ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2556 บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
หน้าอาคารรัฐสภา 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยสส.พรรคกว่า 50 คน ได้ร่วมแถลงข่าวคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร (นัดพิเศษ) วันที่ 31 ต.ค. 2556 ในวาระ 2 และ วาระ 3
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหญิงและชายตัดสินใจออกไปร่วมต่อสู้กับประชาชนเพื่อต่อต้านกฎหมายล้างผิด ที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยพยายามเสนอเข้าสภา โดยไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งพรรคมีแถลงการณ์ในนามกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ เบื้องต้นขอกล่าวถึงราชหัตเลขาของรัชกาลที่7 ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”
นอกจากนี้ แถลงการณ์มีเนื้อหาระบุว่า เนื่องจากเป็นแน่ชัดว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย
กระทำการสวนทางแนวพระราชหัตถเลขา ด้วยการดึงดันใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีเนื้อหาลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงความผิดของแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในการชุมนุมทางการเมืองที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งที่มีสส.พยายามคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ถอนร่างนี้ออกไป แต่ใช้กลไกเสียงข้างมากรวบรัดนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ในวันที่ 31 ต.ค.
ซึ่งพรรคประชาธิปัติย์เห็นว่า หากให้รัฐบาลย่ามใจใช้เสียงข้างมาก ทำในสิ่งที่เลวร้าย
บ้านเมืองจะไร้หลักยึด บ้านเมืองจะจมดิ่งภายใต้อำนาจเผด็จการของรัฐบาล พรรคประชาธิปัติย์ขอประกาศว่า จะร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ เคลื่อนไหวต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยจะเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศ ออกมาชุมนุมคัดค้าน ตั้งแต่่วันที่ 31 ต.ค. 2556 เวลา 18.00น.เป็นต้นไป
ซึ่งนี่ถือเป็นการประกาศศึกนอกสภา และเป็นการเป่านกหวีดครั้งแรกอย่างเป็นทางการ...
ครบรอบ 1 ปี การเป่านกหวีดครั้งแรกอย่างเป็นทางการของ กำนันสุเทพ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ครบรอบ 1 ปี การเป่านกหวีดครั้งแรกอย่างเป็นทางการของ กำนันสุเทพ
กระทั่งวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ ได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งนับเป็นการปิดฉากการเคลื่อนไหวทางการเมืองบนดินไปชั่วขณะ
และจากนั้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ค. นายสุเทพ อดีตเลขาธิการ กปปส. ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับหลานชาย โดยมีพระเทพพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าอาวาสวัดท่าไทร เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ และพระสุเทพ ได้ฉายาว่า “พระปภากโร” ซึ่งหมายถึงผู้กระทำซึ่งแสงสว่าง