เปมิกา ปฏิเสธมอมยาประกิตเผ่าไม่รู้เรื่องสาร-เงิน20ล.

อธิบดีกรมสุขภาพจิต้ตือน อันตราย"เอฟริดีน"ถึงตาย!


ไม่รู้เรื่องมอมยา ประกิตเผ่า ฮุบสมบัติ เปมิกา ปฏิเสธ แม้ชื่อสาร เอฟริดีน กับประเด็น เงิน 20 ล้าน ก็เพิ่งเคยได้ยิน แต่ไม่ขอตอบโต้แม่กับพี่ชายหมอเผ่า เพราะเป็นผู้น้อย ย้ำให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ส่วนภรรยาตัวจริงขอบคุณสื่อมวลชน ช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจ


ด้านอธิบดีกรมสุขภาพจิต เผย นพ.ประกิตเผ่า ยอมรับการรักษาของแพทย์สถาบันกัลยาณ์ฯ ดี แจงข้อสังเกตของครอบครัวหมอเผ่า กรณี จิตวิทยาหมู่ ว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าผู้ชักจูงปากหวาน หว่านล้อมเก่ง พร้อมเตือนสังคมไทยตื่นตัวเรื่อง สารเอฟริดีน เพราะได้มาจากสมุนไพร มั่วอึ้ง เป็นส่วนผสมอยู่ในอาหารเสริมที่ช่วยสร้างความกระชุ่มกระชวย ใช้เกินขนาดอาจถึงตาย เตรียมดันร่าง พ.ร.บ.สุขภาพจิต หลังเกิดปัญหากรณี ประกิตเผ่า ด้าน ทนายวันชัย แนะข้อกฎหมายกักขังหน่วงเหนี่ยว

ภายหลังศาลมีคำสั่งเร่งด่วน


ให้ส่งตัว นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชา แอพพลายด์ฟิสิกส์ จากโรงพยาบาลศรี ธัญญาสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และปรากฏข้อเท็จจริงในการบำบัดรักษาอาการ ป่วยทางจิต


เน้นการตรวจพิสูจน์หาสารเคมีในร่างกาย


ว่ามีสารตัวใดที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อจิตประสาท โดยนัดพร้อมคู่ความไต่สวนอีกครั้งวันที่ 9 มี.ค. ขณะที่ครอบครัว "ทมทิตชงค์" แถลงข่าวตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ว่าถูกกระบวนการระดับ "มืออาชีพ" วางแผนจ้องฮุบทรัพย์สมบัติ พร้อมอธิบาย 7 ข้อสงสัยต่อสังคม ตามที่ "เดลินิวส์" เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ความคืบหน้าของเรื่องนี้


เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ครอบครัวของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ออกแถลงข่าวระบุว่า นพ.ประกิตเผ่าอาจถูกวางยาและถูกชักจูงโดยใช้จิตวิทยาหมู่จากผู้ไม่หวังดี ว่า ประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยาหมู่ หรือการใช้จิตวิทยาชักจูงโน้มน้าวคนอื่นในทางจิตวิทยามีความเป็นไปได้

แต่ต้องขึ้นอยู่กับคนที่ชักจูงจะต้องมีศิลปะในการพูดจาหว่านล้อมจูงใจ

และชักจูงคนได้ และผู้ที่ถูกชักจูงหากมีความเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่แล้วก็อาจจะถูกชักจูงได้ง่าย ยิ่งในกรณีที่มีการใช้ยาเข้ามาช่วยก็ยิ่งชักจูงได้ง่ายขึ้นอีก เหมือนกับเวลาคนดื่มเหล้า จากที่ไม่ค่อยพูด เวลาดื่มเหล้าเข้าไป แล้วเล่าเรื่องราวอะไรต่าง ๆ ออกมา ซึ่งเหล้าก็เป็นตัวการหนึ่งที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งพูด หรือระบายอะไรออกมา

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า


หากมีการชักจูงคนเข้ามาร่วมมาก ๆ อาจจะแสดง ออกเป็นลัทธิ เหมือนกรณีในต่างประเทศที่มีบางลัทธิชวนคนฆ่าตัวตายหมู่ โดยสมาชิกของลัทธิมีทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย หรือคนที่มีความรู้มาก ส่วนคนที่เป็นสมาชิกจะเรียกว่าสาวก แต่ในกรณีที่การชักจูงมีสมาชิกไม่มาก ก็อาจเป็นแค่กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคนมีความรู้ จึงถูกชักจูงได้


" อาจเป็นไปได้ว่า บางคนมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการส่วนตัว หรือมีอาการเจ็บป่วยอยู่แล้ว ประกอบกับมีปัญหาส่วนตัว เครียด เก็บกด ไม่มีที่ระบาย หาทางออกไม่ได้ เมื่อมีผู้มาชักจูง ก็อาจทำให้ความเชื่อที่มีอยู่แล้วเชื่อมากขึ้น ทำให้ถูกชักจูงได้ง่าย หรืออาการป่วยกำเริบ โดยเฉพาะเรื่องไสยศาสตร์ ปาฏิหาริย์ ที่สังคมไทยมีความเชื่ออยู่แล้ว หากไม่มีใครมาชักจูงก็คงไม่เป็นไร" นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวและว่า

การชักจูงที่มีการพูดถึงกันมาก คือ การสะกดจิต

โดยใช้คำพูดและบรรยากาศในการชักจูง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ในอดีตมีการใช้การสะกดจิตเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวช เพื่อให้ผู้ป่วยเล่า หรือระบายสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเอง แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว

เมื่อถามว่า แสดงว่าคนที่ทำจิตวิทยาหมู่ได้ต้องเรียนมาหรือไม่


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า คนที่มิใช่นักจิตวิทยาก็สามารถชักจูงหรือโน้มน้าวคนอื่นได้ จะเห็นได้จากกรณีที่มีแก๊งตกทอง หรือหลอกขายพระว่าเป็นพระรุ่นดัง คนเหล่านี้พูดเก่ง แต่บางทีก็ต้องมีหน้าม้าร่วมกระบวนการด้วย

เมื่อถามว่าคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะมีบุคลิกอย่างไร

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่าจะมีบุคลิกที่ผิดปกติ หรือครึ่ง ๆ กลาง ๆ ชอบเรียกร้องความสนใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นของตัวเอง แม้จะแลกด้วยอะไรก็ตาม เวลาพูดทำให้คนอื่นสงสารได้ แต่มีสิ่งซ่อนเร้นอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี

ต่อข้อถามที่ว่า กรณีที่ทางครอบครัวนพ.ประกิตเผ่า ระบุว่ามีการทำพินัยกรรม หากสืบทราบว่า นพ.ประกิตเผ่า ทำโดยไม่มีสติสัมปะชัญญะแสดงว่าทุกอย่างก็เป็นโมฆะใช่หรือไม่

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า ก็ต้องเป็นเช่นนั้น โดยกระบวนการยุติธรรมจะรับฟังความเห็นจากจิตแพทย์ หากสืบสวนแล้วผลออกมาเป็นเช่นนั้นจริง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากรณีการทำพินัยกรรมส่วนมากจะเกิดกรณีผู้สูงอายุเท่านั้น เช่น กรณีผู้ป่วยสมองเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์ หากสืบทราบว่ามีปัญหาก่อนทำพินัยกรรมทุกอย่างก็เป็นโมฆะ

เมื่อถามถึงอาการ นพ.ประกิตเผ่า ที่ถูกนำตัวไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าจากที่ได้รับรายงาน ขณะนี้ทุกอย่างก็ปกติ คนไข้อยู่ในการดูแลของแพทย์ และก็ยอมรับการรักษา ไม่ได้ขัดข้อง

มีอีกเรื่องที่สังคมไทยจะต้องตื่นตัว คือ


การได้รับสารเอฟริดีนเข้าไปในร่างกายมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการทางจิตได้ ซึ่งสารนี้มาจากพืชสมุนไพร (Ephedra Herb) หรือที่เรียกภาษาจีนว่า มั่วอึ้ง (Ma Hung) พบมากในแถบจีน อินเดีย ปากีสถาน มีการนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และนักกีฬานิยมยาสมุนไพรนี้เป็นยาโด๊ปเพราะช่วยลดไขมัน ลดความอยากอาหาร ทำให้กระชุ่มกระชวย"


นพ.อภิชัยกล่าวและว่า


ตนเชื่อว่าท้องตลาดของเมืองไทยมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผสมสมุนไพรจีนชนิดนี้อยู่ ถ้านำไปใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นประโยชน์กับร่างกาย แต่หากใช้ปริมาณมาก และผิดทางก็จะเกิดโทษ เพราะสารที่ได้จากสมุนไพรนี้ออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ และระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการความดันโลหิตสูง ระบบหัวใจและระบบประสาททำงานผิดปกติ เกิดอาการวิตกกังวล สั่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม ชัก หัวใจวาย และถึงแก่ชีวิตได้

ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ย่านพุทธมณฑลสาย 4


สถานที่ที่ นพ.ประกิตเผ่า พักรักษาตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเงียบเหงา เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ประกอบกับตามคำสั่งศาลที่ห้ามไม่ให้ทุกฝ่ายยุ่งเกี่ยวกับ นพ.ประกิตเผ่า จึงไม่มีญาติของ นพ.ประกิตเผ่า มาเยี่ยมแต่อย่างใด มีเพียงกลุ่มผู้สื่อข่าวที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่หน้าสถาบันฯ และคณะแพทย์ ที่หมุนเวียนกันมาดูแลอาการของหมอเผ่าเท่านั้น

ส่วนความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่าย


นางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า กล่าวสั้น ๆ กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สังคมเข้าใจ แต่ตอนนี้ทางครอบครัวก็ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณหมอ เพราะเคารพคำสั่งศาล

ขณะที่ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่า ให้สัมภาษณ์ว่า

เพิ่งทราบเรื่องที่ครอบครัวของคุณหมอแถลงข่าวว่ามีการวางแผนมอมยา นพ. ประกิตเผ่า เพื่อหวังฮุบสมบัติ ตนเชื่อว่าตอนนี้เรื่องเริ่มคลี่คลายมากแล้ว ยังยืนยันว่าแค่อยากให้พี่หมอได้ออกมาพูดเท่านั้น ถึงตอนนี้อยู่ในดุล พินิจของศาล ศาลท่านดูแลพี่หมออยู่ ในส่วนของตนคิดว่าจบหน้าที่ที่เพื่อนคนหนึ่งจะทำให้เพื่อนได้แล้ว ทั้งอาจารย์เพลินจิต และคุณหมอประกิตพันธ์ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่ คงไม่เหมาะสมที่ผู้น้อยอย่างตนจะไปพูดจาตอบโต้อะไร ขอให้ทุกอย่างอยู่ที่ดุลพินิจของศาลดีกว่า ส่วนเรื่องสารเอฟริดีน และเรื่องเงิน 20-30 ล้านบาทนั้น ก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน

ด้านนายวันชัย สอนศิริ นักกฎหมายชื่อดัง อดีตเลขาธิการสภาทนายความ


ให้ความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการกักขังหน่วงเหนี่ยวในกรณีทั่วไป ไม่เจาะจงรายใดรายหนึ่ง ว่าแม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่มีสิทธิหรืออำนาจในการส่งคนในครอบครัวไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งโดยพลการ เพราะหมายถึงการกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ


กรณีสถานที่คือโรงพยาบาลรักษาอาการทางจิตนั้น


เหตุผลทางกฎหมายที่คนในครอบครัวไม่มีสิทธิ หรืออำนาจคือ คนในครอบครัวที่ถูกส่งตัวเข้าไปอยู่นั้นไม่ได้เป็นบ้า หรือไม่ได้เป็นโรคจิตเภทจริง และไม่ยินยอม หมายความว่าบุคคลนั้นมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ หากใครที่ฝ่าฝืนตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือครอบครัวเดียวกัน ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา "ยกตัวอย่างคนเป็นโรคมะเร็ง แม้คนไข้จะรู้ตัว แต่ไม่ยินยอมให้หมอผ่าตัด หมอก็ทำไม่ได้

ส่วนกรณีป่วยจิตเภทจริง คือเป็นโรคจิต และผู้ป่วยไม่รู้ตัว

จึงไม่ทราบว่าจะยินยอมหรือไม่ ด้วยสองเหตุ ผลนี้เท่านั้นญาติจึงจะนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ แต่ถ้าไม่เข้าข่ายทั้งสองเหตุผล คนกระทำจะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีมือลึกลับอ้างตัวเองเป็นนิสิตสาวจุฬาฯ


ที่เรียนคณะเดียวกับ น.ส.เปมิกา โพสภาพหญิงสาวอ้างเป็นรูป น.ส.ศิวพร เหลืองเรณูกุล เปรียบเทียบกับภาพ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต ไปตามอีเมล์ของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ โดยระบุว่าเป็นหญิงคนเดียวกัน แต่เป็นภาพก่อนทำศัลยกรรมใบหน้าที่ซอยอารีย์แล้วเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่

จากการตรวจสอบประวัติของน.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หรือเป หญิงสาวคนสนิทของหมอเผ่า พบว่า


น.ส.เปมิกา มีชื่อ-นามสกุลเดิมว่า ศิวพร เหลืองเรณูกุล

ชื่อเล่น อุ๋ย

ต่อมาวันที่ 21 ม.ค. 46 เปลี่ยนชื่อเป็น ชิศา

จากนั้นวันที่ 11 มี.ค. 46 เปลี่ยนจาก ชิศา กลับมาใช้ ศิวพร ตามเดิม

ต่อมาวันที่ 26 ต.ค. 49 เปลี่ยนชื่อและนามสกุลอีกครั้ง จากศิวพร เหลืองเรณูกุล เป็น เปมิกา วีรชัชรักษิต

ปัจจุบันอายุ 25 ปี

ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 158 ซ.โรหิตสุข แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

ทั้งนี้น.ส.เปมิกา เคยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า


ชื่อ เปมิกา และนามสกุล วีรชัชรักษิต ที่ใช้ในปัจจุบันนั้น หมอเผ่าเป็นคนตั้งให้ โดยเปมิกา แปลว่า "หญิงอันเป็นที่รัก" ปัจจุบันน.ส.เปมิกา เรียนอยู่ปี 4 คณะจิตวิทยา จุฬาฯ เคยเรียนเกี่ยวกับเรื่องยาที่มหิดล

นอกจากนี้ เพื่อนร่วมคณะจิตวิทยา จุฬาฯ เปิดเผยว่า

ระยะหลังน.ส.เปมิกาขับรถโตโยต้า คัมรี่ ป้ายแดง ทะเบียน ษห-9999 กทม. ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้นั่งรถเมล์มาตลอด


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์