
“ราชทัณฑ์” ไม่พร้อมใช้อุปกรณ์คุมนักโทษ

วันนี้ 25 มี.ค. นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีมีประกาศกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจำคุกโดยวิธีอื่นที่ สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขต 2556
ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีดังกล่าวมีผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามเงื่อนไข 2 กลุ่มคือ กลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และกลุ่มที่ถูกจำคุกมาแล้ว 1ใน 3 และมีเหตุจำเป็นซึ่งเป็นไปตามประกาศกฎกระทรวงเช่น จำคุกแล้วเสี่ยงอาจเสียชีวิต จำเป็นต้องเลี้ยงดูบิดา มารดา หรือป่วยหนักต้องรักษาต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติหากเป็นการพักโทษต้องจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 จึงจะมีสิทธิพิจารณาพักการลงโทษ
ทั้งนี้ การใช้ดุลยพินิจว่าบุคคลใดไม่จำเป็นต้องคุมขังหรือปล่อยออกจากเรือนจำก่อน กำหนด หรือการกำหนดให้อยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งแทนเรือนจำ ถือเป็นอำนาจของศาล พร้อมยกตัวอย่างกรณีของนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องขังคดียักยอกทรัพย์บีบีซี
ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศแคนนาดาใช้วิธีควบคุมตัวไว้ในโรงแรม เพื่อไม่ให้หลบหนี หรืออาจมีการใช้เครื่องมืออิเล็คทรอนิกส์ควบคุมแทน แต่ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ ยังมีไม่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะใช้กับกลุ่มดังกล่าวรวมถึงสถานที่อื่น ที่จะใช้คุมขังแทนเรือนจำด้วย
นายกอบเกียรติ กล่าวต่อว่า การพิจารณาใช้วิธีการอื่นแทนการจำคุกกับบุคคลใดนั้นจะต้องผ่านการพิสูจน์ใน ชั้นศาลโดยเรือนจำจะมีบันทึกประวัติของผู้ต้องขังเพื่อให้ประกอบการพิจารณา ด้วยอยู่แล้ว โดยต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีผู้ต้องขังรายหลายต้องเข้าเรือนจำเพราะไม่ได้รับ การประกันตัวทั้งที่จริงแล้วอาจติดปัญหาเพียงเล็กน้อยในเรื่องการควบคุมตัว ซึ่งหากมีการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้จะช่วยลดจำนวนผู้ที่ต้องเข้าไป อยู่ในเรือนจำ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีผู้ต้องขังจำนวนเท่าใดที่เข้าข่าย สามารถใช้สิทธิดังกล่าว ทั้งนี้ ยืนยันว่าการออกกฎกระทรวงดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้ ต้องขังรายสำคัญ เนื่องจากกฎหมายให้อำนาจศาลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ โดยรมว.ยุติธรรม มีหน้าที่เพียงบริหารจัดและออกระเบียบให้สอดรับกับกฎกระทรวงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังออกจากเรือนจำแล้วกรมราชทัณฑ์จะไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงแต่จะมี กรมคุมประพฤติรับผิดชอบแทน
“ ขณะนี้สำนักงบประมาณยังไม่ได้อนุมัติงบให้จัดซื้ออุปกรณ์ เนื่องจากต้องรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน เพราะหากจัดซื้อล่วงหน้าแล้วกฎหมายไม่ออกจะเป็นการสูญเปล่า แต่ระหว่างที่ กฎหมายมีผลบังคับใช้หากมีญาติผู้ต้องขังไปยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ใช้ อุปกรณ์ควบคุมตัวภายนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ก็จะยื่นคัดค้านและชี้แจงว่ายังไม่มีความพร้อมเนื่องจากยังไม่ ได้จัดซื้ออุปกรณ์และยังไม่มีสถานที่ควบคุมตัวลักษณะอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ” นายกอบเกียรติ กล่าว
ด้านน.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติอยู่ระหว่างการศึกษาอุปกรณ์เพื่อเช่าใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุดได้หารือร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เพื่อขอให้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมกับทำร่างสัญญาจัดซื้อเนื่องจากกระทรวงไอซี ทีมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่กระทรวงไอซีทียังไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้ระบบควบคุมตัวในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ กรมคุมประพฤติก็จะเร่งดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมาย เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวนไม่มากเพราะยังเป็นแค่โครงการนำร่องและ เป็นระบบเช่าใช้อุปกรณ์พร้อมระบบสัญญาของเอกชน
ขณะที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการศึกษาและทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังต้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการบังคับใช้จริงที่ยังมีหลายส่วนที่ต้อง พิจารณา โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กรมราชทัณฑ์จะเป็นผู้เสนอขึ้นมา
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว