ไอทีวีกับ ชุดความจริง ที่สังคมไม่รู้

น่าจะเป็นการ ผ่อนคลาย สถานการณ์ไปได้ เปลาะหนึ่ง กับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่า กรมประชาสัมพันธ์ สามารถเข้าไปดำเนินการรับผิดชอบ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ได้เนื่องจากได้รับการยกเว้นตามมาตรา 80 ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ หรือหมายความว่า กรมประชาสัมพันธ์ สามารถให้ ไอทีวี สามารถออกอากาศได้ โดยไม่ต้อง จอดับ หลังเวลา 24.00 น. ของวันที่ 7 มี.ค. ตามที่พนักงานไอทีวี เรียกร้อง

ก็ดีใจด้วย แต่ในฐานะประชาชนหรือคนที่อยากเห็น ทีวีเสรี จริง ๆ ตามเจตนารมณ์หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 35 คือความชัดเจน ชัดแจ้งในเวลาอันรวดเร็วว่า ต่อไป จะเป็นอย่างไร

คือ สัญญาที่ สปน.ทำไว้กับบริษัทไอทีวีนั้น ถูกยกเลิกไปแล้ว ส่วนการออกอากาศหลังเวลา 24.00 น. ต้องใช้เครื่องมือกรมประชาสัมพันธ์ โดยทีมงานหรือพนักงานไอทีวีเดิม และต้องเปลี่ยนชื่อ ทีไอทีวี นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป และจะเป็นต่อไปอีกนานเท่าไร

วันนี้ สังคมยังสับสนอยู่ระหว่างสัญญาไอทีวี กับพนักงาน ไอทีวีถูกปิดไปแล้ว แต่พนักงานไอทีวียังอยู่

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการหรือบอร์ด ไอทีวีชุดใหม่นี้ ควรเร่งทำความจริง ให้ชัดก่อนว่า เกิดอะไรขึ้นและกำลังจะดำเนินการต่อไปอย่างไร พนักงานไอทีวี จะเป็นอย่างไร ได้รับเงินชดเชยเท่าไร ตกงานหรือกรมประชาสัมพันธ์รับไปต่อ ความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะวันนี้ ทั้งค่าสัมปทาน 2 พันล้าน ค่าปรับกว่า 9.7 หมื่นล้าน สปน. ยังไม่ได้รับทำอย่างไร มีทรัพย์ สินต่าง ๆ อะไรบ้างที่ต้องเป็นของรัฐ

ต่อไป ทีไอทีวี แห่งนี้ จะไปทางไหน กรณีรัฐเข้ามาบริหารคงหมดสิทธิมาทำ แต่หากให้เอกชนรายใหม่ จะกำหนดเงื่อนไขให้เป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ ซ้ำรอย

เพราะผู้เกี่ยวข้องพูดกันคนละที 2 ที ขณะที่ สังคมส่วนหนึ่งก็ปล่อยอารมณ์ไปกับ การเสียดาย และแทบไม่รู้เลยว่า สุดท้ายประชาชนนั่นแหละที่เสียประโยชน์ที่สุด จากกรณี ไอทีวี นี้

รับรู้ข้อเท็จจริง ไม่ครบทุกด้าน หรือเรียกว่า สังคมยังไม่มี ชุดความจริง ทั้งหมดมาประกอบการตัดสินใจ วินิจฉัยไตร่ตรอง เพื่อรวมกันคิด เดินไปข้างหน้า

วันนี้ เรากำลังใช้อารมณ์ มาตัดสิน แทนการใช้เหตุผลมาพูดจากัน.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด