"ปู"ย้ำร่าง กม.นิรโทษฯ เป็นของ ส.ส.ไม่ใช่รัฐบาล วอนให้พูดคุยกันในสภาดีกว่าไปปิดถนนประท้วง
นายกฯ ย้ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ไม่ใช่ของรัฐบาล วอนแยกส่วนอำนาจนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ระบุใช้เวทีสภาแสดงความคิดเห็น ไม่อยากเห็นมีการประท้วงปิดถนน
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าร่างดังกล่าวไม่ใช่ร่างของรัฐบาลแต่เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จึงต้องมองเรื่องอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติทำงานกันคนละส่วน ในส่วนรัฐบาลสิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่คือการพยายามทำให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปอย่างสงบ และไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย และ พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่มีการถกเถียงกันยังมีอีกหลายขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของ ส.ส.และยังมีขั้นตอนของ ส.ว.อีก เชื่อว่าระหว่างนั้นความกระจ่างของข้อมูลก็คงจะมีมากขึ้น และเชื่อว่าผู้ที่มาร่วมกันคิดหรือประชาชนทุกคนจะได้รับฟังอย่างเต็มที่และพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์สูงสุด
เมื่อถามว่า ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภา นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในส่วน ครม.นั้นยังคงต้องมีการประชุมนอกสถานที่ตามกำหนดการเดิม แต่หากไม่ติดภารกิจก็จะต้องเข้าร่วมในฐานะ ส.ส.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเดินหน้าสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยท่ามกลางความขัดแย้ง
จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลายหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงจะต้องรอดู แต่ในเจตนารมณ์ของ ส.ส.แต่เรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เราเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่าน แต่ในสภา ส.ส.แต่ละท่านจะได้รับสิทธิการอภิปรายอย่างกว้างขวาง เราก็เชื่อว่าเวทีสภาเป็นเวทีที่ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อมูลผ่านทางสื่อมวลชน ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วน ถ้ามีโอกาสได้รับฟังก็จะทำให้ความกระจ่างต่างๆ คงจะดีขึ้น อยากเห็นเวทีนี้ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันและอยู่บนหลักความเข้าใจกันด้วย
เมื่อถามถึงการที่ฝ่ายค้านระบุว่านายกฯดื้อตาใสบอกว่าร่างนี้เป็นร่างของสภานั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ตอบว่า
ผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในสภามานานแล้วคงทราบดีอยู่แล้วว่าอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจฝ่ายบริหารมันแยกส่วนกัน ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละเสาหลักอยู่แล้ว และตนก็ทำหน้าที่ในส่วนรัฐบาล โดยต้องทำหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย
"ต้องเรียนว่าการพิสูจน์ความจริงกับการนิรโทษกรรมต้องมองทีละส่วน การพิสูจน์ความจริงเราได้ให้คณะกรรมการของ คปค.และคณะกรรมการในการพิสูจน์ความจริงอยู่แล้ว และว่าไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว การนิรโทษฯก็เป็นเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วนที่อยากจะเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ แต่วันนี้เชื่อว่าสิ่งที่หลายฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนั้นเป็นเนื้อหาในรายละเอียด ซึ่งในรายละเอียดนั้นจะต้องใช้เวทีสภาที่จะพูดกันในข้อกฎหมายหรือประเด็นรายละเอียดต่างๆ ซึ่งขอให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมและความเสมอภาค" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯเห็นด้วยกับคำว่า "set zero" หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
ตอนนี้มองว่าสิ่งที่เราจะเดินไปข้างหน้าได้ต้องใช้เวลาการพูดคุยกันและอยากให้ทุกฝ่ายมองมิติของประเทศ มองว่าส่วนใดบ้างที่ทำให้บ้านเมืองสงบได้ เพราะเราก็ผ่านมาทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ไม่ทำอะไรเลยกับการปรับเรื่องต่างๆ เราก็ต้องพยายามแก้กันไปเพราะเราก็พูดวนกันอย่างนี้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ขั้นตอนยังมีอีกหลายขั้นตอน
เมื่อถามถึงการพิจารณาในรัฐสภาจะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
อยากให้มองว่าการทำงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเป็นคนละส่วนกัน เพราะกฎหมายเป็นเรื่องของนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าห่วงการชุมนุมต่างๆ ซึ่งได้มีการติดตามสถานการณ์และพยายามทำความเข้าใจอย่างเต็มที่ และขอให้ชุมนุมในกรอบกฎหมาย อย่าปิดถนนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน