โหมไฟกลียุค ปกป้องขุมทรัพย์

ผ่ายุทธศาสตร์ "ทักษิณ" ใช้การกีฬาเปิดเกมรุกการเมือง


สร้างความฮือฮา สร้างกระแสให้ตัวเองได้ไม่หยุดหย่อน แม้โดนรัฐประหารต้อง ระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศ แถมประกาศย้ำผ่านที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว หลายครั้งหลาย รอบ

ขอยุติบทบาท วางมือทางการเมือง

แต่แล้วจู่ๆก็มีเซอร์ไพรส์ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับเลือก จาก ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมนักกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย

ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยคนใหม่ แทน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.คมนาคม และอดีตรองเลขาธิการพรรค ไทยรักไทย

ด้วยมติเอกฉันท์จากสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม 72 คน จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 412 คน

เป็นการได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฯ ทั้งๆที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าร่วม ประชุมด้วยแต่อย่างใด


ทั้งนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ในฐานะที่เป็นผู้ประสานทาบทาม พ.ต.ท.ทักษิณ


ให้มารับ ตำแหน่งนายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพฯ ระบุว่า

ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณในระหว่างไปชมการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ รายการ ไพน์ วัลเลย์ ปักกิ่ง โอเพ่น ที่กรุงปักกิ่ง

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะไม่เล่นการเมืองต่ออย่างแน่นอน แต่จะหันมาใช้เงิน จากมูลนิธิไทยคมที่มี อยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท

เพื่อทำงานด้านสาธารณะ ช่วยเรื่องการศึกษาและกีฬาเป็นหลัก จึงขอให้ช่วยมาเป็น นายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพฯ

ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ความสนใจ และถามว่าเป็นได้หรือ เพราะยังกลับเมืองไทย ไม่ได้ จึงยืนยันไปว่า เป็นได้

เพราะถึงแม้จะกลับประเทศไม่ได้ ก็สามารถมอบหมายให้คนอื่นทำงานแทนไปก่อน พ.ต.ท.ทักษิณจึงตกลง รับตำแหน่งนี้

โดยได้ให้นโยบายหลักมาแล้วว่า จะสร้างนักกอล์ฟไทยโกอินเตอร์ ผลักดันให้ไปอยู่แถวหน้าของวงการกอล์ฟโลก เพราะเล็งเห็นว่า ทุกวันนี้นักกอล์ฟไทยมีศักยภาพ มาก

สะท้อนภาพชัด คนในเครือข่ายอำนาจเก่าด้วยกันเอง ตั้งแท่นชงให้อดีตนายกฯ ทักษิณ เข้ามานั่งกุมบังเหียนนายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพฯ

ขยับเข้ามาสร้างบทบาทในวงการกีฬาเมืองไทย


เท่านั้นยังไม่พอ ช่วงไล่เลี่ยกันก็มีกระแสข่าวฮือฮาข้ามทวีปออกมาอีกว่า


พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมทุ่มเงินกว่า 7,000 ล้านบาท

เทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของฉายา "เรือใบสีฟ้า" ทีมฟุตบอลดังใน พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ

ทำให้ชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระพือไปทั่วโลก

กลายเป็นที่จับตาของคนในแวดวงกีฬา รวมทั้งบรรดาคอการเมืองในประเทศไทย

แน่นอน การเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพฯ และกระแสข่าวการ ทุ่มทุนซื้อสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ

ถือเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามโชว์ภาพให้เห็นว่า

เขามีเป้าหมายจะมุ่งในเรื่องกีฬาไม่สนใจเรื่องการเมือง

แต่ขณะเดียวกัน ทางนิตยสาร "ฟอร์บ" นิตยสารชื่อดังของอังกฤษ ได้เสนอบท วิเคราะห์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยชี้ว่า

เป็นการใช้เรื่องกีฬา เพื่อให้บรรลุผลทางการเมือง

แต่ไม่ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณในการเข้ามาคลุกวงในด้านการกีฬา ในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม


ผลที่เห็นกันชัดเจนหลังจากมีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ ก็คือ


ชื่อของ "ทักษิณ" ไม่เงียบหายไป

การออกมาเคลื่อนไหวเข้ามามีบทบาทในแวดวงกีฬา ส่งให้ชื่อของเขากลายเป็นข่าว กระจายไปทั่วโลก

สร้างกระแส เรียกเรตติ้ง ดึงความสนใจจากสังคม ได้อย่างเข้าเป้า

โดยเฉพาะผู้คนในระดับรากหญ้า รวมทั้งบรรดาแกนนำเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนกลุ่มอำนาจ เก่า ดูจะชื่นชมยินดีกับการขับเคลื่อนบทบาทใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพิเศษ

ถึงขนาดที่นายธีระชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ออกมาเปิด ทางล่วงหน้า

จะเสนอชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกสมาคมชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ในการประชุม สามัญประจำปีในเดือนตุลาคม

ประกาศเสียงดังฟังชัด

"วันนี้เกษตรกรทุกคนยังคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเห็นสมควรที่จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณให้มาร่วมบริหารสมาคม เพื่อพัฒนาเกษตรกร และอุตสาหกรรม ชาวไร่อ้อย

ที่ปรึกษาชมรมชาวไร่อ้อยภาคอีสาน 11 สถาบัน จะเป็นผู้ประสานไปยังชมรม และสถาบันชาวไร่อ้อย รวมทั้งสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย


โดยทั้ง 3 สถาบัน มีเกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นสมาชิกทั่วประเทศนับแสนคน


ให้มีการเสนอชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นนายกสมาคมเหมือนกันทั้งหมด"

เหมือนกับเตรียมเดินเกมรุกคืบจากเก้าอี้นายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพฯ ไปสู่เก้าอี้นายกสมาคมชาวไร่อ้อย

ขยายฐานจากแวดวงกีฬา ไปสู่แวดวงเกษตรกร

ขยายพาวเวอร์จากสมาคมกีฬาของคนระดับบน ลงสู่สมาคมคนระดับฐานรากของประเทศ

นี่คือ ปรากฏการณ์ฉากหน้าที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณขยับเข้ามามีบทบาทในแวดวงการกีฬาถึงขั้นมานั่งเก้าอี้ นายกสมาคมนักกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ทำให้เกิดคำถามจากคอการเมืองตามมาว่า

เชื่อหรือไม่ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นเพราะ พ.ต.ท. ทักษิณ ต้องการวางมือ ทางการเมืองจริงๆ เพื่อหันไปทำงานด้านกีฬาอย่างที่ประกาศไว้

เรื่องนี้ถ้ามองกันเพียงภาพฉากหน้า บางคนอาจจะเชื่อ

แต่สำหรับ "ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ" ตอบได้เลยว่า เราไม่เชื่อ

เพราะเรามองว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้ามานั่งเก้าอี้นายกสมาคม นักกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย หรือกระแสข่าวการทุ่มทุนซื้อสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้


เป็นเพียงยุทธวิธีที่จะบรรลุยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ


ในการปกป้องครอบครัวและผลประโยชน์ รวมทั้งพรรคไทยรักไทยที่เป็นฐานอำนาจ การเมืองของตัวเอง

เพราะอย่างที่เห็นๆกัน คนในครอบครัวกำลังโดนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ ที่ก่อให้เกิด ความเสียหาย แก่รัฐ (คตส.) ไล่บี้สอบสวนคดีทุจริต

หลายโครงการจ่อคิวขึ้นสู่ศาล ซึ่งคดีเหล่านี้อาจส่งผลกระเทือนไปถึงเรื่องทรัพย์สิน และผลประโยชน์ ของตัวเองอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน ปลายเดือนนี้ วันที่ 30 พฤษภาคม ก็เป็น วันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดี ยุบพรรค

นัดชี้ชะตาทั้งพรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์

หากพรรคไทยรักไทยโดนยุบ ก็เหมือนกับฐานอำนาจทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดนทุบทำลายไปด้วย

ในสถานการณ์เช่นนี้ เราเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มีอยู่ ปกป้องคนในครอบครัวและรักษาทรัพย์สินของตัวเองเอาไว้อย่างเต็มที่

และคงต้องทำทุกวิถีทางที่จะพยายามรักษาฐานอำนาจทางการเมือง ไม่ให้ถูกทุบ ทำลายไปต่อหน้าหน้าต่อตา

เพราะเขาเคยประกาศกับคนใกล้ชิดเอาไว้ว่า

ถ้าไม่สู้ก็ตาย หรือไม่ก็หมดตัว แต่ถ้าสู้ยังพอมีโอกาสรอด


ที่สำคัญ แม้วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดนรัฐประหารหมดอำนาจทางการเมือง


ต้องระเห็จไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ

แต่ก็ยังมีพาวเวอร์ มีศักยภาพ ในการดำเนินยุทธวิธีเพื่อไปสู่ยุทธศาสตร์ ทางการเมืองที่วางไว้

เพราะมีปัจจัยเกื้อหนุนอย่างน้อย 3 ประการ คือ

หนึ่ง. มีเงินทุนจำนวนมหาศาล

เห็นได้จากมีการใช้เงินจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ชื่อดัง ในประเทศสหรัฐอเมริกา วางแผนประชาสัมพันธ์ สร้างภาพพจน์ และประสานงานกับทางการสหรัฐฯ

รวมไปถึงกระแสข่าวที่จะทุ่มทุน 7,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เมื่อมีเงินมหาศาลขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรที่จะต่อสายส่งท่อน้ำเลี้ยง เข้ามาในประเทศไทย

สอง. มีเครือข่ายบริษัทข้ามชาติ พร้อม ที่จะอุดหนุน จุนเจือช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งทางเปิดเผยและทางลับ เพราะมีการเกาะเกี่ยวผลประโยชน์กันอยู่

ตรงนี้จึงทำให้ถูกมองว่า มีส่วนโยงใยไปถึงปัญหาที่ประเทศไทยโดนโจมตี จากต่างชาติ

สาม. มีเครือข่ายในประเทศแน่นหนา โดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้าที่ยังติดใจน โยบายประชานิยม พร้อมที่จะระดมพลออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน


ฉะนั้น ในสถานการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเกมสู้


เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง ให้บรรลุยุทธศาสตร์ปกป้องครอบครัว รักษาผลประโยชน์และฐานอำนาจ ของตัวเอง

แน่นอน เขาต้องใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างเต็มที่ ทั้งเงิน บริษัทข้ามชาติ และเครือข่ายคนรากหญ้า ออกมาสู้ทุกรูปแบบ

ในขณะที่กลุ่มผู้ยึดอำนาจก็หาวิธีการรับมือ ไม่ยอม ให้ "ทักษิณ" และเครือข่ายอำนาจเก่า กลับมาผงาด ชำระแค้น

ทีมของเราขอชี้ว่า สถานการณ์เช่นนี้ สุ่มเสี่ยงที่จะเกิด "สงครามการเมือง"

ล่อแหลมที่จะเกิดกลียุค ฝูงชนบ้าคลั่ง ปะทะรุนแรง เหมือนอย่างที่ นพ.ประเวศ วะสี ออกมาเตือนล่วงหน้า

และแน่นอน ขึ้นชื่อว่า "สงคราม" ไม่มีที่ไหนที่ไม่ สูญเสีย


ไม่ว่าสงครามรูปแบบไหน ก็มีแต่ความสูญเสีย.



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์