ลูกเยี่ยมพ่อ หมอเผ่า ปลื้ม!

เช้าวันนี้ (13 มี.ค.) ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ บุตรชายและบุตรสาวของนายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เข้าเยี่ยม โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า นายแพทย์ประกิตเผ่า มีอาการดีใจอย่างมากที่ได้พบบุตร และมีกำลังใจดีขึ้น สดชื่นและทานอาหารได้ ซึ่งแพทย์ระบุว่า นายแพทย์ประกิตเผ่า ให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี แต่ถ้าญาติจะย้ายออกก็เป็นสิทธิของญาติที่จะทำได้ในบ่ายวันนี้

ในช่วงบ่ายวันนี้ ทนายความครอบครัวทมทิตชงค์ จะไปยื่นฟ้องนางสาวเปมิกา วีรชัชรักษิต ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ฐานละเมิด โดยจะเรียกค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท จากการประพฤติตนโดยเปิดเผยในทำนองชู้สาวกับสามีของบุคคลอื่น

วันนี้ตนได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางไปยื่นฟ้อง น.ส.เปมิกา ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท จากการประพฤติตนโดยเปิดเผยในทำนองชู้สาวกับสามีของบุคคลอื่น เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายแก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก

การฟ้องร้อง 200 ล้านบาท เกิดจากความสูญเสียทั้งชื่อเสียง ตัวดิฉันเอง และน.ส.เปมิกา ได้ประจานไปเยอะมาก ในเรื่องของสามี และชื่อเสียงของโรงเรียนที่คุณพ่อ คุณแม่สร้างมาตลอด 20-30 ปีต้องมาเสียหายภายในวันเดียว ที่สำคัญจิตใจของลูกๆ

อยากให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัว ขอความกรุณาอยากให้ทุกคนมองว่าหลังจาก นพ.ประกิตเผ่าเป็นแบบนี้แล้ว หากกลับเข้าสังคมจะอยู่ในสังคมอย่างไร ขอให้เห็นใจ อย่างมองเป็นตัวตลก เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัว ทั้งนี้ คุณหมอยืนยันว่าหากไม่มีการกระตุ้น หรือใส่ความคิดที่ไม่ดี นพ.ประกิตเผ่าจะหายจากอาการดังกล่าว

หลังจาก นพ.ประกิตเผ่า หายแล้ว ตนจะต้องเข้ามาดูแลจิตใจ นพ.ประกิตเผ่า เมื่อตื่นขึ้นมาและอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง รวมทั้งทราบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนเห็นใจด้วย"

ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ มีการโอนเงินออกจากบัญชี นพ.ประกิตเผ่า จริง จำนวนเงินนั้นก็ตามที่ นพ.ประกิตพันธ์ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ คือ 20-30 ล้านบาท ส่วนจะเป็นการโอนเงินในคราวเดียวกันหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อน

มีการไปซื้อรถยนต์จริง มีการโอนทะเบียน โอนรถกันประมาณเดือนมกราคม 2550 แต่ตนเชื่อว่าเป็นการหลอกลวง และใช้จิตวิทยาหมู่ เนื่องจากตอนเกิดเรื่อง ศาลได้แจ้งแล้วว่าอาการป่วยของ นพ.ประกิตเผ่า ย้อนหลังไป 4 เดือน.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์