ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ จังหวัดไหนได้เพิ่มเท่าไหร่ เช็คเลย!!


ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ จังหวัดไหนได้เพิ่มเท่าไหร่ เช็คเลย!!

วันที่ 8 ธ.ค.66 ที่กระทรวงแรงงาน มีการจัดประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (กรรมการไตรภาคี) เพื่อพิจารณา ค่าแรงขั้นต่ำ ประจำปี 2566 โดยนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม

เริ่มการประชุมตั้งแต่เวลา 10.00 -15.00 น. เบื้องต้นข้อมูลจากที่ประชุมพบว่ามี 5 จังหวัด ไม่ได้เสนอขอปรับ ค่าแรงขั้นต่ำ เข้ามา หนึ่งในนั้นคือ จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม การจากหารือเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุป

นายไพโรจน์ ในฐานะกรรมการไตรภาคี แถลงผลการพิจารณา ค่าแรงขั้นต่ำ ประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำทั้ง 77 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 2-16 บาท ซึ่งค่าแรงขั้นที่เพิ่มมากที่สุดคือ จ.ภูเก็ต คือ 370 เพิ่มขึ้นจาก 354 บาท และต่ำที่สุดคือ 330 บาท ใน 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 328 บาท

ทั้งนี้ จะมีการเสนอผลการประชุมวันนี้ไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 12 ธ.ค. และจะมีการเริ่มปรับใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำนี้ในวันที่ 1 ม.ค.2567



สำหรับรายละเอียดการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 แบ่งออกเป็น 17 อัตรา ดังนี้

1.กลุ่มที่เพิ่มเป็น 370 บาทต่อวัน มี 1 จังหวัดคือ จังหวัดภูเก็ต (เดิม 354 บาท)
2.ปรับเพิ่มเป็น 363 บาท มี 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (เดิม 353 บาท) จังหวัดนครปฐม (เดิม 353 บาท) นนทบุรี (เดิม 353 บาท) ปทุมธานี (เดิม 353 บาท) สมุทรปราการ (เดิม 353 บาท) และสมุทรสาคร (เดิม 353 บาท)
3.ปรับเพิ่มเป็น 361 บาท มี 2 จังหวัด คือ ชลบุรี (เดิม 354 บาท) และระยอง (เดิม 354 บาท)
4.ปรับเพิ่มเป็น 352 บาท มี 1 จังหวัด คือ นครราชสีมา (เดิม 340 บาท)
5.ปรับเพิ่มเป็น 351 บาท มี 1 จังหวัด สมุทรสงคราม (เดิม 338 บาท)
6.ปรับเพิ่มเป็น 350 บาท มี 6 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา (เดิม 343 บาท) สระบุรี (เดิม 340 บาท) ฉะเชิงเทรา (เดิม 345 บาท) ปราจีนบุรี (เดิม 340 บาท) ขอนแก่น (เดิม 340 บาท) และเชียงใหม่ (เดิม 340 บาท)
7.ปรับเพิ่มเป็น 349 บาท มี 1 จังหวัด คือ ลพบุรี (เดิม 340 บาท)
8.ปรับเพิ่มเป็น 348 บาท มี 3 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี (เดิม 340 บาท) นครนายก (เดิม 338 บาท) และหนองคาย (เดิม 340 บาท)
9.ปรับเพิ่มเป็น 347 บาท มี 2 จังหวัด คือ กระบี่ (เดิม 340 บาท) และตราด (เดิม 340 บาท)
10.ปรับเพิ่มเป็น 345 บาทมี 15 จังหวัด คือ กาญจนบุรี (เดิม 335 บาท) ประจวบคีรีขันธ์ (เดิม 335 บาท) สุราษฎร์ธานี (เดิม 340 บาท) สงขลา (เดิม 340 บาท) พังงา (เดิม 340 บาท) จันทบุรี (เดิม 338 บาท) สระแก้ว (เดิม 335 บาท) นครพนม (เดิม 335 บาท) มุกดาหาร (เดิม 338 บาท) สกลนคร (เดิม 338 บาท) บุรีรัมย์ (เดิม 335 บาท) อุบลราชธานี (เดิม 340 บาท) เชียงราย (เดิม 332 บาท) ตาก (เดิม 332 บาท) พิษณุโลก (เดิม 335 บาท)
11.ปรับเพิ่มเป็น 344 บาท มี 3 จังหวัด คือ เพชรบุรี (เดิม 335 บาท) ชุมพร (เดิม 332 บาท) สุรินทร์ (เดิม 335 บาท)
12.ปรับเพิ่มเป็น 343 บาท มี 3 จังหวัด คือ ยโสธร (เดิม 335 บาท) ลำพูน (เดิม 332 บาท) นครสวรรค์ (เดิม 335 บาท)
13.ปรับเพิ่มเป็น 342 บาท มี 5 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช (เดิม 332 บาท) บึงกาฬ (เดิม 335 บาท) กาฬสินธุ์ (เดิม 338 บาท) ร้อยเอ็ด (เดิม 335 บาท) เพชรบูรณ์ (เดิม 335 บาท)
14.ปรับเพิ่มเป็น 341 บาท มี 5 จังหวัด คือ ชัยนาท (เดิม 335 บาท) สิงห์บุรี (เดิม 332 บาท) พัทลุง (เดิม 335 บาท) ชัยภูมิ (เดิม 332 บาท) และอ่างทอง (เดิม 335 บาท)
15.ปรับเพิ่มเป็น 340 บาท มี 16 จังหวัด ระนอง (เดิม 332 บาท) สตูล (เดิม 332 บาท) เลย (เดิม 335 บาท) หนองบัวลำภู (เดิม 332 บาท) อุดรธานี (เดิม 340) มหาสารคาม (เดิม 332 บาท) ศรีสะเกษ (เดิม 332 บาท) อำนาจเจริญ (เดิม 332 บาท) แม่ฮ่องสอน (เดิม 332 บาท) ลำปาง (เดิม 332 บาท) สุโขทัย (เดิม 332 บาท) อุตรดิตถ์ (เดิม 335 บาท) กำแพงเพชร (เดิม 332 บาท) พิจิตร (เดิม 332 บาท) อุทัยธานี (เดิม 332 บาท) และราชบุรี (เดิม 332 บาท)
16.ปรับเพิ่มเป็น 338 บาท มี 4 จังหวัด คือ ตรัง (เดิม 332 บาท) น่าน (เดิม 328 บาท) พะเยา (เดิม 335 บาท) แพร่ (เดิม 332 บาท)
17.ปรับเพิ่มเป็น 330 บาท มี 3 จังหวัด คือ นราธิวาส (เดิม 328 บาท) ปัตตานี (เดิม 328 บาท) และยะลา (เดิม 328 บาท)

 



นายไพโรจน์ก ล่าวว่า เหตุผลของการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ จะต้องดูเรื่องอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ สภาพการจ้างงาน อัตราการว่างงาน ซึ่งอาจจะมีคำถามว่าบางจังหวัดขึ้นค่าจ้างน้อย บางจังหวัดขึ้นค่าจ้างสูง ต้องย้ำว่า ทางคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัด มีสูตรการคำนวณตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ แล้วนำมาพิจารณาในที่ประชุมวันนี้ ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไม่สามารถดูได้จากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง จะต้องดูจากหลายปัจจัยประกอบ

เมื่อถามถึงกรณี จ.ภูเก็ต ที่ได้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำสูงที่สุดเป็น 370 บาท จากข้อมูลการหารือในช่วงเช้าระบุว่า จ.ภูเก็ต ไม่ได้มีการเสนอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ประชุมมีเหตุผลในการพิจารณาอย่างไรบ้าง นายไพโรจน์กล่าวว่า จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดพิเศษ เนื่องจากมีภาคเกษตรกรรมน้อยมาก แต่มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะที่สุด และมีอัตราการจ้างงานสูง บางธุรกิจมีการจ้างมากกว่า 400 บาทต่อวัน และอีกสาเหตุหนึ่งก็เรื่องค่าครองชีพในพื้นที่ ดังนั้น ค่าจ้าง 370 บาทต่อวัน เราคิดว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม

ถามถึงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทตามที่รัฐบาลประกาศไว้ นายไพโรจน์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นการพิจารณาในระยะถัดไป ซึ่งจะพยายามปรับให้ขึ้นเป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้คือ 400 บาท แต่ต้องทำความเข้าใจว่าการปรับค่าแรงขั้นต่ำนั้นเป็นการพิจารณาร่วมกันใน 3 ภาคี ที่ต่างก็มีเหตุผลเห็นสมควร



เมื่อถามว่าหาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง สั่งให้มีการทบทวนเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ จะต้องทำอย่างไร นายไพโรจน์กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่หากจะมีการปรับค่าจ้างใหม่ ก็ต้องมีการพิจารณาในปีหน้า

เมื่อถามว่าในกฎหมายไม่ได้มีการกำหนดว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำทำได้เพียงปีละครั้ง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปรับเพิ่มอีกครั้งในปีหน้า ไพโรจน์กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามมติในที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างด้วย ซึ่งหากจะมีการปรับเพิ่มอีกครั้งในรอบปี ทางอนุกรรมการพิจารณาค่าจ้างจังหวัด จะต้องพิจารณาหลักการและเหตุผล เพราะเราไม่สามารถขึ้นโดยคณะกรรมการค่าจ้างเพียงอย่างเดียว

เมื่อถามว่าในการประชุมครั้งนี้มีปัญหาการปรับตัวเลขมากที่สุดในภูมิภาคใด นายไพโรจน์กล่าวว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่วันนี้ก็ถือว่าเป็นการประชุมที่เสร็จเร็วกว่ากำหนด แม้ว่าจะมีการขอเวลานอกออกไปประชุมก่อนกลับมาร่วมพิจารณาในที่ประชุม เพื่อความรอมชอมและความเห็นอกเห็นใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์