25 ธ.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แถลงผลงานในรอบ 3 เดือนของรัฐบาลว่า
รัฐบาลกำลังดำเนินการ ภายใต้นโยบาย การขับเคลื่อนประเทศให้สอดคล้องผู้ปฏิบัติงาน และเป็นไปตามโรดแมพ ซึ่งไม่อยากให้กังวลว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และขณะนี้ถือเป็นช่วงระยะที่ 2 คือการเดินหน้าสู่การปฏิรูป จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกัน เพราะขณะนี้ความขัดแย้งยังมีอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ต้องเร่งแก้ปัญหา เพื่อให้บ้านเมืองเข็มแข็ง ขณะที่องค์กรอิสระต้องสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น ซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้ความสำคัญในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปีหน้า
โดยจะเน้นความสัมพันธ์ และความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งต้องให้ประเทศในอาเซียนเข้มแข็งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อรอง. แต่ไทยก็ให้คสามเสมอภาคกับทุกประเทศที่มาลงทุนในไทย. จึงต้องมีการสร้างหุ้นส่วนร่วมกันกับต่างประเทศ โดยจะเน้นวิสัยทัศน์ 5 ปี คือ 2015-2020 คือ ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน เพื่อนำประเทศไปข้างหน้าโดยจะต้องก้าวข้ามกำดักประชาธิปไตยให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากระบบหรือรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากการบริหารราชการแผ่นดิน และผู้ปฎิบัติ
ยืนยันว่าไม่เคยขัดแย้งกับใคร แต่มีความจำเป็นที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และต้องให้การแก้ปัญหามีความชัดเจน ส่วนการปฎิรูปก็ต้องเดิน ตลอดจนการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศ โดยจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทย เป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก และพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อในเรื่องต่างๆ เนื่องจากมีภูมิศาสตร์อยู่ศูนย์กลางของภูมิภาค โดยเริ่มจากการขนส่งระบบรางเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค
“รัฐบาลควรยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ข้าราชการต้องกะตือรือล้น ในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในอนาคตจะต้องหามาตรการตรวจสอบให้เข้มข้นขึ้น ขณะนี้ประเทศกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขอให้สื่อมวลชน ทำงานในเชิงสร้างสรรค์ ลดความขัดแย้งหรือสร้างความขัดแย้ง กฎอัยการศึกยังคงไว้เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ หากพื้นที่ใดเกิดเหตุความไม่สงบ แต่ไม่สามารถหาผู้กระทำความความผิดได้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ