ศาลไต่สวนชี้ขาดวันนี้คดีหมอเผ่า ระทึกปล่อย-ไม่ปล่อย

ลุ้นระทึกวันนี้!ศาลปล่อย-ไม่ปล่อย นพ.ประกิตเผ่า หลังไต่สวน สารวัตร 191 พยานปากสุดท้ายในคดีดัง ขณะที่ สธ.พร้อมนำร่าง พ.ร.บ.สุขภาพจิตเข้าถกใน สนช.ศุกร์ที่ 16 มี.ค.เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญ ระบุประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคจิตเข้าบำบัดในระบบแค่ร้อยละ 20

หวั่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำสู้คดี ยัน รพ.ไม่เคยปฏิเสธรับคนไข้ กองปราบฯ เปิดตัว "ด.ต.ชำนาญ" หนึ่งในทีมเฝ้า "หมอเผ่า" ยอมรับลูกพี่เก่า ติดต่อให้อยู่โยง รพ.ศรีธัญญา แต่บอกปัดเพราะติดภารกิจ "ผู้การ ป." สั่งทำรายงานชี้แจง ส่วนที่สถาบันกัลยาณ์ฯ ไร้เงาญาติเยี่ยม ขณะที่ "เปมิกา" ก็ไม่รับโทรศัพท์

กรณี "เดลินิวส์" เสนอข่าว นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาแอพพลายด์ฟิสิกส์ ถูกครอบครัวนำตัวส่ง รพ.ศรีธัญญา ด้วยอาการโรคจิตหวาดระแวง เจ้าตัวดิ้นรนโทรศัพท์ออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสาวคนสนิท จนนำไปสู่การแจ้งความร้องทุกข์ กระทั่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล เบื้องต้นศาลสั่งย้าย "หมอเผ่า" ไปรักษาตัวที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ต่อเนื่องด้วยการสืบพยานทั้งสองฝ่าย ได้ข้อสรุปว่าจะไต่สวนพยานปากสุดท้ายในวันที่ 12 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ก่อนจะวินิจฉัยสั่งคดีต่อไป

นพ. อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวง สาธารณสุข กล่าวถึงการเปิดโอกาสให้ญาติเข้าเยี่ยม นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาแอพพลายด์ฟิสิกส์ ว่าแม้ว่าศาลจะให้อยู่ในดุลพินิจของ พญ.ดวงตา ไกรภัสร์ พงษ์ แพทย์เจ้าของไข้เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม แต่เกรงว่าหากอนุญาตให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้าเยี่ยม อาจจะทำให้อีกฝ่ายโต้แย้งในชั้นศาลได้ เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ศาล จะใช้ดุลพินิจพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงกำชับ พญ.ดวงตาว่าหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยม

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าในส่วนของโรงพยาบาล และสถาบันที่สังกัดกรมสุขภาพจิต ยังไม่มีการปฏิเสธคนไข้ แม้จะมีกรณี นพ.ประกิตเผ่า เกิดขึ้น เพราะโรงพยาบาลจะดูที่อาการคนไข้เป็นหลัก ถ้ามีอาการชัดเจน มีคนนำส่งชัดเจน เช่น ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน ญาติ หรือเจ้าหน้าที่พามาก็ต้องรับคนไข้ไว้ดูแล

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสุขภาพจิต ในวันศุกร์ที่ 16 มี.ค. นพ.อภิชัย กล่าวว่า จะมี การนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปให้คณะกรรมาธิการดู และอธิบายถึงหลักการและเหตุผล ว่าประเทศไทยมีความจำเป็นในการใช้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และจะเสนอตัวเลขว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา มีคนไข้ทางจิตอยู่ในสังคมเท่าไหร่ และไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขของ ผอ.ฝ่ายสุขภาพจิต องค์การอนามัยโลก ระบุไว้ชัดเจนว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาเพียงร้อยละ 10-30 โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีผู้เข้ารับ การรักษาร้อยละ 30 แต่สำหรับประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 20

จากการพูดคุยกับ นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่าขณะนี้ยังไม่มีญาติเข้าเยี่ยมนพ.ประกิตเผ่า คาดว่าวันเดียวกันนี้ก็คงไม่มีใครเข้าเยี่ยม เพราะเป็นวันหยุด แต่ถ้ามีการเข้าเยี่ยม อาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากได้ เพราะแม้ว่าศาลจะให้แพทย์เจ้าของไข้ใช้ดุลพินิจ แต่ก็เป็นเฉพาะในกรณีที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาคนไข้เท่านั้น "ข้อสังเกตเรื่องเวชระเบียนโรงพยาบาลศรีธัญญานั้น ยืนยันว่าการบันทึกเวชระเบียนดำเนินการอย่างถูกต้อง และไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

แต่ที่ไม่ได้ทำโดยทันที เพราะเป็นกรณีเร่งด่วน ต้องใช้เวลาศึกษาประวัติคนไข้จากคนใกล้ชิดก่อน ดังนั้นจะบันทึกเวชระเบียนทันทีคงไม่ได้ เรื่องนี้บางฝ่ายที่ไม่เข้าใจแล้วนำไปขยายความอาจเกิดความเสียหายได้ กรมสุขภาพจิตจึงต้องชี้แจงอีกครั้ง"

กล่าวถึงกรณี "เวชระเบียนนพ.ประกิตเผ่า" ว่า ศาลไม่ได้ตำหนิเรื่องการบันทึกเวชระเบียนของโรงพยาบาลศรีธัญญา ผู้ที่ไปชี้แจงต่อศาลได้รายงานให้ทราบว่า ศาลสงสัย และต้องการทราบเกี่ยวกับขั้นตอนการบันทึกเวชระเบียนเท่านั้น ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างได้ทำตามขั้นตอนปกติอยู่แล้ว ทั้งนี้ในวันที่ 12 มี.ค.หากศาลมีคำสั่งอย่างไร ทางกรมสุขภาพจิตพร้อมปฏิบัติตาม ถ้าศาลเห็นว่าต้องรักษาผู้ป่วยต่อ โรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิต ก็พร้อมรักษาต่อ แต่ขึ้นอยู่กับญาติตามกฎหมายของนพ.ประกิตเผ่า ด้วยว่าต้องการให้รักษาอย่างไร

ซึ่งนับเป็นวันที่ 9 แล้วที่ นพ.ประกิตเผ่า พักรักษาตัวตามคำสั่งศาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีญาติผู้ป่วยรายอื่นเดินทางเข้าเยี่ยมอาการญาติของตนเองตามเวลาเยี่ยมปกติ คือช่วงเช้าเวลา 09.00 น. จากนั้นหยุดพักเที่ยง จนช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. ได้เข้าเยี่ยมอีกครั้ง ไปจนถึงเวลา 16.00 น. หมดเวลาเยี่ยม แต่ปรากฏว่าไม่มีญาติของนพ.ประกิตเผ่า เข้าเยี่ยมแต่อย่างใด มีเพียงแพทย์แวะเวียนไปดูอาการเท่านั้น

ในวันนี้คงไม่ได้ไปเยี่ยมสามี เพราะแพทย์เจ้าของไข้ประสานมาว่า หากคนไข้ร้องขอว่าอยากพบใคร ทางแพทย์จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับการประสานมา ส่วนความเคลื่อนไหวของ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต เพื่อนสาวคนสนิทของ "หมอเผ่า" ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ แต่ปลายทางไม่มีผู้รับสาย

ในร่างกายของ นพ.ประกิตเผ่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ยังคงสืบหาพยานบุคคลที่จะมายืนยันสถานที่อยู่ของ นพ.ประกิตเผ่า ย้อนหลัง 48 ชั่วโมง ก่อนเข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา โดยทยอยสอบปากคำพยานไปแล้วส่วนหนึ่ง ทั้งครอบครัวของนพ.ประกิตเผ่า แพทย์ผู้รักษา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ บช.น.หรือ 191 ที่ช่วยเหลือครอบครัวทมทิตชงค์ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ นพ.ประกิตเผ่า เมื่อครั้งอยู่ที่ รพ.ศรีธัญญา

พนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย คือ ด.ต. ชำนาญ ใสจันถึก ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปยังรพ.ศรีธัญญา ทาง พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.ป. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.3 บก.ป.เรียกตัว ด.ต.ชำนาญ มาพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งให้ทำรายงานข้อเท็จจริงในวันดังกล่าว เสนอมายัง ผบก.ป.ด้วย

เบื้องต้น พ.ต.อ. อัคราเดช ได้เรียกตัว ด.ต.ชำนาญ มาสอบถามแล้ว ทราบว่าวันดังกล่าวได้รับโทรศัพท์จาก พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผบ.ร้อย 3 กก.2 (ป้อง กันและปราบปรามจลาจล) บก.ตปพ. อดีตผู้บังคับบัญชา ให้เดินทางไปพบกันที่รพ.ศรีธัญญา โดยไม่ทราบว่าให้ไปพบเรื่องอะไร

แต่ด.ต.ชำนาญ ปฏิเสธที่จะช่วยงานเพราะติดภารกิจประจำที่กองปราบปราม จากนั้นจึงเดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อัคราเดช ได้ให้ ด.ต. ชำนาญ ทำรายงานเรื่องดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเสนอให้ ผบก.ป.พิจารณา

(ป้องกันและปราบปรามจลาจล) บก. ตปพ. กล่าวสั้น ๆ กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ศาลได้นัดให้ไปไต่สวนในเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มี.ค.นี้ ซึ่งตนจะเดินทางไปเบิกความต่อศาลเป็นปากสุดท้าย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งตนอยู่ร่วมระหว่างการไต่สวนด้วย ศาลได้กำชับว่าห้ามแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชนอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นการกดดันศาล ซึ่งตนต้องปฏิบัติตาม

ที่ไปอยู่ในเหตุการณ์เพราะนพ.ประกิตพันธ์ ทมทิตชงค์ เพื่อนซึ่งสนิทสนมกันมาตั้งแต่เขาเรียนแพทย์เชียงใหม่ ส่วนตนเรียนอัสสัมชัญลำปาง แล้วรู้จักกัน มาขอร้องให้ช่วยเหลือ ตนพอจะช่วยอะไรได้ก็ให้การช่วยเหลือไปในฐานะเพื่อนเท่านั้น

พนักงานของสถาบันฯ ยังคงทำงานตามปกติ ข้างผนังมีการติดประกาศข้อความขอบคุณประชา ชนที่มาให้กำลังใจ นพ.ประกิตเผ่า ขณะที่บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานของตน มาดูระเบียบการเพื่อสมัครเรียนกวดวิชา โดยนางนิตยา (สงวนนามสกุล) แม่ของลูกสาววัย 15 ปี กล่าวว่าได้ยินชื่อ "แอพพลายด์ฟิสิกส์" มานาน ลูกสาวเพิ่งจะเข้า ม.ปลาย เลยพามาดูระเบียบการเพื่อจะสมัครเรียน ข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อการตัดสินใจให้ลูกสาวสมัครเรียน

ตอนนี้มีลูกเรียนที่นี่ 2 คน คนโตเรียนชั้น ม.5 จะขึ้น ม.6 ส่วนคนเล็กกำลังจะขึ้น ม.4 เลยให้มาดูระเบียบการสมัครเรียน แม้จะมีข่าวเกี่ยวกับหมอเผ่า แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นอยู่.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์