ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลได้ตรวจพยานหลักฐานในคดี แต่ จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ได้ให้การปฏิเสธ ต่อมา จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ได้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลขอกลับคำให้การ โดยขอรับสารภาพผิด ไม่ขอต่อสู้คดีอีกต่อไป เพราะสำนึกในความผิดที่ได้กระทำไป
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ มีความผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 5 ปี แต่รับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี
มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี และรายงานการสืบเสาะแล้วเห็นว่า ข้อความที่ปราศรัยเป็นเรื่องร้ายแรงและจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ เป็น ส.ส. ถึง 2 สมัย ย่อมต้องรู้ผิดชอบ มีวิจารณญาณมากกว่าคนทั่วไป และพบว่า จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ เคยมีประวัติกระทำความผิดมาแล้ว แต่กลับมาทำผิดอีกในเรื่องที่ร้ายแรงขึ้นกว่าเดิมจึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
นอกจากนี้ จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ระบุว่า เบื้องต้นไม่ติดใจที่จะอุทธรณ์ และขณะนี้ถูกคุมขังมานานแล้วกว่า 6 เดือน