ตร.คุ้ยพินัยกรรม หมอประกิตเผ่า

กองปราบตั้งชุดสืบสวนเร่งหาข้อมูล "หมอประกิตเผ่า" อยู่ที่ไหน-กับใครก่อนเข้าศรีธัญญา พบหมอคนดังเคยเข้าพักที่คอนโดฯย่านสะพานควาย สั่งเดินหน้าคุ้ยพินัยกรรม พร้อมส่งหนังสือเชิญ "น้องเป-กลุ่มเพื่อน" เข้าให้การสัปดาห์หน้า

ปริศนาอาการป่วยทางจิตประสาทของ น.พ.ประกิตเผ่า ทมชิตชงค์ เจ้าของและผู้บริหารสถาบันกวดวิชา "แอพพลายด์ ฟิสิกส์" อันโด่งดัง ซึ่งถูกส่งตัวเข้ารักษายังโรงพยาบาลศรีธัญญา จนบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของคุณหมอคนดังกับ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นิสิตมหาวิทยาลัยชื่อก้อง เพื่อนสนิทของ น.พ.ประกิตเผ่านั้น

ยังคงไม่ได้รับการคลี่คลาย แม้ศาลจะไต่สวนคำร้องขอให้ปล่อยตัว น.พ.ประกิตเผ่า ไปแล้วถึง 2 นัด โดยศาลยังคงนัดไต่สวนอีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม ซึ่งคาดว่าจะมีคำสั่งได้ในวันเดียวกัน

ในส่วนที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับเรื่องร้องทุกข์จากครอบครัว "ทมทิตชงค์" ให้ช่วยตรวจสอบหาที่มาของสารเอฟรีดีน สารอันตรายที่ตรวจพบในร่างกาย น.พ.ประกิตเผ่า จนเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการป่วยทางจิตประสาท

ทั้งนี้ มีรายงานจากกองปราบปรามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบยังคงสืบสวนหาเบาะแสเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่การสืบสวนและสอบสวนเพื่อยืนยันถิ่นที่อยู่และพยานที่อยู่กับ น.พ.ประกิตเผ่า ในช่วงเวลา 48 ชั่วโมงย้อนหลังก่อนที่จะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เนื่องจากผลพิสูจน์ทางการแพทย์ระบุว่า น.พ.ประกิตเผ่า ได้รับสารเอฟรีดีนในห้วงเวลาดังกล่าว

โดยในประเด็นนี้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.ป. เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง และ>ได้จัดชุดพนักงานสอบสวนกลุ่มที่ 8 กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.รับผิดชอบเรื่องการสอบสวน

พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม (ผกก.1ป.) กับ พ.ต.ท.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผกก.1 ป. รับผิดชอบและติดตามความเคลื่อนไหวของ น.พ.ประกิตเผ่า ในช่วง 48 ชั่วโมงย้อนหลัง โดยให้เก็บข้อมูลอย่างละเอียดว่า น.พ.ประกิตเผ่าเดินทางไปที่ใด กับใครบ้าง

นอกจากนี้ยังให้ชุดสืบสวน กก.1ป.ตรวจสอบกระแสเงินในบัญชี รวมทั้งกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงเรื่องพินัยกรรมที่ น.พ.ประกิตเผ่า ทำไว้ด้วยว่า มีการทำพินัยกรรมไว้จริงหรือไม่ และรายละเอียดเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินการตรวจสอบประเด็นเรื่องถิ่นที่อยู่ของ น.พ.ประกิตเผ่านั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ทำการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของ น.พ.ประกิตเผ่า ไปได้ช่วงเวลาหนึ่งแล้ว

โดยก่อนหน้าที่จะมีการส่งตัวเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญานั้น น.พ.ประกิตเผ่าได้เดินทางไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใกล้กับสี่แยกสะพานควาย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าคอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นห้องพักที่ซื้อหรือเช่าอยู่

เพื่อไปยังที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตามลำดับ แต่ในช่วงก่อนที่จะมาปรากฏตัวที่คอนโดมิเนียมย่านสะพานควายนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งประเด็นนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือเชิญตัว น.ส.เปมิกา เพื่อนสาวคนสนิทมาชี้แจ้งข้อเท็จจริงแล้วในวันที่ 15 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่ง น.ส.เปมิกา จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนหรือไม่ก็ได้ เพราะเป็นเพียงแค่การเชิญตัวเท่านั้น ไม่ใช่การออกหมายเรียกแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนยังทำหนังสือเชิญกลุ่มเพื่อนที่รู้จัก น.ส.เปมิกา และน.พ.ประกิตเผ่า มาสอบถามข้อเท็จจริงด้วย หากมีการพาดพิงถึง แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีใครบ้างและมีจำนวนกี่คน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในการตรวจสอบถิ่นที่อยู่กับพยานบุคคลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยากซับซ้อนอะไร เพราะเป็นการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบเอกสารหลักฐานยืนยันการเข้า-ออกที่พักเท่านั้น

แต่ที่ตำรวจให้ความสำคัญคือการซักถามพยานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากพยาน จะสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่าพยานปากใดให้การไปตามข้อเท็จจริง หรือมีสิ่งใดปิดบังซ่อนเร้นอยู่

จาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ