ทีมโฆษก ปชป.รุมซัดรัฐบาล จี้ “ปึ้ง” เลิกเติมเชื้อไฟ ชี้ “ปู” เลือกดันเลือกตั้ง พาประเทศล่มจม
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นบ่อย ทำให้คนกรุงเทพฯ คิดว่าเป็นกิจกรรมรายวันไปแล้ว และที่ผ่านมานายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแล ศอ.รส. แถลงให้ร้ายผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้โยนระเบิดที่ถ.บรรทัดทอง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทำไม ศอ.รส.จึงไม่สามารถจับกุมใครได้เลย ถือเป็นการใส่ร้ายผู้ชุมนุมโดยมีเป้าหมาย เพื่อให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นว่ามี 2 กลุ่มใหญ่ที่จ้องก่อให้เกิดความรุนแรง
คือ 1.กลุ่มชุดเฉพาะกิจตระเวนทำร้ายประชาชนทั่วกรุงทั้ง 7 เวที มีการใช้ ปืน .38 มม. และระเบิดอาร์จีดี 5 ทั้งที่ ถ.บรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นระเบิดชนิดเดียวกัน แต่ไม่มีการตั้งสมมุติฐาน สอบสวนหาผู้กระทำผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สน.บางนา จับกุมวัยรุ่นพกระเบิดอาร์จีดี 5 เหตุใดนายสุรพงษ์จึงไม่คิดสอบสวนขยายผลเลย ทำไมจึงเร่งแถลงประณามใส่ร้ายผู้ชุมนุม 2.กลุ่มตระเวนทำร้ายก่อวินาศกรรมโดยมีเป้าหมายคือนักการเมืองและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
โดยมีการใช้ระเบิด เอ็ม 26 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่เกิดเหตุระเบิดที่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และวังสวนผัดกาด
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการสอบสวนดำเนินการ ทั้งที่บริเวณโดยรอบมีกล้องวงจรปิดสามารถนำมาประกอบการตรวจสอบได้ โดยเมื่อพบว่าโยงถึงคนของตัวเองก็ไม่กระตือรือร้นในการสอบสวน แต่กลับมุ่งใส่ร้ายผู้ชุมนุม ดังนั้นนายสุรพงษ์เป็นเชื้อไฟอย่างดีให้ผู้ชุมนุมออกมามากขึ้น จึงเป็นห่วงว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังหลงเชื่อ ถ้าคิดว่ายุทธศาสตร์นี้จะทำให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ได้ก็ถือว่าเป็นการคิดผิด เพราะคนกลัวว่าประเทศจะล่มจมมากกว่า
ทางด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฎ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าขอเรียกร้องให้รัฐบาล และ ศอ.รส.ให้หยุดพฤติกรรม 4 ก.
คือ ก้าวร้าว กดดัน กลั่นแกล้ง และโกหก เพราะจะเป็นตัวเร่งและซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศ โดย 1.พฤติกรรมก้าวร้าวมีแกนนำในรัฐบาลหลายคนมีพฤติกรรมเช่นนี้ อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ระบุควรนำผู้ชุมนุมไปยิงเป้าถือเป็นการก้าวร้าวที่คนในรัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำ 2.พฤติกรรมกดดัน ขอให้ ศอ.รส.หยุดกดดันข้าราชการ ประชาชน องค์กรอิสระคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในการทำงาน เพราะขณะนี้ภาพที่ออกมาดูเหมือนกับคู่ขัดแย้งคือรัฐบาล และ กกต. 3.พฤติกรรมกลั่นแกล้งขอให้รัฐบาล และศอ.รส.หยุดแถลงใส่ร้ายผู้ชุมและทำเกียร์ว่างไม่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดบิดเบือนข้อมูลทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และ 4.โกหก ขอให้หยุดโกหกระดับโลกคือการไปโกหกกับสหประชาชาติใส่ร้ายผู้ชุมนุม เพราะจะเป็นการซ้ำเติมวิกฤติของประเทศ
และหากทำได้จะได้ประโยชน์ใน 3 ข้อ คือ 1.ไม่ซ้ำเติมวิกฤติประเทศ 2.เปิดช่องให้มีการแก้ปัญหาประเทศ และ 3.ให้รัฐบาล และศอ.รส.มีที่ยืนในประเทศไทย.