เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และเจ้าหน้าที่จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เดินทางไปปิดประกาศหมายนัดพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวที่บ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในซอยโยธินพัฒนา 3 ว่า เป็นวิธีการส่งหมายของศาลตามปกติ หากจำเลยไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ก็จะนำไปแขวนที่หน้าประตูบ้าน เหมือนคดีทั่ว ๆ ไป และมีผลทางกฎหมาย ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่มีใครแจ้งมา หลังจากนี้ทางทีมทนาย จะต้องนำคำฟ้องมาศึกษา ส่วนจะนัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดคุยเมื่อใดนั้น ยังไม่ได้คิดไว้ แต่ในเบื้องต้นจะเป็นการหารือของทีมทนายที่ต้องศึกษาคำฟ้องว่าเป็นอย่างไรก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 3 หน่วยงาน คือ อสส. ป.ป.ช.และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เดินทางไปบ้านพักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลขที่ 38/9 ซอยนวมินทร์ 111 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. เพื่อนำหมายนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาฯ ไปมอบให้ แต่ปรากฎว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่อยู่บ้าน จึงได้ติดหมายนัดดังกล่าว พร้อมแนบสำนวนคำฟ้องในคดี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ติดไว้ด้วย
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า แกนนำพรรค ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการส่งหมายนัดครั้งนี้ ว่า เหตุใดจึงมีผู้สื่อข่าวติดตามไปทำข่าว และถ่ายภาพด้วย ถ้ามีการนัดหมายกัน อาจเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ถือว่าไม่เหมาะสม