ปลัดกทม.รับทราบข้อหาขยายเส้นทางเดินรถบีทีเอส
วันนี้ 17 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกทม. และนายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ อดีต ผอ.กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีที่มีการขยายเส้นทางสัมปทานใหม่ 2 เส้นคือ สายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน (S6) ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ (S8) ระยะทาง 2.2 กม.และสายสุขุมวิท สถานีบางจาก-สถานีแบริ่ง ระยะทาง 5.25 กม. โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้รับสัมปทานจากรมว.มหาดไทย ขัดประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ข้อ 4 และข้อ 11
โดยนางนินนาท เปิดเผยภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า ตนปฏิเสธทุกข้อหาและขอส่งเอกสารชี้แจงภายหลัง อย่างไรก็ตามการที่รมว.มหาดไทยมองว่ากทม.ทำโดยไม่มีอำนาจเป็นการมองคนละมุม และต้องรอให้คดีเข้าสู่การพิจารณาเพื่อจะให้เกิดความชัดเจน
ทั้งนี้ ตนไม่รู้สึกกังวลใจเพราะกทม.ดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยไม่ได้จ้างให้บีทีเอสดำเนินการแต่กทม.ลงทุนเองทั้งหมดและให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการแทน
ด้านพ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า เบื้องต้นนางนินนาท ได้ให้การปฎิเสธ ทุกข้อกล่าวหาและยังไม่ขอชี้แจง แต่จะส่งเป็นเอกสารมาภายใน 15 วัน ซึ่งหากไม่ชี้แจงตามกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ชี้แจง
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือซึ่งรวมถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปอีก 30 วัน แต่ดีเอสไอเห็นว่าเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปจึงจะทำหนังสือกำหนดนัดให้รับทราบข้อกล่าวหาใหม่ภายใน 10 วัน ทั้งนี้ คดีดังกล่าวพนักงานสอสวนได้สรุปสำนวนพร้อมที่จะส่งฟ้องแล้วเหลือเพียงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น