ใครๆ ก็คงทราบว่า การหยุดผลิตนั้นเพราะไปไม่รอด แต่โอ๊ค พานทองแท้ก็ยังมีการโพสต์fb สนับสนุข้าวลายจุด พร้อมเคาะตัวเลขว่า ลายจุดทำกำไรได้ถึงตันละเกือบห้าพันบาท แต่ที่หยุดไม่ใช่ไม่มีกำไรแต่เพราะมีเหตุบางอย่าง
ผมในฐานะ "หมอข้าว" ขอยืนยันว่า การที่ลายจุดรับซื้อข้าวเปลือกเกวียนละ 15,000 บาทนั้น "โม้" เป็นสัญญลักษณ์ทางการเมืองเท่านั้น และไปไม่รอดจริงๆ ที่กล้าพูดอย่างนี้เนื่องจากเขาบอกขายผ่านfb ซึ่งข้าวมีน้ำหนักมาก ขนาด "หมอข้าว" ขายถุงละ 1 กก. ทางไปรษณีย์ยังคิดค่าส่งแพงมากและไม่ส่งถึงที่ด้วย
ดังนั้น ถุงละ 5กก.ที่ลายจุดขายจึงไปไม่รอด นี่ยังไม่นับถึงความเป็นไปได้ของโครงการน่ะ ถ้าจริงอย่างที่โอ๊คโพสต์ รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์คงไม่ทำให้ประเทศเสียหายถึงหกแสนล้านบาท
สิ่งที่อยากบอกให้ของจริงอยู่นี่ ตอนนี้ "หมอข้าว" ไปลงขันรวมกลุ่มชาวนา รับซื้อข้าวจากชาวนาที่เป็นสมาชิกเกวียนละ 18,000 บาทขาดตัว (ย้ำว่าของจริงครับ) สีเอง แพ๊คเอง ใช้ตรา "ข้าวบ้านเสาหิน" ทำถุงละ1กก. ขายส่งถุงละ 70 บาท เนื่องจากเป็น "ข้าวไรซ์เบอรี่" เน้นคุณภาพ ที่สำคัญปลอดสารเคมี ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น ไม่ต้องกลัวสารเคมีตกค้างเป็นอันตรายต่อร่างกาย อนาคตรัฐบาลก็ควรจะสนับสนุนให้ชาวบ้านรวมกลุ่มผลิตข้าวคุณภาพ และแปรรูปเป็นข้าวสารเอง โดยช่วยหาทางสนับสนุนทางการตลาดและระบบขนส่ง