"มั่นใจไม่ใช่เหตุจากธรรมชาติ"
นักวิชาการหวั่นน้ำเสียเจ้าพระยาถูกดูดเข้าคลองประปา ชลประทานคาดอีก 2 วัน น้ำเสียไหลถึงปทุมฯ-นนท์-กทม. สธ.เผยผลตรวจไม่พบยาฆ่าแมลงในน้ำและซากปลา กรมมลพิษ มั่นใจน้ำเจ้าพระยาเน่าจนปลาตาย ไม่ใช่เหตุจากธรรมชาติ พร้อมส่ง 2 ทีมลุยตรวจ 4 โรงงานริมเจ้าพระยา แต่ไม่ให้ทิ้งเหตุเรือน้ำตาลล่ม ผู้ว่าฯ อ่างทอง ประกาศ อ.ป่าโมก เป็นเขตโรคระบาดเกี่ยวกับสัตว์น้ำจืด
หลายหน่วยงานต่างพร้อมใจกันลงไปตรวจหาสาเหตุที่ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเน่า จนเป็นเหตุให้ปลาในกระชังที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ตายจนหมด ล่าสุด ดร.ณัฏฐา หังสพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมแม่น้ำ ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ปกติแล้วคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ต้นแม่น้ำที่ จ.นครสวรรค์ จนถึงอ่าวไทยนั้น มีระดับชั้นคุณภาพน้ำอยู่ที่ระดับ 3- 5 โดย จ.อ่างทอง จะอยู่ในระดับที่ 3 หมายความว่า สัตว์น้ำสามารถอาศัยอยู่ได้ และใช้ในการทำเกษตรอย่างไม่มีปัญหา ดังนั้นสาเหตุปลาและสัตว์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตายเป็นจำนวนมากนั้น เชื่อว่าเกิดจากเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่าง เป็นอุบัติเหตุจากภายนอก เช่น การปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน หรือการทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำช่วงใดช่วงหนึ่ง ไม่ใช่สาเหตุจากคุณภาพน้ำตามธรรมชาติ
"คุณภาพชั้นน้ำมี 5 ชั้น คือชั้นที่ 1 ดีมากสามารถกินดื่มได้ ส่วนชั้น 2 ใช้ทางทัศนียภาพเช่นน้ำเข้าปากได้เวลาเล่นน้ำหรือว่ายน้ำไม่เป็นอันตราย ส่วนชั้นที่ 3 ใช้ทางเกษตรกรรมได้ และชั้น 4-5 จะใช้ทางคมนาคมเป็นหลัก อย่างไรก็ตามควรรีบหาสาเหตุให้พบ เพื่อให้รู้ว่าความเข้มข้นของสารพิษที่เจือปนเป็นเท่าไร และรีบปล่อยน้ำจากเขื่อนชัยนาทมาทำให้มลพิษในแม่น้ำช่วงนั้นเจือจาง ก่อนที่น้ำเสียจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่อ่างทอง จะไหลผ่านมาถึง ต.สำแล เขตชลประทาน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดแหล่งน้ำดิบที่จะสูบน้ำเข้าคลองประปาที่คนกรุงเทพฯ ใช้เป็นประจำ " ดร.ณัฏฐา กล่าว
ดร.ณัฏฐา กล่าวว่า ที่ผ่านมาคุณภาพในแม่น้ำเจ้าพระยาดีขึ้นทุกปี เพราะมีการดูแลจัดการรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหน่วยงานของรัฐบาล เช่น กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข ต้องช่วยกันเร่งหาสาเหตุของน้ำเน่าเสียครั้งนี้ให้เจอ พร้อมหาต้นเหตุให้พบ หากเป็นมลพิษของเสียที่ปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรม ต้องรีบแจ้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไปตรวจสอบ พร้อมเร่งหาวิธีทำให้มลพิษเจือจางให้เร็วที่สุด