นายกฯพบทูตยูเอ็น12ประเทศ ย้ำ!ไทยเดินหน้าตามโรดแมป
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง นายกฯพบทูตยูเอ็น12ประเทศ ย้ำ!ไทยเดินหน้าตามโรดแมป
27 พ.ค.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ณ นครนิวยอร์ก จากประเทศต่างๆ 12 ประเทศ ประกอบด้วย แอนติกาและบาร์บูดา , บุรุนดี , สาธารณรัฐแอฟริกากลาง , คอโมโรส , สาธารณรัฐโดมินิกัน , กาบอง , กานา , ฮังการี , คิริบาส , นาอูรู , แคเมอรูน และวานูอาตู เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ตามโครงการสร้างเครือข่ายพันธมิตรของประเทศไทย (Friends of Thailand) ที่จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศ
จากนั้นเวลา 11.10 น.พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการเข้าพบว่า นายกฯ ได้เล่าให้คณะฑูตฟังถึง การดำเนินงานของรัฐบาล และ คสช.ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์อย่างไรในการทำงานอยู่ขณะนี้ เป็นการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้แก่นานาประเทศ ซึ่งผลตอบรับในวันนี้ดีมาก ทุกคนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดีที่ทุกคนได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงภายในประเทศเป็นอย่างไร นอกเหนือจากนี้บางคนอาจได้ฟังจากทางสื่อในต่างประเทศ ซึ่งบางท่านอาจเข้าใจผิดมองประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่ไม่น่าอยู่ แต่ในวันนี้คณะฑูตทุกคนได้เห็นด้วยตาตนเอง ซึ่งทุกคนได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประเทศไทยน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ประการสำคัญคือทุกคนให้กำลังใจการทำงานของรัฐบาล ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทย
รองโฆษกฯ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศ นายกฯได้ชี้แจงต่อคณะทูตว่า เรากำลังทำอะไร ซึ่งฑูตทุกท่านก็เห็นด้วยว่าหากต้องการทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้นั้น ต้องมีเรื่องของความมั่นคง มีเสถียรภาพมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเรื่องอื่นจะตามมา โดยคณะฑูตเห็นพ้องต้องกันว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ สำหรับการพัฒนาประเทศเราต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนโดยการนำเอาหลักคำสอนต่างๆที่มีประโยชน์ เช่นเรื่องการสอนคนตกปลาไม่ใช่เอาปลามาให้คนมาแนะนำประกอบ นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้พูดถึงสถานการณ์ของโลกที่มีปัญหาวิกฤตอาหาร น้ำ ความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้น และความไม่เสมอภาค ที่เกิดจากความยากจน โดยได้ฝากให้คณะฑูตจากยูเอ็น ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้น รวมถึงบรรดาประเทศที่อยู่ในระดับเดียวกันต้องร่วมมือกันทำให้เสียงของแต่ละประเทศเป็นเสียงเดียว เพื่อให้ได้รับความสนใจ ทำให้ ยูเอ็น ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาแก่กลุ่มประเทศเหล่านี้
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า คณะฑูตได้ชื่นชมวิสัยทัศน์และนโยบายการพัฒนาประเทศซึ่งได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใหม้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ ซึ่งทางคณะฑูตเองนั้นก็ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และนายกฯยังได้เสนอถึงวิธีการแก้ปัญหาภายในประเทศซึ่งบางเรื่องนับว่าเป็นวิกฤติการณ์ของโลกไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศเพียงอย่างเดียว เช่น เรื่องอาหาร น้ำ การดูและภาคเกษตรกรรม เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรเป็นสาขาอาชีพที่มีความสำคัญกับโลก นายกฯยังขอให้คณะฑูตนำสิ่งเหล่านี้ไปเป็นเป็นประเด็นเพื่อให้ทางยูเอ็น หันมาให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรมากยิ่งขึ้น ซึ่งคณะฑูตให้ความสนใจและรอคอยที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกฯอีกครั้งในโอกาสที่นายกฯจะเดินทางไปเยือนองค์กรสหประชาชาติในเดือน ก.ย.
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงแนวทางแก้ปัญหาโรฮีนจาหรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า เล่าเป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม โดยต้องมองไปที่สาเหตุของปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น ระหว่างกลาง และปลายทาง ซึ่งปัญหาโรฮีนจาเป็นปัญหาที่ถกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่ประเทศใด ประเทศเดี่ยว เมื่อถามว่า ได้ฝากอะไรไปบอกกับยูเอ็นหรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึง ต้องรอการประชุมในวันที่ 29 พ.ค.ก่อน
เมื่อถามว่า ต่างประเทศได้พูดถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยบ้างหรือไม่ รองโฆษกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดถึงเลย มีแต่นายกฯ ระบุว่า ประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ และจะให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติในทุกเรื่อง เป็นประเทศที่มีส่วนร่วมในทุกภารกิจเพื่อรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
เมื่อถามว่า ทูตได้สอบถามเรื่องการเดินหน้าคืนประชาธิปไตย และการเลือกตั้งหรือไม่ แล้วนายกฯ ชี้แจงอย่างไรบ้าง พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 เราได้ดำเนินการเรื่องอะไรบ้าง มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในช่วงที่ยังเป็น คสช.เพราะอะไร มีการใช้อำนาจอย่างไรในทางสร้างสรรค์ ที่ผ่านมาได้ก็ไม่มีการใช้ความรุนแรง และเล่าให้ฟัง ณ ปัจจุบันได้มีรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นพัฒนาการที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็ป ซึ่งเขาเข้าใจ และมั่นใจว่าประเทศไทยจะไปในจุดที่รัฐบาลต้องการคือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้บอกหรือไม่ว่า จะมีการเลือกตั้งได้เร็วสุดเมื่อไร พล.ต.วีรชน กล่าวว่า เป็นตามโรดแมป เพราะมีขั้นตอนการออกกฎหมาย การทำประชามติ เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ และหากมีการทำประชามติก็จะมีการเลือกตั้งในห้วงช่วงเดือน ก.ย.59
เมื่อถามว่า มีการสอบถามในประเด็นการเมืองหรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกฯ ได้อธิบายในเรื่องนี้พอสมควร ซึ่งแต่ละประเทศก็แสดงความมั่นใจ เข้าอกเข้าใจและให้กำลังใจคนไทยและประเทศไทย ว่าเราเป็นประเทศที่โชคดีมีหลายๆ อย่าง
เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามถึงการยกเลิกใช้อำนาจของนายกฯ ในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 หรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ไม่ได้สอบถาม ตนคิดว่าสาเหตุหนึ่งที่ไม่ได้สอบถาม เพราะเขาเห็นสถานการณ์จริงในประเทศไทยด้วยตัวเขาเอง ก็ไม่จำเป็นต้องถาม เพราะสถานการณ์ปกติมาก ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์อะไร เพียงแต่ยืนยันกับนายกฯ ว่าจะพาครอบครัวกลับมาประเทศไทยอีก และไปบอกคนในประเทศของเขาให้มาเที่ยวในประเทศไทย