้าคุณสมบัติของว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่จะเป็นใคร อนาคตตอนนี้รอแค่เสนาบดีใหญ่ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย ชงเลือกเอาเพียงหนึ่งเดียวมาสานต่อรับนโยบายขับเคลื่อน สางปัญหา ผลักดัน สนองงานของรัฐบาลในเวลาที่เหลืออยู่ จะได้เห็นกันในโอกาสต่อจากนี้ไป !!
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
