พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวเปิดงานวันเกษตรกร ในหัวข้อเรื่อง "เกษตรกรก้าวหน้า พัฒนาการเกษตรไทย"
"มันมีความสุขมากหรืออย่างไรที่มายืนตรงนี้เห็นทุกคนอยากเป็นกันหมดถ้าอยากเป็นแล้วไม่ทำงานก็ดูดีแต่ถ้าเป็นแล้วทำงานแบบเดิมก็ไม่ต้องมาเป็นหรอกซึ่งก็ต้องแล้วแต่ ทุกคนไม่คิดกันเอาเอง หลายประเทศก้าวหน้าไปมาก แต่ไทยมัวแต่ทะเลาะกัน เสียเวลาไปนานหลายปี ขณะนี้กฎหมายหลายฉบับที่กำลังทยอยประกาศออกมาใช้ ทุกคนอย่าไปกลัว ผมพยายามให้ฝ่ายกฎหมายชี้แจงเพื่อให้เข้าใจว่า แต่ละฉบับนั้นประชาชนได้อะไร อย่าไปกลัวกฎหมาย กฎหมายทุกฉบับทำให้คนอยู่ร่วมกันได้ ไม่ใช่ออกมาให้ทะเลาะเบาะแวงหรือให้นักการเมืองมาตีกัน ฉะนั้นอย่าไปเป็นเหยื่อเขา ประชาชนเป็นใหญ่อยู่ภายใต้กฎหมายมีสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ต่อตนเอง ครอบครัวและบ้านเมือง อย่าคิดว่ากฎหมายมีไว้เพื่อใช้ช่วงมีความขัดแย้ง หากมีความขัดแย้งก็ใช้กฎหมายเข้ามาแก้ไข แต่ถ้าไม่มีความขัดแย้งก็ไม่ต้องใช้กฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บางประเทศเขาไม่มีรัฐธรรมนูญ แต่เรามี เขียนมา 19 ฉบับแล้ว เขียนแล้ว เขียนอีก แล้วฉบับปัจจุบันจะเละอีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แล้วพอใจหรือไม่ที่เขาเขียนให้ประชาชนเป็นใหญ่ ขอให้ทุกคนใส่ใจและดูร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกและดูว่าเรามีความจำเป็นต้องปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งการปฏิรูปทั้ง 11 ข้อ ตามที่ คสช.ระบุไว้ก็น่าจะเป็นแนวทางหลักเพื่อที่จะแก้ปัญหาอื่นๆ อีกหลายปัญหา เพราะปัญหาใหญ่เกิดจากปัญหาเล็กๆ ทั้งนั้น ถ้าปัญหาเล็กแข็งแรง ปัญหาใหญ่ก็แก้ได้ง่าย แต่ถ้าเล็กๆ ไม่แข็งแรง ปัญหาใหญ่ก็ตามมา ดังนั้นที่สำคัญคือประชาชนส่วนใหญ่ต้องมีความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชาวนาเป็นอาชีพที่มีความอดทนสูงอย่าง ถ้าให้ตนเป็นเกษตรกรหรือเป็นชาวนาคงไม่ได้ เพราะตนใจร้อน ถ้าปลูกวันนี้ต้องได้ผลพรุ่งนี้ ทหารถ้ารบไม่ชนะมีอย่างเดียวคือตาย ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งไปรบ รบก็ต้องชนะ เสร็จภารกิจจึงกลับบ้าน ทหารเป็นแบบนี้ ไม่ใช่สั่งไปแล้วเฉยๆ ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ใช่ สั่งวันนี้พรุ่งนี้ มะรืนก็ต้องรายงานว่าอะไรที่ทำ อะไรทำเสร็จแล้ว อะไรยังไม่ทำ อะไรที่เป็นอนาคตก็ต้องส่งไปให้ได้รับการปฏิรูป วันนี้คือปัจจุบันที่จะต้องแก้ไขเพื่ออนาคต ทำเพื่ออนาคตและยังแก้ปัญหาทั้งหมด ก่อนที่ตนจะเข้ามาควบคุมอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เสียด้วย เป็นการขับเคลื่อนประเทศชาติด้วยการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติ มีครม.และข้าราชการที่ทำงานกันตามปกติ ตนใช้มาตรา 44 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการดูแลเรื่องความมั่นคงและเรื่องการออกกฎหมายที่จะออกมาไม่ทัน เพื่อให้ข้าราชการช่วยกันทำงานตามกฎหมายเดิม
"ไม่ใช่ว่าผมเอามาตรา 44 ไปแก้เรื่องหวย เรื่องอะไรบ้าบอคอแตก มันไม่ใช่ เดี๋ยวก็จะให้ผมเอามาตรา 44 ไปแก้ความยากจน มันไม่ใช่ ผมเอา มาตรา 44 เป็นเหมือนตัวเร่งไปปลดล็อกเท่านั้นเอง เพราะแต่ละกระทรวงก็บอกว่าติดกฎหมายฉบับนั้นฉบับนี้ แก้ไขไม่ได้ กฎหมายยังไม่ผ่าน สนช.รออีก 3-4 เดือน ผมก็ต้องใช้มาตรา 44 อย่างล็อตเตอรี่หลายคนต้องการซื้อในราคา 80 บาท ก็พยายามทำให้ได้ 80 บาท สรุปแล้วคงต้องจับหมด สรุปแล้วในวงการนี้กว่าล้านคนที่เกี่ยวข้อง ต้นทาง ปลายทาง ขายกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น รวยกันอยู่แค่ตรงกลาง นำส่งคนนั้น คนนี้ก็กำลังให้สอบอยู่ ใครได้อะไรก็ระวังตัวไว้ ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะผมมาเป็นนายกฯ วันแรกก็มีคนมาเสนอให้ผมแล้ว ผมบอกมึงไปไกลๆ ไปเข้าระบบโน้น ไม่ต้องมา เอ่ยชื่อได้นะ ไปให้ใครทุกเดือนนั่นน่ะ อยากรู้ไหม ถ้าอยากรู้ก็ไปฝันเอา ผมให้ร้ายคนไม่ได้ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องคดีความต่างๆ กระบวนการยุติธรรมก็อย่าไปเร่งเขามากนัก ทุกคนเขาเหนื่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เหนื่อย ศาลก็เละไปหมด เพราะถูกกดดันเหลือเกิน อย่างนั้นมันได้หรือ วันนี้ผมมาทำเพื่อความยุติธรรม อย่าบอกว่าผมไม่กล้า อย่าบอกว่าผมมาทำเพื่อใครมันไม่ใช่ ผมมาทำเพื่อคนไทยทุกคน เพื่อประเทศชาติ ที่ผมทำวันนี้ ผมมีหน้าที่มาทำให้ทุกอย่างก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้หมด แล้วต้องไม่มีการผิดในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งแค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว จึงขอให้ทุกคนช่วยกันอย่าสร้างปัญหาขึ้นอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ต่างประเทศไม่ค่อยถามตนถึงเรื่องประชาธิปไตยแล้ว ทุกวันนี้ถามเพียงว่าประเทศไทยจะค้าขายอะไรกับเขา ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่าทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องทำประชามติไว้ ถ้าจะทำประชามติต้องไปเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญกันมา ใครจะเสนอแก้ก็พวกแม่น้ำ 3-4 สายนี้ไปเสนอมาที่รัฐบาล รัฐบาลจะเสนอต่อ สนช. และสนช.ก็จะแก้รัฐธรรมนูญ แต่คงไม่แก้แบบเดิมที่ทำให้ถูกฟ้องร้องกันเหมือนที่ผ่านมา ฉะนั้นถ้าอยากทำก็ไปแก้มา รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้เข้าใจตรงนี้บ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถามว่าประเทศไทยจะเริ่มใช้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกว่า เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา แต่เวลานี้ยังไม่ถึงตอนนั้นเพราะต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน ซึ่งได้มีการแสดงความคิดเห็นออกไปจากหลายส่วน ส่วนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนั้นก็อยู่ที่กรรมาธิการยกร่างฯ และในส่วนของ คสช. ตนก็ไม่ได้สั่งการแต่อย่างใด และตนไม่สามารถสั่งล้มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้หากไม่ผ่านก็ต้องร่างใหม่ ซึ่งจะทำประชามติหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากทำก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้ถามอยู่ได้ว่า จะทำหรือไม่ อย่างไร ถามกันอยู่ได้ อะไรกันนักหนา ซึ่งนักข่าวถามทุกวัน จนถึงวันนี้ตนรู้สึกรำคาญและจะไม่ตอบอีกแล้ว เอาเวลามาคิดเรื่องการบริหารประเทศดีกว่า การเลือกตั้งก็ดีหากเลือกแล้วได้นักการเมืองที่ดีมีจริยธรรม ทุกอย่างก็จบจะไม่มีการถกเถียงกันอีก แต่วันนี้มีไหมคนอย่างนั้น อย่างวันนี้บางคนก็บอกว่าไม่ชอบนักการเมืองและไม่อยากเลือกตั้ง แต่ตนคิดว่าทุกคนต้องออกมาเลือกตั้งให้หมด แต่ที่สำคัญคืออย่าให้นักการเมืองสามารถชี้นำเราได้ อย่าไปรับเงินอีก มีอยู่นะที่รับเช้า รับบ่าย เพราะจะยากดีมีจนอย่างไร ศักดิ์ศรีของเราก็มีอยู่แล้ว