เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เวลา 12.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องความจำเป็นและความเหมาะสมในการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง ระหว่างวันที่ 9-18 ต.ค.รวมถึงงบประมาณและจำนวนกำลังพล อีกทั้งจะยื่นศาลขอถอนประกันแกนนำอีกครั้งหรือไม่หลังเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ศาลได้ยกคำร้อง
ซึ่งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า
เหตุที่ต้องประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ช่วงวันที่ 9-18 ต.ค.เพราะวันที่ 7 ต.ค.มีกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.)มาล้อมทำเนียบรัฐบาล 400-500 คน มีการปลุกระดมคนแสดงเจตจำนงล้มรัฐบาล และตรวจพบปืน มีด ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ อีกทั้งในวันที่ 11 ต.ค. นายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางเยือนรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ จึงประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ใช้กำลังตำรวจ 56 กองร้อย หรือ 21,550 นาย สาเหตุที่ใช้กำลังตำรวจมาก เพราะต้องดูแลทำเนียบรัฐบาลช่วงที่อาคันตุกะมาเยือน และต้องดูแลความปลอดภัยรัฐสภา โดยใช้งบประมาณในการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ครั้งนี้ 206 ล้านบาท ส่วนการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง สองครั้งแรกใช้งบ 284 และ 295 ล้านบาทตามลำดับ ถ้าเหลือก็ส่งคืนคลัง
"แม้จะมีผู้ชุมนุมน้อยก็ต้องประกาศใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สินเหมือนช่วงที่ผ่านมา ส่วนจะสั่งถอนประกันแกนนำผู้ชุมนุมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตำรวจ ยืนยันการประกาศพ.ร.บ.มั่นคง ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรัฐบาลที่แล้วใช้ไป 15 ครั้ง โดยใช้กับการชุมนุมไป 12 ครั้ง ส่วนที่เหลือไม่มีการชุมนุม" พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า
เหตุผลที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งที่ไม่มีการชุมนุม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสามารถรักษาความปลอดภัยในการประชุมนานาชาติได้ เพราะมีบทเรียนแล้วจากการที่ผู้ชุมนุมไปล้มการประชุมอาเซียน ที่พัทยา จากนั้นเมื่อมีการประชุมนานาชาติก็ต้องมีมาตรการป้องกัน และบทเรียนที่ผ่านมา 2-3 ปี ถ้าการชุมนุมสงบปราศจากอาวุธ การแก้ปัญหาก็ไม่ยาก ไม่มีความสูญเสีย แต่ถ้าการชุมนุมมีการก่อการร้าย ใช้อาวุธสงคราม ปัญหาก็จะลุกลามบานปลาย.